- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Friday, 21 December 2018 18:15
- Hits: 1213
กสิกรไทย ไพรเวทแบงก์ ขมวดปี 2018 ด้วยรางวัลไพรเวทแบงก์ยอดเยี่ยมจาก 4 สถาบันระดับโลก พร้อมปรับกลยุทธการลงทุนเข้าโหมดเฝ้าระวังช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
KBank Private Banking ประกาศความสำเร็จธุรกิจต่อเนื่องตลอดปี 2561 พร้อมครองตำแหน่งผู้นำให้บริการไพรเวทแบงกิ้งในไทย ด้วยลูกค้ากว่า 11,000 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งหมดประมาณ 7.5 แสนล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง ประกาศเดินหน้าพร้อมผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก ลอมบาร์ด โอเดียร์ เป็นปีที่ 4 มอบบริการระดับสากล ทั้งในส่วนของคำแนะนำการลงทุนทั้งในและนอกตลาดทุน รวมถึงบริการด้านอื่นๆ อย่างครบวงจร ตั้งเป้าปี 2562 สร้างรายได้เติบโต 8%
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทยในปี 2561 ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดการลงทุนจะมีความท้าทายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการเติบโตของจำนวนลูกค้าและสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) โดยมีจำนวนลูกค้า 11,000 ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมดประมาณ 7.5 แสนล้านบาท ซึ่งจำนวนลูกค้าเติบโตขึ้น 8% และ AUM เติบโต 0.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ตลอดปี 2561 KBank Private Banking ไม่หยุดยั้งพัฒนาบริการคำแนะนำ ผลิตภัณฑ์และบริการในทุกมิติ อาทิ ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย เพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้า โดยในปีนี้ได้นำเสนอกองทุนใหม่ ซึ่งล้วนเป็นกองทุนที่ลงทุนในภูมิภาคที่มีศักยภาพ เน้นการกระจายความเสี่ยงและบริหารจัดการความผันผวนอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เช่น กองทุน K-EUSMALL กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กของยุโรป (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) และ กองทุน K-CCTV กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน A-Shares เน้นหุ้นจีนศักยภาพดีและมีแนวโน้มเติบโตสูง พร้อมใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงเพื่อควบคุมความผันผวน นอกจากนี้ ยังมีการออกผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบการคุ้มครองเงินต้น เพื่อให้ลูกค้าคลายความกังวลจากตลาดที่คาดเดาได้ยากในช่วงที่ผ่านมา
บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารสินทรัพย์ครอบครัว (Family Wealth Planning Service) ดำเนินการให้ความรู้ คำปรึกษาช่วยวางแผนและดำเนินการตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยขยายขอบเขตจากลูกค้าในกรุงเทพฯ ครอบคลุมลูกค้าในภูมิภาค 17 จังหวัดสำคัญทั่วประเทศ ให้บริการลูกค้าได้ประมาณ 550 ราย โดยมีการให้คำแนะนำในเรื่องการจัดการทรัพย์สินในครอบครัวแง่มุมต่างๆ ที่ลูกค้ามีความกังวล ไม่ว่าจะเป็น การจัดทำธรรมนูญครอบครัว การวางแผนโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ การวางแผนภาษี การวางแผนการส่งต่อทรัพย์สิน เป็นต้น
บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารสินทรัพย์นอกตลาดทุน (Non-capital Market Investment) อาทิ
- Private Equity: Preferred Share ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือภายในธนาคาร ที่แนะนำ (refer) ลูกค้านักลงทุนพบกับเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกการลงทุนมากขึ้น โดยมีส่วนร่วมในการระดมเงินลงทุนได้แล้วกว่า 560 ล้านบาท
- การให้บริการที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีลูกค้ากว่า 80 ราย มีความสนในส่งที่ดินในครอบครองมาปรึกษาเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินจากทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยมีจำนวนที่ดินในฐานข้อมูลกว่า 600 แปลง รวมมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
- Land Loan for Investment เป็นการแนะนำให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากที่ดินในครอบครอง ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ขาดสภาพคล่อง โดยนำมาเป็นหลักประกันสร้างสภาพคล่องเพื่อต่อยอดการลงทุนโดยมีลูกค้าสนใจนำที่ดินมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาทเข้าโครงการ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อกว่า 3 พันล้านบาท
- ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ออกแบบพิเศษสำหรับลูกค้า Private Banking อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมโยงกับเครื่องมือการลงทุน เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้าและผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่พัฒนาขึ้นจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
บริการไพรเวทแบงกิ้งสำหรับลูกค้าจีนและลูกค้าที่สื่อสารด้วยภาษาจีนเป็นหลักที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ซึ่งเป็นปีแรกที่ธนาคารเริ่มรุกบริการไพรเวทแบงก์ลูกค้าจีน อย่างจริงจังเพื่อรองรับลูกค้าชาวจีนที่อาศัยอยู่ในไทย 10 ล้านคน โดยสร้างความเติบโตของจำนวนลูกค้า กว่า 164% AUM เติบโต 47% และรายได้เติบโต 56% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำหรับ ปี 2562 ธนาคารฯ เตรียมมอบคำแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่จะสร้างความมั่นใจและสบายใจให้กับลูกค้าในภาวะที่จะมีการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนในหลายด้าน ในด้านการลงทุน ธนาคารฯ พร้อมให้คำแนะและผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมความพร้อมให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่ปีที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ระยะท้ายของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Late cycle) อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งเตรียมพัฒนา Global Investment Platform เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ส่วนการบริหารทรัพย์สินด้านอื่นๆ ธนาคารฯ เตรียมโซลูชั่นเพื่อรองรับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะออก เพื่อช่วยลูกค้าเตรียมพร้อมและมีแผนการบริหารจัดการและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ภาษีที่ดินที่จะบังคับใช้ในปี 2563 และกฎหมายทรัสต์ เป็นต้น นอกจากนี้ ธนาคารฯ จะขยายขอบเขตการให้บริการด้านการให้คำปรึกษาการบริหารทรัพย์สินครอบครัวสู่ลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย และเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการต่างๆ ที่ธนาคารฯ พัฒนาขึ้นมาได้อย่างสะดวก ธนาคารฯ มีแผนการพัฒนาช่องทางดิจิทัล ซึ่งต่อยอดจากระบบ Core Banking ระดับโลกที่ธนาคารได้เริ่มใช้งานแล้วในปีที่ผ่านมา
นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 ถือเป็นปีที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อตลาด ไม่ว่าจะเป็น การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจาก 2 เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มน้ำหนักความกังวลต่อการเติบโตที่ช้าลงของเศรษฐกิจโลก นำโดยสหรัฐฯ เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจฟื้นตัวและเติบโตติดต่อกันเข้าสู่ปีที่ 10 (จากปี 2009) และกำลังเข้าสู่ระยะท้ายของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Late cycle) ทำให้ผลตอบแทนในสินทรัพย์ทุกประเภทปรับลดลง นับจากนี้ ความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณา มี 4 เรื่องหลัก คือ 1) เศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ เข้าสู่จุดอิ่มตัว และประเทศอื่นๆ จะตามมา 2) ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเพิ่มผันผวนให้ตลาด 3) การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจและการบริโภคสูงขึ้น และ 4) กลยุทธ์แข่งขันการเป็นผู้นำโลกในอนาคตระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จะไม่หยุดแค่ข้อพิพาททางการค้า
สำหรับ แนวทางการลงทุนที่ ธนาคารฯ จะแนะนำลูกค้าในปี 2562 จะแบ่งลูกค้าเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ลูกค้าที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อภาวะตลาดระยะสั้น ธนาคารฯ จะแนะนำให้สำรองสภาพคล่อง ปรับลดความเสี่ยงการลงทุนให้น้อยลง ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงในหลายๆ สินทรัพย์ โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีในตลาด เพราะที่ผ่านมาตลาดดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2562 ถือเป็นปีที่ควรเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงที่เศรษฐกิจจะขยายตัวช้าลง ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมคือพันธบัตรระยะยาวทั่วโลก และหุ้นกู้แปลงสภาพ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในบางภูมิภาคยังน่าลงทุน อยู่กลยุทธ์ที่เหมาะสมไม่ใช่การลงทุนตรงๆ ตามทิศทางตลาดเช่นในอดีต กลยุทธ์ใหม่ที่จะตอบโจทย์ ได้แก่ การใช้ข้อมูล เทคโนโลยี
