- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 24 March 2021 16:09
- Hits: 2237
ริปเปิล แต่งตั้ง บรู้คส์ เอ็นท์วิสเซิล ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
ดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ริปเปิล (Ripple) ผู้ให้บริการโซลูชั่นบล็อกเชนระดับองค์กรสำหรับการชำระเงินทั่วโลกได้ประกาศแต่งตั้ง มร. บรู้คส์ เอ็นท์วิสเซิล ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นผู้นำทัพและขยายการดำเนินธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด
ริปเปิลแสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับลูกค้าปัจจุบัน อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ iRemit และแถลงว่าทาง บีเคเค ฟอเร็กซ์ (BKK Forex) ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินธุรกรรมการโอนเงินสัญชาติสิงคโปร์ได้เข้าร่วมกับ RippleNet เครือข่ายทางการเงินระดับโลกของริปเปิล เพื่อดำเนินธุรกรรมสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในการโอนเงินจากสิงคโปร์ไปยังประเทศไทย
ผู้เชี่ยวชาญในวงการด้านการเงินและเทคโนโลยีร่วมงานกับริปเปิลในจังหวะที่การเติบโตของฟินเทคในภูมิภาคนี้กำลังรุ่ง
บรู้คส์ เอ็นท์วิสเซิล จะประจำอยู่ที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ริปเปิลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขานำประสบการณ์การบริหารระดับสูงที่สั่งสมมากว่าสามทศวรรษทั้งในด้านบริการทางการเงินและแวดวงเทคโนโลยี โดยมีพันธกิจในการผลักดันการนำสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนมาใช้ในภูมิภาค การแต่งตั้งครั้งนี้ประจวบเหมาะและเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังดำเนินธุรกิจเชิงรุกและขยายเครือข่าย RippleNet ไปทั่วภูมิภาคซึ่งตอนนี้ครอบคลุมกว่า 14 ประเทศ
ก่อนร่วมงานกับริปเปิล บรู้คส์ดำรงตำแหน่งสุดท้ายในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ (ระหว่างประเทศ) ของ อูเบอร์ (Uber) ซึ่งเขาเป็นผู้นำกลยุทธ์การเติบโตในระดับภูมิภาคโดยการเปิดตัวอูเบอร์ในตลาดใหม่ และดำเนินการผ่านความท้าทายด้านกฎระเบียบทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ก่อนที่จะร่วมงานกับอูเบอร์นั้น เขาทำงานที่โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) มานานกว่าสองทศวรรษและยังเป็นหุ้นส่วนและประธานธุรกิจการธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แอชชีช เบอร์ลา (Asheesh Birla) ผู้จัดการทั่วไปฝ่าย RippleNet ที่ ริปเปิล กล่าวว่า “ระบบนิเวศการชำระเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างมาก โดยมีรูปแบบเฉพาะในแต่ละประเทศที่ค่อนข้างซับซ้อนซึ่งต้องใช้องค์ความรู้ ความเข้าใจเชิงลึกเป็นอย่างมาก การนำ RippleNet มาประยุกต์ใช้ท่ามกลางบริษัทฟินเทคที่มีอยู่อย่างมากมายในภูมิภาคนี้ รวมทั้งผู้ให้บริการการชำระเงิน และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดทั้งในเง่ความต้องการของลูกค้าและการเติบโตของธุรกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ต้อนรับ บรู้คส์ มานำธุรกิจของริปเปิลให้เติบโตขึ้นเป็นทวีคูณและขยายการเติบโตออกไปอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคที่น่าอัศจรรย์แห่งนี้”
บรู้คส์ เอ็นท์วิสเซิล กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ ริปเปิล กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับริปเปิลเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคที่สำคัญนี้ ด้วยประสบการณ์ของผมในการช่วยสร้างและขยายบริษัททั้งในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและเทคโนโลยีในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา การเข้าร่วมงานกับผู้นำในวงการอย่างริปเปิลถือว่าตรงทางและตรงใจเพราะเป็นธุรกิจที่มีการบรรจบกันระหว่างเทคโนโลยีและการเงิน และรวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายในภูมิภาคนี้ซึ่งมีการเติบโตของนวัตกรรมการชำระเงินสูงสุดและต่อเนื่อง ผมตั้งตารอที่จะได้เป็นผู้นำทีมงานที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและพรสวรรค์ ในขณะที่เราขับเคลื่อนอนาคตของโลกการเงินผ่านการนำRippleNet มาประยุกต์ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ”
ธุรกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 10 เท่าในปี 2563 โดยได้รับแรงหนุนจากลูกค้าปัจจุบันของ RippleNet และเครือข่ายธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้าร่วม
จากผลของการแพร่ระบาดไวรัสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้อุปสรรคในการนำการชำระเงินดิจิทัลมาใช้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงและได้กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดบน RippleNet ในปี 2563 จำนวนลูกค้าที่ได้ลงนามเซ็นต์สัญญาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปีและภูมิภาคนี้มีธุรกรรม RippleNet เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบเป็นรายปีอีกด้วย
การเติบโตที่หาคู่แข่งเทียบได้ยากของภูมิภาคนี้ได้รับแรงหนุนที่แข็งแกร่งจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของ RippleNet รวมถึงธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ทำธุรกรรมบน RippleNet ได้สำเร็จกว่าครึ่งล้านรายการในปี 2563 ซึ่งเป็นการเติบโตถึง 300% สำหรับปริมาณการโอนเงินเข้าประเทศและการโอนเงินออกไปต่างประเทศที่เติบโตขึ้น 600% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยแอปพลิเคชั่น SCB Easy ของธนาคารซึ่งทำงานบน RippleNet ช่วยให้ลูกค้าสามารถโอนเงินได้แบบเรียลไทม์และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกเพื่อส่งไปยังครอบครัวและเพื่อนๆ ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ
ธนาคารไทยพาณิชย์ใช้เครือข่าย RippleNet เพื่อเชื่อมต่อกับสถาบันการเงินทั่วโลกซึ่งเป็นการเปิดช่องทางเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้บริการลูกค้าได้มากขึ้นอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ในปี 2563 ธนาคารได้สร้างการเชื่อมต่อใหม่เพิ่มอีก 7 ช่องทางบน RippleNet ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ บีเคเค ฟอเร็กซ์ (BKK Forex) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการโอนเงินและแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการในสิงคโปร์
บีเคเค ฟอเร็กซ์ เชื่อมต่อกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และผู้ให้บริการโซลูชั่นทางการเงินเช่น DeeMoney ผ่าน RippleNet Cloud เพื่อดำเนินธุรกรรมให้แก่กลุ่มลูกค้า SME และการโอนชำระเงินจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย และทำให้คนไทยมากกว่า 45,000 คนที่พำนักอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ได้ใช้ประโยชน์จากการโอนเงินกลับบ้านเป็นประจำ การใช้ RippleNet Cloud ทำให้ บีเคเค ฟอเร็กซ์ สามารถโอนเงินและรับการชำระเงินระหว่างสถาบันการเงินด้วยการบูรณาการอย่างเรียบง่ายสำหรับประมวลผลการชำระเงินข้ามพรมแดนได้ทันที เชื่อถือได้ และประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งหมดทำผ่านบนระบบคลาวด์
ลูกค้ารายล่าสุดต่อจาก บีเคเค ฟอเร็กซ์ และสถาบันการเงินอื่นๆ อีกหลายสิบแห่งที่ใช้งาน RippleNet Cloud อยู่แล้วคือ iRemit ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโอนเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) รายใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้ใช้โซลูชั่น On-Demand Liquidity (ODL) ของ RippleNet เป็นรายแรกๆ iRemit ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล XRP ซึ่งเป็นสกุลเงินกลางที่นำมาใช้เพื่อเพื่อขจัดปัญหาในการจัดหา/วางเงินล่วงหน้าในการชำระเงินข้ามพรมแดน ด้วยเหตุนี้การส่งเงินโดยการโอนไปยังประเทศปลายทางที่มีอัตราการรับเงินโอนอันดับต้นๆ ของโลกอย่างฟิลิปปินส์จึงทำได้อย่างรวดเร็วและถูกกว่าระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิม
A3835
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