- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 01 December 2014 22:59
- Hits: 2675
BBL คาด จีดีพี ปี 58 โตมากกว่า 4% ส่งออกโต มากกว่า 7% หวังมาตรการลงทุนรัฐดัน ศก.เดินหน้า พน้อมเชื่อ ธปท. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุด Q1/58
BBL คาด จีดีพี ปี 58 โตมากกว่า 4% -ส่งออกโต มากกว่า 7% หวังมาตรการลงทุนรัฐดัน ศก.เดินหน้า พน้อมเชื่อ ธปท. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดช่วงปลายไตรมาสแรกปี 58 รับแนวโน้ม ศก.ฟื้น ส่วนการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ ยันไม่กระทบสถาบันการเงิน เชื่อแบงก์ต่างๆ ไม่ปล่อยกู้รายเล็ก
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีของไทยปี 2558 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 4% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐเป็นสำคัญ โดยธนาคารมองว่าหากภาครัฐมีความชัดเจนในเรื่องของการลงทุน จะส่งผลให้ภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุนมาเป็นเวลานานเริ่มลงทุนตามด้วย ขณะที่การส่งออกในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 7% เนื่องจากฐานปีนี้ค่อนข้างต่ำ
"เรื่องใหญ่คือการลงทุนภาครัฐต้องเป็นรูปธรรม ส่งสัญญาณให้ชัดเจน จะได้ส่งผลให้เอกชนที่อั้นการลงมาเป็นเวลานานนั้น เริ่มลงทุนได้ เพราะเอกชนมีความพร้อมอยู่แล้ว เริ่มก่อน 2-3 โครงการที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟรางคู่ เป็นต้น"นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการส่งออกนั้นหลายภาคส่วนประเมินไว้ปีหน้า 7-9% เนื่องจากฐานปีนี้ค่อนข้างต่ำ ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องมา 2 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ยังพลว่าการส่งออกที่ชะลอตัวลงส่วนใหญ่อยู่ในหมวดยานยนต์เท่านั้น ขณะที่การส่งออกด้านอื่นขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาด CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียรมาร์ และเวียดนาม ที่มีสัดส่วนถึง 20%
ส่วนอัตราเงินเฟ้อนั้น ประเมินว่า ไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล โดยอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงมาจากราคากพลังงานที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยในระยะต่อไป คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.จะเริ่มพิจารณาปรับขึ้นอัตราาดอกเบี้ยเร็วที่สุดภายในช่วงไตรมาส 1/2558 - ต้นไตรมาส 2/2558 เนื่องจากธปท.เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่จะเริ่มเห็นในช่วงกลางปีหน้าด้วย
"ตอนนี้ส่งออกมันเริ่มดี การบริโภคเริ่มฟื้นตัว เหลือเพียงการลงทุนที่ต้องการความชัดเจนจากภาครัฐ ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจดี คงไม่ใช่เวลาที่ธปท.จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจมันดีขึ้นเรื่อยๆคงเป็นจังหวะที่เริ่มขึ้น เช่นเดียวกับของธนาคารกลางสหรัฐ"
ขณะที่มาตรการปล่อยกู้ภาครัฐนั้น จะสามารถช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น นายกอบศักดิ์ มองว่า ทั้งมาตรการกระตุ้นด้านภาษี การกระตุ้นการจับจ่าย การจ่ายเงินให้ชาวนาวงเงิน 40,000 ล้านบาทนั้นคงไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก เนื่องจากสิ่งสำคัญที่จะสร้างเม็ดเงินมหาศาล คือการลงทุนของภาครัฐ ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
นายกอบศักดิ์ เปิดเผยถึงแนวทางของรัฐในการจัดตั้งโครงการนาโนไฟแนนซ์ เพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับรายย่อย ว่า จะไม่เป็นการสร้างความเสี่ยง หรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารอย่างแน่นอน เนื่องจากมองว่าการปล่อยกู้นาโนไฟแนนซ์จะปล่อยกู้ให้กับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำมาก ซึ่งเชื่อว่าสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์จะไม่สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน
"ที่ผ่านมาผู้มีรายได้น้อยเขามีหนี้อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เข้าถึงการเงิน แต่เขาเข้าถึงนอกระบบ ซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นจะช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยเข้ามาอยู่ในระบบ ไม่ถูกขูดรีดจากดอกเบี้ยราคาแพง จากนายทุนต่างๆ แต่สำหรับแบงก์คงเป็นรายที่เล็กเกินไป เขาอาจไม่สนใจเข้าร่วม เนื่องจากต้นทุนอาจไม่คุ้ม"นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าว จะเป็นการช่วยผู้ที่มีรายได้ต่ำสามารถเข้ามาอยู่ในระบบ และลดการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนต่างๆที่คิดอัตราดอกเบี้ยในราคาแพง
ส่วนการปรับปรุง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่...)พ.ศ....ว่าด้วยค้ำประกัน และจำนองนั้น ขณะที่สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปทซ อยู่ระหว่างการปรึกษาหารือและติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
BBL คาดส่งออกปี 58 โตกว่า 7%จากฐานปีนี้ต่ำ ดัน GDP โตกว่า 4%
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 58 จะเติบโตได้อย่างน้อย 4% โดยปัจจัยที่จะเข้ามาผลักดันให้ GDP ขยายตัวมองว่ามาจาก การลงทุนภาครัฐฯเป็นหลัก โดยเชื่อว่าหากการลงทุนภาครัฐฯออกมาชัดเจนเชื่อวืภาคเอกชนจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและกลับมาลงทุนอีกครั้ง
ขณะที่ภาคการส่งออกคาดว่าจะเติบโตได้อย่างน้อย 7% โดยปัจจุบันมีสัญญาณที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าการส่งออกหลักๆที่ชะลอตัว คือ ยานยนต์เท่านั้น ขณะที่การส่งออกด้านอื่นๆยีงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาด CLMV ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียรมาร์ และเวียดนาม ที่มีสัดส่วนถึง 20%
สำหรับ อัตราเงินเฟ้อนั้น ประเมินว่า ไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล โดยอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงมาจากราคาพลังงานที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
"เรื่องสำคัญในปัจจุบันคือการลงทุนของภาครัฐฯที่ต้องสร้างความชัดเจนและทำให้เกิดขึ้นจริงให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้เอกชนมีความเชื่อมั่น และกลับมาลงทุนอีกครั้ง ซึ่งในขณะนี้เองภาคเอกชนมีความพร้อมที่จะลงทุน ซึ่งหากภาครัฐฯมีการลงทนให้เห็นชัดเจนก่อน ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟรางคู่ โครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ จะทำให้มีความเชื่อมั่นและกลับมาลงทุนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการส่งออกเองตอนนี้ก็เริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ตัวที่ฉุดการส่งออกมากๆนั้นเป็นเพียงแค่กลุ่มยานยนต์เท่านั้น แต่โดยรวมแล้วการส่งออกด้านอื่นๆยังถือว่าดี"นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยว่า หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง ทั้งการส่งออก และการบริโภค ก็เริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงมองว่าโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพิจารณาลดดอกเบี้ยลงจะไม่เกิดขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ มองว่า มองว่า ธปท.จะเริ่มพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดภายในช่วงไตรมาส 1/58 - ต้นไตรมาส 2/58 เนื่องจากธปท.เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายคงเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
สำหรับ การปล่อยกู้ในโครงการนาโนไฟแนนซ์ให้รายย่อยนั้น นายกอบศักดิ์ เชื่อว่าจะไม่เป็นการสร้างความเสี่ยง หรือส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารอย่างแน่นอน เนื่องจากมองว่าการปล่อยกู้นาโนไฟแนนซ์จะปล่อยกู้ให้กับกลุ่มที่มีรายได้ต่ำมาก ซึ่งเชื่อว่าสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์จะไม่สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน
โดยมองว่าโครงการดังกล่าว จะเป็นการช่วยผู้ที่มีรายได้ต่ำสามารถเข้ามาอยู่ในระบบ และลดการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนต่างๆที่คิดอัตราดอกเบี้ยในราคาแพง
อินโฟเควสท์