- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 04 November 2014 20:20
- Hits: 3680
TBANK หั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือแค่ทรงตัวจากปีก่อน หลังสินเชื่อรถยนต์หดตัว แต่ปีหน้าคาดโต 5%-คุมเอ็นพีแอลต่ำ
TBANK หั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือแค่ทรงตัวจากปีก่อน หลังสินเชื่อรถยนต์หดตัว แต่ปีหน้าคาดโต 5%-คุมเอ็นพีแอลกว่า4% มองกลุ่มเช่าซื้อจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งช่วงกลางปี 59 พร้อมตั้งเป้ารุกสินเชื่อเอสเอ็มอีปีหน้า ตั้งเป้าปล่อย5,000 ลบ.
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ-กลยุทธ์และการเงิน ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือTBANKเปิดเผยว่า ธนาคารปรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมในปีนี้ลงอาจเติบโต 0% จากเดิมที่คาดว่าสินเชื่อรวมจะขยายตัวได้ใน 7% เนื่องจากอัตราการเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ (Hire Purchase) หดตัวลง ซึ่งธนาคารมีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรถยนต์มากที่สุดอยู่ที่ 55% จากพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด จากการที่ภาพรวมของอุตสากรรมรถยนต์ในปีนี้อยู่ในสภาวะที่ซบเซาประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศไม่ดี ทำให้กำลังซื้อหายไป อย่างไรก็ตามสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ยังมีการเติบโตได้ดี
ทั้งนี้ ในสิ้นปี 56 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 7.8 แสนล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ราว 7 แสนล้านบาท ซึ่งยอดสินเชื่อคงค้างที่ชดลงมาจากการชำระหนี้ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดสินเชื่อคงค้างในปีนี้คาดจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกันที่ 7.8 แสนล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรจากดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียงที่ 3%
สำหรับ ประมาณการเติบโตของสินเชื่อในปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 5% จากปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตมาจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งธนาคารจะเริ่มรุกสินเชื่อ SMEs มากขึ้น ซึ่งยังมีโอกาสในการเข้าไปทำตลาดอยู่มาก โดยในปี 58 สัดส่วนของพอร์ตสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อมจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันที่มีสัดส่วนที่ 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม อย่างไรก็ตามในปี 58 พอร์ตสินเชื่อรถยนต์จะลดลงต่ำกว่า 50%
"สินเชื่อรถยนต์ของบริษัทที่มีสัดส่วนมากที่สุดเป็นสินเชื่อที่มีอายุนานพอสมควร การที่ปีหน้าสัดส่วนลดลงเพราะว่าเวลาลูกค้าชำระหนี้ ยอด out standing ของสินเชื่อรถยนต์มันก็ลดลงไปและภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ยังไม่ดีขึ้นก็คาดว่าสินเชื่อรถยนต์อาจจะเติบโตได้ค่อนข้างช้า ทำให้สัดส่วนมันก็ไม่เพิ่มขึ้น"นายอนุวัติร์ กล่าว
ทั้งนี้ สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของธนาคารในปัจจุบันแบ่งเป็น สินเชื่อรถยนต์ 55%, สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและใหญ่30%, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 10% และสินเชื่อรายย่อยและอื่นๆ 5%
ส่วนระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารในปี 57 คาดว่าจะอยู่ระดับมากกว่า 4% โดย ณ สิ้นไตรมาสมาส 3/57 ระดับ NPL ของธนาคารอยู่ที่ 4.5% สำหรับปี 58 ธนาคารจะพยายามคุมระดับ NPL ให้ต่ำกว่า 4%
