WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กรุงไทยเจอหนี้เน่าเพิ่มกว่า 1.1 หมื่นล.

       แนวหน้า : กรุงไทยเจอหนี้เน่าเพิ่มกว่า 1.1 หมื่นล. จากกลุ่มSMEและลูกค้ารายย่อยเหตุเศรษฐกิจในประเทศไม่ฟื้นตัว

    นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยผลประกอบไตรมาส 3/2557 เปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2556 ว่ายังคงเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจหลักโดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ17,489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.85% ซึ่งมาจากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น110 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.82% ทำให้ไตรมาส 3มีกำไรสุทธิ 9,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.23% เมื่อรวมงวด9 เดือนมีกำไรสุทธิ 25,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.49%จากช่วงเดียวกันของปี 2556

    เงินให้สินเชื่อ 1,800,967 ล้านบาทเพิ่มขึ้น จากสิ้นปี 2556 จำนวน 89,877 ล้านบาทคิดเป็น 5.25% เพิ่มจากลูกค้ารายย่อยและลูกค้าภาครัฐเป็นหลักยอดเงินฝาก 1,903,139 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 19,358 ล้านบาทคิดเป็น 1.03% มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ(NPLs) 67,467 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11,009 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.50% ส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อยบางส่วนซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เรายังคงดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

    ทั้งนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 2/2557 ได้ปรับการกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรายเดือนเพิ่มจากเดือนละ500 ล้านบาท เป็น 700 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกันสำรองเพิ่มเติมในไตรมาส 2 จำนวน 3,000 ล้านบาท ทำให้งวด 9 เดือน ธนาคารตั้งสำรองรวม 9,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.62% เมื่อเทียบกับปีก่อน ณ 30 กันยายน 2557 มีเงินกองทุนรวมเท่ากับ 297,802 ล้านบาท คิดเป็น 15.85% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงของธนาคารแห่งประเทศไทย และหากนับรวมกำไรสุทธิไตรมาส 3/2557 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนจะอยู่ที่ 16.35% ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้มีความแข็งแกร่ง และขยายธุรกิจได้ตามแผน

     นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 มีกำไรสุทธิ 900.0 ล้านบาทลดลง 60.6 ล้านบาท หรือ 6.3% เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2556 สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 16.8% และค่าเผื่อหนี้สูญเพิ่มขึ้น 67.4% ซึ่งเป็นผลจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในอดีตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 ขณะที่กำไรก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 3.4%

     NPLs อยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 3.3% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับณ วันที่ 31 ธันวาคม2556 อยู่ที่ 2.5% เป็นผลจากการชะงักตัวของภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่มีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล ลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบอย่างใกล้ชิด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!