- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 04 September 2019 19:36
- Hits: 3139
EXIM BANK สนับสนุนผู้ส่งออกไทยรุกตลาดอินเดียอย่างมั่นใจ ใช้เครื่องมือทางการเงินเจาะตลาดและขยายธุรกิจใหม่ๆ ในแต่ละรัฐ
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวในงานสัมมนา “อินเดีย : หน้าต่างแห่งโอกาส (India : The Window of Opportunities)” จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ผู้ประกอบการไทยควรต้องบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศควบคู่กับการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ โดยทางเลือกหนึ่งคือ การขยายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ อินเดีย ซึ่งมีศักยภาพด้านขนาดพื้นที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประชากรอินเดียทำให้เกิดความต้องการในการบริโภคที่หลากหลาย
นายอดุลย์ กล่าวว่า ในการเจาะตลาดอินเดียให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการไทยต้องเข้าใจความหลากหลายของอินเดียและดำเนินกลยุทธ์การตลาดโดยสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรัฐ อาทิ รัฐมหาราษฏระ มีมุมไบเป็นเมืองหลวง มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจอินเดียมากที่สุด ผู้ประกอบการไทยควรเจาะตลาดกลุ่มชนชั้นกลาง และเชื่อมโยงการผลิตสินค้าในซัพพลายเชนของอินเดีย รัฐทมิฬนาฑู มีเจนไนเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางการผลิตของอินเดีย มีเขตเศรษฐกิจพิเศษมากที่สุดถึง 40 แห่ง มีแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะวิศวกรจำนวนมากที่สุดในประเทศอินเดีย ผู้ประกอบการไทยอาจจะเข้าไปลงทุนได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น สิ่งทอ อาหารแปรรูป ยานยนต์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐคุชราตมีคานธีนาการ์เป็นเมืองหลวง มีความพร้อมด้านคลัสเตอร์ โครงสร้างพื้นฐาน และกฎระเบียบที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ มีท่าเรือขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เหมาะกับการตั้งฐานการผลิตเพื่อขายในประเทศและส่งออก
กรรมการ EXIM BANK กล่าวต่อไปว่า รัฐที่มีศักยภาพลำดับต้นๆ ของอินเดียส่วนใหญ่อยู่บริเวณฝั่งตะวันตกและตอนใต้ของประเทศ ซึ่งแต่ละรัฐมีความโดดเด่นและปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน คลัสเตอร์อุตสาหกรรม กฎระเบียบ และขนาดตลาด ผู้ประกอบการไทยควรมองอินเดียในลักษณะ 1 รัฐ เท่ากับ 1 ประเทศ เพื่อศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละรัฐก่อนจะรุกเข้าไปทำธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนเครื่องมือทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจเข้าไปในอินเดีย ทั้งด้านเงินทุนหมุนเวียน เงินทุนระยะกลางถึงระยะยาว ประกันการส่งออก และประกันความเสี่ยงการลงทุน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมและความมั่นใจในการรุกเข้าตลาดอินเดีย สามารถแข่งขันได้ในทางธุรกิจและบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากคู่ค้าในอินเดีย
ทั้งนี้ อินเดียเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 10 ของไทย การค้าระหว่างไทยและอินเดียมีมูลค่า 12,463.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปอินเดีย 7,600.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขณะที่ไทยนำเข้าจากอินเดีย 4,863.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าจากอินเดียที่สำคัญ ได้แก่ อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
“EXIM BANK พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยบุกตลาดใหม่อย่างอินเดีย โดยสนับสนุนข้อมูลความรู้ อาทิ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละรัฐ ซึ่งทําให้การเลือกพื้นที่ในการดําเนินธุรกิจเป็นสิ่งสําคัญอันดับต้นๆ รวมทั้งสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ ด้วยความพร้อมด้านเงินทุนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อจะได้แข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายอดุลย์กล่าว
EXIM Thailand Supports Thai Entrepreneurs’ Penetration of Indian Market with Financial Tools for Market Making and New Business Expansion in Each Indian State
Mr.Adul Chotinisakorn, Director General of Department of Foreign Trade, Ministry of Commerce, and Director of Export-Import Bank of Thailand (EXIM Thailand) revealed at a seminar titled “India: The Window of Opportunities” held by EXIM Thailand in collaboration with the Ministry of Commerce at Siam Kempinski Bangkok Hotel that, amid the global economic uncertainties as a result of the prevailing trade war between the US and China, Thai entrepreneurs should manage international trade risk in conjunction with exploring new business opportunities. One of the options is to expand trade and investment to new frontier markets with high potential, such as India, the seventh largest country in the world with the world’s second largest population as well as tremendous cultural diversity, hence demand for consumption in great variety.
Mr. Adul said that, to successfully enter the Indian market, Thai entrepreneurs need to understand its diversity among Indian states and devise a market strategy that can respond to demand of consumers in each state. For example, the state of Maharashtra with Mumbai as the capital has the most significant role in Indian economy. Entrepreneurs should approach middle-class consumers and build linkage into Indian supply chains. Meanwhile, Tamil Nadu state with Chennai as the capital is the production hub of India and home to the country’s largest number of special economic zones, i.e. approximately 40 with the largest pool of skilled labor force, particularly engineers. Prospective industries for Thai entrepreneurs include textile, processed foods, automobile and information technology. Moreover, Gujarat state with Gandhinagar as the capital is well equipped with industrial clusters, infrastructures and rules and regulations conducive to business operation as well as large seaports ranking among the top of the country, making the state a prime location for setting up production base for both domestic distribution and export.
EXIM Thailand Director further said that principal Indian states with high potential are mostly situated in the western and the southern regions of the country. Each state has remarkable features of its own and different business environment from one another in respect of availability of infrastructures, industrial clusters, rules and regulations, and market size. Each state should be viewed and treated as one single country so that its specific characteristics are focused before business engagement. EXIM Thailand stands ready to render supports to Thai entrepreneurs aspiring to start up or expand business in India with provision of full-fledged financial tools, comprising working capital as well as medium- and long-term financing, export credit insurance and investment insurance. This aims to enable Thai entrepreneurs to be ready and confident in penetrating Indian market, having sufficient competitiveness and efficiency in trade and investment risk management and free from concerns about Indian buyers and counterparts’ non-payment.
India is Thailand’s tenth largest export market. Thai-Indian trade reaches 12,463.75 million US dollars in value, comprising Thai export to India worth 7,600.32 million US dollars and Thai import from India of 4,863.43 million US dollars. Major export goods from Thailand include chemicals, plastic resin and air-conditioners and parts, while main import goods from India are gems, silver billet and gold, and mechanical machinery and parts.
“EXIM Thailand is ready to support Thai entrepreneurs in their penetration of new frontier markets such as India by, among others, offering of knowledge and information on cultural diversity among Indian states. This will facilitate their selection of the right location which is one of the top priorities for business establishments. Credit and insurance facilities are also available to enhance entrepreneurs’ access to new business opportunities in the forms of both trade and investment finance and risk management tools to ensure their competitiveness on a stable and sustainable basis,” added Mr. Adul.
Click Donate Support Web