"ที่ NPL ปีหน้าเราจะคุมให้ต่ำกว่า 4% เพราะเราจะมีการขายหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่เห็นได้จากไตรมาส3 ที่ผ่านมา NPL ของธนชาตหดตัวลงอย่างต่อเนื่องจากต้นปีและจะเริ่มต่ำลงซึ่งจะเห็นอย่างชัดเจนในปีหน้า และในปีหน้าการตั้งสำรองฯของธนาคารก็จะลดลงไม่ถึง 1% ของพอร์ตสิเชื่อ เพราะเรามีการคุม NPL ให้ลดลง โดยตอนนี้เราตั้งสำรองอยู่ที่ 1%ของพอร์ตสินเชื่อรวม"นายอนุวัติร์ กล่าว
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีหลักประกันและธุรกิจเงินฝากธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK เปิดเผยว่า ในปีนี้ภาพรวมธุรกิจเช่าซื้อของธนาคารยังคงชะลอตัว แต่หากเทียบกับปี 2554 ถือว่าเติบโต 2% โดยมียอดคงค้างที่ 400,000 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่สินเชื่อเช่าซื้อชะลอตัวลง เนื่องจากมาตรการคืนภาษีรถคันแรก ส่งผลให้มีดีมานหรือความต้องการซื้อรถถูกใช้ไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
"ปีนี้ที่มันไม่โตต้องยอมรับว่าจากรถคันแรก ดีมานมันถูกดึงไปใช้แล้ว โดยยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ระดับ400,000 ล้านบาท โดยยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1" นายประพันธ์ กล่าว
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ของกลุ่มเช่าซื้อ ยืนยันว่ามีการลดลงอย่าวต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ2.4% และคาดว่าสิ้นปีจะใกล้เคียงที่ระดับ 2% เนื่องจากธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เช่น มีการปรับเพิ่มวงเงินดาวน์จากช่วงที่มีการแข่งขันสูงจากปกติ 5-10% เพิ่มขึ้นเป็น 15% รวมทั้งมีการบริหารจัดการหนี้เสีย การปรับโครงสร้างหนี้เป็นต้น
ส่วนสถานการณ์การยึดรถนั้นมีปริมาณค่อนข้างน้อยลง เพราะธนาคารมีการผ่อนปรนให้กับลูกค้า เช่น การยืดเวลาในการชำระหนี้ ซึ่งปัจจุบันในแต่ละเดือนพบว่า มีลูกค้ามาขอผ่อนปรนการชำระหนี้ประมาณ 1% ของสินเชื่อทั้งหมด
ทั้งนี้ ธนาคารมองว่ากลุ่มเช่าซื้อจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในช่วงกลางปี 59 ส่วนการดำเนินธุรกิจในปีหน้านั้นธนาคารคาดว่ารถแลกเงินจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนรถแลกเงินรวมรถเก่า30% และรถใหม่ 70% ซึ่งธนาคารยังคงเป้าหมายสัดส่วนนี้ต่อไป
นายสนอง คุ้มนุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TBANK เปิดเผยว่า ในปี 58 ธนาคารจะรุกเอสเอ็มอีรายย่อย หรือ SMEs เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 5,000 ล้านบาทหรือเติบโตเลข 2 หลัก จากปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท
"สาเหตุที่ส่งผลให้ธนาคารปรับกลยุทธ์มารุกเอสเอ็มอีมากขึ้น เนื่องจากมองว่ากลุ่มดังกล่าวยังมีผู้ประกอบการอีกมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินได้ และมีความต้องการสินเชื่อและสภาพคล่องเพื่อขยายธุรกิจจำนวนมาก โดยวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารจะปล่อยนั้นประมาณรายละไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี"นายสนอง กล่าว
ทั้งนี้ นายสนอง มองว่า กลุ่มเอสเอ็มอีเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ธนาคารยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันมีฐานลูกค้าเพียง 20,000 รายเท่านั้น ส่งผลให้ยังมีโอกาสในการขยายตัวของสินเชื่อได้แน่นอน
"ราพยายามเจาะกลุ่มนี้เพราะเขายังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ถ้าเราไม่ปล่อยเขาจะเอาเงินจากไหนมาขยายกิจการเราพยายามช่วยเต็มที่ ผ่อนปรนอะไรที่มันเข้มจนเกินไป"นายสนอง กล่าว
ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่น่าสนใจ และคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ในอนาคต คือ กลุ่มอพาร์ตเม้นท์ วัสดุก่อสร้าง ร้านอาหาร เป็นต้น
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย