- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 18 April 2019 18:48
- Hits: 1622
ทีเอ็มบี มุ่งขยายฐานลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Get MORE with TMB ส่งผลให้เงินฝากเติบโตต่อเนื่อง ด้านสินเชื่อยังเน้นความรอบคอบ บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย และมีกำไรสุทธิที่ 1,579 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2562
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 โดยธนาคารสามารถขยายฐานเงินฝากมาอยู่ที่ 6.61 แสนล้านบาท หรือเติบโต 1.8% จากไตรมาสที่แล้ว ตามการขยายตัวของเงินฝากลูกค้ารายย่อย ด้านสินเชื่ออยู่ที่ 6.87 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.2% หนุนโดยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับกำไรสุทธิมีจำนวน 1,579 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการบันทึกค่าใช้จ่าย one-time สำหรับ Employee Retirement Benefit ตามพรบ.คุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไขใหม่ ส่วนคุณภาพสินทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วน NPL อยู่ในระดับทรงตัวที่ 2.81% ขณะที่สัดส่วนสำรองฯ ต่อ NPL (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 145%
นายปิติ ตัณฑเกษม กล่าวว่า “ทีเอ็มบียังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์การใช้เงินฝากเป็นตัวนำ โดยการขยายฐานลูกค้าผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก เมื่อรู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้าแล้วจึงค่อยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ ประกัน และการลงทุน ซึ่งที่ทีเอ็มบี เราไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่าง หากแต่ยังมอบสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าให้กับลูกค้าภายใต้แนวคิด Get MORE with TMB อย่างเช่นล่าสุดในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ทีเอ็มบีได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของประกันอุบัติเหตุ คุ้มครอง 20 เท่าของเงินฝาก หรือสูงสุด 3 ล้านบาท ให้กับลูกค้าTMB All Free ที่มีเงินฝากในบัญชี 5,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจากความตั้งใจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้ทีเอ็มบีสามารถขยายฐานลูกค้าและเงินฝากได้อย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 ทีเอ็มบีมีเงินฝากเติบโต 1.8% หนุนโดยเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยจากผลิตภัณฑ์หลัก หรือ Flagship product ได้แก่ TMB All Free (+2%) และ TMB No Fixed (+3%) รวมทั้งเงินฝากในรูปแบบดิจิทัล ME Save (+7%)
ด้านสินเชื่อ ธนาคารเน้นขยายสินเชื่อใหม่ควบคู่กับการดูแลคุณภาพสินเชื่อในพอร์ตปัจจุบันอย่างรอบคอบ โดยในส่วนของการให้สินเชื่อใหม่นั้น พอร์ตที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ พอร์ตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย (+6%) สำหรับพอร์ตสินเชื่อลูกค้าธุรกิจปรับตัวลดลงจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งผลจากการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเอสเอ็มอีขนาดกลาง ส่งผลให้พอร์ตลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีขนาดกลางลดลง จึงทำให้ในภาพรวมสินเชื่อเติบโตได้ที่ 0.2%
ในส่วนของรายได้ ทีเอ็มบีมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6,236 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2562 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ เริ่มเห็นการฟื้นตัวของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย หรือ NIM ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 2.89% จาก 2.86% ในไตรมาสก่อน ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 12.9% มาอยู่ที่ 2,280 ล้านบาท ตามรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า
รายได้จากการดำเนินงานรวมจึงอยู่ที่ 8,517 ล้านบาท ลดลง 3.8% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 4,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายพนักงาน โดยในไตรมาส 1 นี้ ธนาคารมีการบันทึกค่าใช้จ่ายสำหรับเงินชดเชยโครงการผลประโยชน์พนักงานหลังออกจากงานเมื่อเกษียณอายุ (Employee Retirement Benefit) ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงานฉบับแก้ไขใหม่ ซึ่งเป็นการบันทึกแบบ one time ทำให้ทีเอ็มบีมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ ที่ 3,790 ล้านบาท ลดลง 9.3% ซึ่งหลังจากหักสำรองฯ จำนวน 1,839 ล้านบาท และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,579 ล้านบาท ลดลง 7.2% อย่างไรก็ดี หากไม่รวมค่าใช้จ่ายรายการพิเศษดังกล่าว ทีเอ็มบีจะมีกำไรสุทธิ 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากไตรมาสก่อน
ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ภาพรวมยังคงเป็นไปตามเป้าหมายปี 2562 ของธนาคารที่จะบริหารจัดการสัดส่วน NPL ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2.9% และคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อหนี้เสียให้สูงกว่า 140% ซึ่งในไตรมาส 1 ปี 2562 ธนาคารมีสัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.81% และอัตราส่วนสำรองฯ ต่อหนี้เสีย ซึ่งสะท้อนความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอยู่ในระดับสูงที่ 145%
ท้ายสุด ในส่วนของระดับความเพียงพอของเงินกองทุน ทีเอ็มบี มีอัตราส่วน CAR และ Tier I ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2562 อยู่ที่ 17.5% และ 13.7% เป็นไปตามเกณฑ์ Basel III และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 11.0% และ 8.5% ตามลำดับ
TMB aims to expand customer base with Get MORE with TMB strategy, which has resulted in continuous growth in deposit. The Bank remains prudent on loan side. Asset quality is well-managed as target. The net profit for the first quarter of 2019 recoded at THB1,579 million
TMB Bank Public Company Limited today announced its financial results for the first quarter of 2019. The Bank expanded its deposit base further by 1.8% from the previous quarter (QoQ) to THB661 billion, driven by retail segment. Meanwhile, loan grew by 0.2% QoQ to THB687 billion, backed by mortgage. Net profit was reported at THB1,579 million or decreased by 7.2% QoQ, due mainly to lower non-interest income (Non-NII) coupled with the one-time set-up of employee retirement benefit following the latest revision of the Thai Labor Protection Act. Asset quality is on-track. Of which, NPL ratio stayed at 2.81%, while coverage ratio remained at a high level of 145%.
Mr.Piti Tantakasem, CEO of TMB, said “TMB has focused on deposit-led strategy by expanding its customer base through flagship deposit products. Once learned and understood our customers, we then offer them other products and services including loans, bancassurance, and investment that fit and answer their financial needs. At TMB, we do not only Make THE Difference on products and services but would also like to offer more benefits to the customers under Get MORE with TMB strategy i.e. TMB recently offers more benefits in the form of accident insurance with coverage up to 20 times of deposit or maximum of THB3 million to TMB All Free customers who has maintained balance of THB5,000 at minimum. With genuine and continuing to offer products and benefits, TMB can expand its customer base and deposit continuously.”
Consequently, TMB has generated deposit base growth of 1.8% for the first three months of 2019, which supported by retails segment through flagship products – TMB All Free (+2%), TMB No Fixed (+3%) and including digital saving product, ME Save (+7%).
In term of lending, the Bank focused on growing new loan and managing the asset quality of existing portfolio with prudence. New loan expansion was backed by a continuous growth from retail mortgage portfolio (+6%). Whereas, corporate loan decreased, mainly from large corporates’ repayment and a portfolio improvement especially in medium SME segment. As a result, the Bank saw a decline in large corporate and medium SME. Total loan therefore grew at 0.2% QoQ.
On the revenue side, TMB registered Net Interest Income (NII) for the first quarter of 2019 of THB6,236 million, flat QoQ. The Bank started to see the recovery of its Net Interest Margin (NIM) which slightly improved to 2.89% from 2.86% in the previous quarter. At the same time, Non-Interest Income (Non-NII) dropped by 12.9% QoQ to THB2,280 million, mainly due to lower net fee income in comparable to the fourth quarter of the previous year.
As a result, total operating revenue was posted at THB8,517 million, declined by 3.8% QoQ. The Operating expenses rose by 0.5% QoQ to THB4,738 million, primarily due to the one-time set-up of employee retirement benefit following the latest revision of the Thai Labor Protection Act. As a result, the Bank registered Pre-Provision Operating Profit (PPOP) of THB3,790 million which decreased by 9.3% QoQ. After provision of THB1,839 million and tax, net profit was reported at THB1,579 million which dropped by 7.2% QoQ. Note that, if excluded the one-time expense, TMB would have generated net profit of THB1,862 million which rose 9.5% QoQ.
In terms of asset quality, the overall outlook was in line with 2019 target of which the Bank aims to keep its NPL ratio below 2.9% and NPL coverage ratio above 140%. In the first quarter of 2019, TMB reported NPL ratio of 2.81% and NPL coverage ratio which reflected a risk-absorption ability, stayed at high level of 145%.
Lastly, capital adequacy ratio (CAR) and Tier 1 ratio for the first quarter of 2019 stayed at 17.5% and 13.7%. The figures were in line with Basel III framework and higher than the Bank of Thailand’s minimum requirement of CAR at 11.0% and Tier 1 at 8.5%.
Click Donate Support Web