และความสามารถของทีมจัดการกองทุนในกลยุทธ์ Long/Short (ซื้อและขายสินทรัพย์พร้อมกัน โดยซื้อกลุ่มสินทรัพย์ที่คาดว่าผลตอบแทนจะดีกว่าอีกกลุ่มสินทรัพย์หนึ่งทั้งในตลาดขาขึ้นและลง) หรือสร้างกลไกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการควบคุมความเสี่ยง (Managed Volatility) สำหรับลูกค้ากลุ่มที่สอง ที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดระยะสั้นได้ ธนาคารฯ ยังแนะนำให้ลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารแนะนำมาโดยตลอด อย่าง Global Multi Asset ที่จะหาผลิตภัณฑ์มาเพิ่มเติม การจัดตั้งกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มหุ้นกู้ที่มีระยะเวลาครบกำหนดใกล้เคียงกันและพอคาดการณ์ผลตอบแทนได้ กองทุน Private Equity ที่ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพสูงนอกตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก และการลงทุนที่สอดคล้องไปกับธีมการเปลี่ยนแปลงของโลกในระยะยาว เช่น AI, Next Gen Tech, และ SmartCity ทั้งนี้ ธนาคารฯ ยังคงเน้นปรัญชาการลงทุน Stay Invested มากกว่าจากจับจังหวะลงทุน (Market Timing)”
นอกเหนือจากบริการด้านการลงทุนและบริหารจัดการทรัพย์สินที่ครบถ้วนทุกความต้องการที่สุดในไทยแล้ว KBank Private Banking ยังให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดปรัชญา /When Your Wish is More Than Wealth/ ที่หมายถึง การบริหารจัดการทุกเรื่องราวของชีวิต เพื่อความมั่งคั่งที่สมบูรณ์ ที่ไม่ได้หมายถึงแค่มูลค่าของทรัพย์สิน แต่ยังหมายถึงการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงการต่อยอดและแบ่งปันไปสู่มิติอื่นๆ ผ่าน“PERFECT WEALTH” e-Multimedia Publication ที่ได้รับการถ่ายทอดโดยบุคคลต้นเรื่องซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารฯ จำนวนรวม 15 ท่าน (มี 3 ฉบับ ฉบับละ 5 ท่าน) สามารถติดตามชมได้ที่ https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking
Click Donate Support Web
KBank Private Banking ends the year with four awards granted by global institutions
Revising investment strategies toward more cautious move amid slowing economy
KBank Private Banking announces its consistent success throughout 2018, securing Thailand’s private banking leadership with more than 11,000 clients and assets under management (AUM) of THB750 billion, up 8 percent. Ongoing development will be carried on along with world-renowned business ally – Lombard Odier – that has partnered with KBank for four consecutive years. Through this cooperation, world-class investment services are offered, including capital market and non-capital market advice, and other comprehensive services. For 2019, income growth is targeted at 8 percent.
Mr.Jirawat Supornpaibul, Private Banking Group Head of KASIKORNBANK (KBank), said “Business operations of KBank Private Banking have continued to grow, although the investment market has been more challenging than last year. Growth is confirmed by the rise in the number of customers to a total of 11,000 and assets under management that have amounted to THB750 billion, up 8 percent and 0.2 percent over 2018, respectively.
Throughout 2018, KBank Private Banking has developed its products and services in all aspects, as follows:
· Diverse investment products: The new funds are those that focus on regional investment, risk diversification and systemic volatility management in order to enhance investors’ confidence. These funds include K-EUSMALL that invests in mid- and small-cap stocks of Europe (excluding the UK) and K-CCTV that invests in A-shares of China, with emphasis on stocks of high growth potential. Both funds are equipped with risk management strategies to prevent from volatilities. In addition, new products have been designed on a concept of principal protection to ease investors’ concern on unpredictable market conditions.
· Family wealth planning service: The service, including provision of useful knowledge and advice, has been extended from customers in Bangkok to 17 important provinces across Thailand. Advice has been given to around 550 customers on family asset management, with respect to preparation of family charter, planning of efficient asset holding structure, tax planning and asset succession planning.
