- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 15 October 2019 19:47
- Hits: 3771
โกลบอล แคปปิตอล กรุ๊ป ให้ความรู้นักลงทุนไทย รับมือ AI ในการลงทุนสู่คลื่นลูกที่สาม
โกลบอล แคปปิตอล กรุ๊ป (Global Kapital Group: GKG) เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เศรษฐกิจ ร่วมสัมมนาเปิดตัวศูนย์การเรียนรู้การลงทุนระดับโลก Global Kapital Investment Academy ในหัวข้อ “Disruptive Change in Investment เปิดประตูสู่โลกการลงทุนยุคใหม่” ให้ความรู้นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี พร้อมประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง GKG และสโมรสรฟุตบอลระดับตำนาน อาร์เซนอล
โกลบอล แคปปิตอล กรุ๊ป (Global Kapital Group: GKG) กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินการธนาคารและการลงทุนชั้นนำของโลก ด้วยเทคโนโลยีการเงิน (Financial Technology: FinTech) และการธนาคาร (Banking) ที่ล้ำสมัย เปิดตัวศูนย์การเรียนรู้การลงทุนในเมืองไทย ในชื่อ Global Kapital Investment Academy อย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อส่งมอบความรู้ด้านการลงทุนที่ทันสมัยจากต่างประเทศ เชื่อมต่อโอกาสการลงทุนแก่นักลงทุนไปทั่วโลก การเปิดตัวศูนย์เรียนรู้ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญในแวดวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมาร่วมพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกการลงทุน ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังอย่างล้นหลาม
ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ นักพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ที่ปรึกษาธุรกิจ จริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศองค์กรกำกับดูแลนวัตกรรมด้านวิศวกรรมศาสตร์และสื่อสารสนเทศสากล (IEEE TEMS) บรรยายในหัวข้อ “AI ในโลกการลงทุน” โดยระบุว่าปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) จนพัฒนาเข้าสู่เทคโนโลยี AI คลื่นลูกที่สาม หรือ Third Wave AI โดยใช้หลักการเหตุและผลร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนกระบวนการอัตโนมัติและกระบวนการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนในภาคธุรกิจและการเงิน อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาให้ใช้งานได้สะดวกสบายผ่านมือถือ โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Open Source
สำหรับในส่วนภาคการเงินนั้น หากนำ AI คลื่นลูกที่สามมาใช้จะช่วยคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจ ซึ่งจะช่วยเรื่องการลงทุนทั้งตลาดหุ้นและการลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อกังวลเรื่อง AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์นั้นเห็นว่า AI จะไม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้เนื่องจากกระบวนการคิดวิเคราะห์ วางแผน และการตัดสินใจของมนุษย์ มีเหตุและผลรองรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เทคโนโลยี AI ยังทำไม่ได้
ดร.ศุภชัย สุขะนินทร์ กรรมการหลักสูตร Ultra Wealth Group และ Fivewhales ซึ่งเป็นหลักสูตรการลงทุนระดับมหาเศรษฐีของเมืองไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทในการลงทุน การทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนควรเตรียมความพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกลและเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ใน 3 ประเทศหลัก ได้แก่ จีน อิสราเอล และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีไปไกลมากทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้การทำธุรกิจผ่านมือถือ การใช้ระบบ QR Code การปล่อยกู้ผ่าน Application โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน และที่สำคัญประเทศจีนได้ปรับแผนการพัฒนาและการใช้ AI ให้เร็วขึ้น 5 ปี จากปี 2030 เป็นปี 2025
“จีนยังมีบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มบริษัท TOP 10 ที่มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านล้านดอลลาร์ มีประชากร 1 ใน 3 ของโลก และมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือจำนวนมาก ดังนั้นการหา โอกาสเข้าไปลงทุนในประเทศจีนจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดี” ดร.ศุภชัย กล่าว
ดร.ศุภชัย เผยในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงนักลงทุนควรเตรียมรับโดยเลือกการลงทุนดังนี้ 1.ลงทุนในสิ่งใหม่ๆ ที่มีแนวคิดฉีกไปจากกรอบเดิม 2.ลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากไอทีและเทคโนโลยีใหม่ๆ 3. มองหาโอกาสลงทุนธุรกิจที่อยู่ในกระแสเป็นเทรนด์ฮิตของคนในสังคม และ 4.ลงทุนในจีน
นายธำรงชัย เอกอมรวงศ์ หรือ หยง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้นทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้ AI ที่แท้จริงเข้ามามีบทบาทในการลงทุนมากขึ้น ส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การลงทุนในขณะนี้เป็นการกำหนดโปรแกรมการลงทุนโดยการประมวลคำสั่งหรือการตั้งระบบ ยังไม่ใช่ AI ที่แท้จริงลักษณะเดียวกับอัลฟาโกะ ที่สามารถแข่งขันโกะชนะ 5 มือโปรระดับประเทศของประเทศจีน และมือเซียนโกะประเทศอื่นๆ ได้
อย่างไรก็ตามในการลงทุนเชื่อในการลงทุนแบบ CFD หรือการซื้อขายส่วนต่าง (Contract For Difference-CFD) คือการลงทุนเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาสินค้าที่กำหนด เช่น ทองคำ เงิน น้ำมัน ดัชนี (Index) ซึ่งถือเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ เช่น กรณีการลงทุนในอนุพันธ์ หากเลือกลงทุนถูกตัว มีกำไรก็ใส่เงินเพิ่ม โดยเงินที่ใส่เพิ่มนั้นเป็นเงินที่มาจากมาร์จิ้น ทำให้มี Power of Leverage แต่ในทางกลับกันหากขาดทุนต้องรีบตัดขายออกจากพอร์ต เป็นการบริหารความเสี่ยงและวิธีการลงทุนแบบนี้เป็นเทคนิคที่ทำให้พอร์ตลงทุนเติบโตได้ ทำให้นักลงทุนสามารถออกไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งลงทุนในอนุพันธ์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดเฉพาะการลงทุนในหุ้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการประกาศร่วมมือระหว่าง โกลบอล แคปปิตอล กรุ๊ป (Global Kapital Group) กลุ่มบริษัทชั้นนำระดับโลก ด้านเทคโนโลยีการเงิน การลงทุนและการธนาคารมีแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมการเงินและการลงทุนอยู่ทั่วโลก เช่น GKFX, GKFX Prime, GK Pro และ GK Invest กับทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกกับตำนานพรีเมียร์ลีกอย่าง อย่าง สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (Arsenal Football Club) มาเป็นพันธมิตร ในสัญญาความร่วมมือเป็นระยะเวลานาน 3 ปี
โดย นางสาวอนามิกา สินธนนพคุณ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค โกลบอล แคปปิตอล กรุ๊ป เผยว่า ทางบริษัท อยู่ระหว่างวางแผนจัดกิจกรรมร่วมกับทางสโมสรอาร์เซนอลตลอด 3 ปีนับจากนี้ ทั้งกิจกรรมที่สร้างประโยชนต่อสังคม กิจกรรมส่งเสริมการตลาด และกิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุน
AO10301
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web