· Advisory service on non-capital market investment, e.g.:
- Private Equity: Preferred Share - Under this project, KBank introduces investors to property developers with high potential, so that the customers have more investment options. Up to the present, the project has assisted in fund raising of more than THB560 million.
- Land Loan for Investment: KBank provides advice to customers on the use of land under their ownership, which is deemed as non-liquid assets. Such land can be used as collateral to enhance liquidity for further investment. As a result, customers have brought their land of more than THB6 billion into the project to obtain total credit limit of more than THB3 billion.
- Life insurance products exclusively designed for Private Banking clients: For example, product linked with investment tools to create greater returns to customers and health insurance product developed on insights of actual customers’ needs.
· Private Banking service for Chinese customers and Chinese-speaking customers residing in Thailand: This year is the first year of KBank’s launch of this service to serve 10 million Chinese customers in Thailand. Compared to 2017, the number of customers has grown 164 percent, while AUM and income has increased 47 percent and 56 percent, respectively.
“For 2019, KBank is preparing to advise on products and services that will make our customers feel confident and content amid changes and uncertainties in many areas. On the investment front, we may recommend products that can cope with the economy entering the late cycle phase while improving our global investment platform to help them reach numerous investment products at home and abroad. Regarding asset management, we have solutions in place to help our customers brace for new laws, including the land and building tax law, which is scheduled to be enacted in 2020, as well as the trust law. KBank will also expand the scope of our family asset management advisory service to upcountry. To ensure greater convenience for our customers in using various services, we are planning to improve our digital channel, based on the world-class core banking system adopted by KBank in 2018,” added Mr. Jirawat.
“This year, there have been a series of events with negative repercussions on the market, including the Fed rate hike and the US-China trade war. They add to the market anxiety over deceleration of the world’s economic expansion, led by the US economy which is approaching its late cycle phase (from 2009) after 10 years of growth. Hence, the returns on every class of assets have generally trended downward. Looking ahead, investors have to take into consideration four major risk factors: 1) Large economies such as the US economy are reaching saturation point and the others are set to follow suit; 2) Concerns over the global economic slowdown will increase the market volatility; 3) A rise in policy rate will heighten the business and consumption costs; and 4) The battle for global dominance between the US and China will not stop at trade war.
Regarding investment recommendations for our customers next year, KBank will categorize our customers into two groups. First, for those who are sensitive to short-term market sentiment, KBank will recommend them to build liquidity reserves and reduce their investment risks by diversifying risks into various asset classes. KBank will present new products that never existed in the market before due to the continuous favorable market performance. Next year, investors should get ready for the slowdown of the economic growth and appropriate investment products are long-term international bonds and convertible bonds. In addition, stock markets in certain regions are still attractive, if only investors use suitable investment strategy rather than following market trends as seen in the past. New strategic solutions include the use of data, technology and expertise of the fund management team in applying the Long/Short strategy (buying and selling assets concurrently by buying assets that are expected to give better returns than the others during both cyclical upturn and downturn) or creating Managed Volatility investment mechanism. For the second group of customers who can take short-term market fluctuations, KBank will continue to recommend them to aim for long-term investment such as investing in Global Multi-Asset funds which will be further presented by KBank, funds established to invest in debentures with similar maturity periods and predictable returns, Private Equity funds to invest in high potential companies outside of the stock exchanges around the world and investments in consistent with the changing themes according to the long-term global evolution such as AI, Next Gen Tech and SmartCity. Additionally, KBank focuses on Stay Invested market philosophy rather than marketing timing,” concluded Mr. Jirawat.
Aside from the most comprehensive investment and asset management services in Thailand, KBank Private Banking continues to attach importance to passing on our “When Your Wish is More Than Wealth” philosophy. Under this mantra, we are committed to managing every aspect of life for sustainable security not just for the asset value, but the transfer of wealth from one generation to the next, including wealth building and sharing in other areas via “PERFECT WEALTH” e-Multimedia Publication”, which features the stories of our 15 valued customers. This e-Multimedia publication contains three series, each of which features five customers and it can be viewed via https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking.