- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 17 September 2014 00:51
- Hits: 3372
กรุงศรี และ BTMU ผนึกกำลังจัดงาน Business Matching ครั้งแรกในไทย
• บริษัทญี่ปุ่น-ไทย ร่วมเจรจาธุรกิจราว 120 บริษัท
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จับมือ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) จัดงาน MUFG Business Matching Fair in Bangkok ผลักดันผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสู่ญี่ปุ่น เปิดการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น และไทย รวมกันราว 120 บริษัท ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มเสื้อผ้า กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งผลักดันให้ บริษัทไทยก้าวไกลได้ถึงที่สุดของศักยภาพ และเติบโตอย่างมั่นคง คาดว่าจะเกิดการเจรจาราว 250 คู่ธุรกิจ (matching)
นายโมโตอิ มิตซึอิชิ ผู้บริหารระดับภูมิภาคประจำประเทศไทย และผู้จัดการทั่วไป ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) สาขากรุงเทพฯ กล่าวว่า “BTMU มีประสบการณ์ในการจัด Business Matching ทั้งในและต่างประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ปีนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ BTMU ได้จัดงาน Business Matching ขึ้นที่กรุงเทพฯ และที่สำคัญคือ ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ BTMU และกรุงศรี ได้ร่วมกันจัดงานดังกล่าวนี้ขึ้น ซึ่งมีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและจำนวนคู่การเจรจาธุรกิจที่เกิดขึ้นภายในงานครั้งนี้นับว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก
“เราคาดว่าความต้องการของลูกค้าญี่ปุ่นซึ่งสนใจในผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการไทยและความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันกำลังมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงต้องการที่จะจัดกิจกรรม Business Matching เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเรื่องดังกล่าว” นายมิตซึอิชิ กล่าวเพิ่มเติม
BTMU มีประสบการณ์การจัดงาน Business Matching มาอย่างยาวนาน โดยได้จัดที่ญี่ปุ่น 11 ปีติดต่อกัน และมีกว่า 4,000 บริษัทเข้าร่วมงาน ขณะที่ในเอเชียได้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ในหลายประเทศ เช่น จีน (เซี่ยงไฮ้) อินโดนีเซีย เวียดนาม ฮ่องกง และประเทศไทย
‘MUFG Business Matching Fair in Bangkok’ ถือเป็นครั้งแรกที่ BTMU ได้ทำร่วมกับกรุงศรี ในฐานะที่ ทั้งสองเป็นบริษัทในเครือ MUFG ในการเชิญผู้ประกอบการชั้นนำจากญี่ปุ่นได้มาพบและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ที่เป็นประตูสู่เอเชียและกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงผู้บริโภคในตลาดญี่ปุ่นอีกด้วย กิจกรรมนี้จะเป็นโอกาสที่ทำให้เกิดการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นได้ขยายการลงทุนไปต่างประเทศ
BTMU มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการจัดกิจกรรม Business Matching และในเอเชีย BTMU มีหน่วยงานพิเศษที่รับผิดชอบด้านการทำ Business Matching ถึง 5 แห่งคือที่ โตเกียว นาโกย่า โอซาก้า ฮ่องกง และสิงคโปร์ และในระหว่างปี 2552 – 2556 BTMU ได้จัดให้มีการเจรจาธุรกิจไปแล้วเกือบ 900 Matching คือ เซี่ยงไฮ้ (370 matching) อินโดนีเซีย (150 matching) ฮ่องกง (175 matching) เวียดนาม (103 matching) และประเทศไทย (90 matching)
นายโนริอากิ โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันบทบาทของธนาคารจะไม่ใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนทางการเงินเท่านั้น แต่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับลูกค้า และพร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าได้ขยายโอกาสทางธุรกิจสู่สากลโดยผ่านกิจกรรม Business Matching และเครือข่ายของ BTMU ที่มีอยู่ทั่วโลก ที่พร้อมประสานให้เกิดการจับคู่ธุรกิจกับต่างประเทศ และงาน Business Matching ครั้งนี้เป็นผลมาจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างกรุงศรี และ BTMU โดยกรุงศรีได้เชิญผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของธนาคาร ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า มาร่วมเจรจาธุรกิจกับบริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่น เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าไปสู่ตลาดญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน BTMU ได้เชิญผู้ประกอบการในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง กลุ่มผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า มาพบกับนักธุรกิจของไทย”
“เราคาดว่าผลจากการงาน Business Matching ครั้งนี้ จะทำให้เกิดโอกาสในการจับคู่ธุรกิจร่วมกันระหว่างผู้ประกอบไทย และญี่ปุ่น กว่า 250 ธุรกิจ (Matching) รวมถึงเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้แนวทางการบริหารงานที่ประสบความสำเร็จจากคู่ค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรับใช้ในการเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง คือลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ในอนาคตต่อไป” นายโกโตะ กล่าว
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ระบุว่า ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่ราว 2.7 ล้านรายทั่วประเทศ และสร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 1.76 ล้านล้านบาทต่อปี ขณะที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยส่งสินค้าออกไปขายมากที่สุด อยู่ที่ประมาณ 10.52% ของยอดการส่งออก ในธุรกิจเอสเอ็มอี นั่นสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ และยังคงมีโอกาสที่สูงมากในการที่ต่างชาติจะเปิดรับสินค้าจาก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 69 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า เอสเอ็มอี และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 609 สาขาและช่องทางการขายกว่า 21,400 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชี (ธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคล) มากกว่า 6.2 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อยผ่านบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ภายใต้แบรนด์ “เงินติดล้อ” อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 258 ล้านล้านเยน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557) หลักทรัพย์ของกลุ่ม MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกย่า และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยธุรกิจของกลุ่ม MUFG ประกอบด้วย 5 บริษัทหลัก ได้แก่ ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ NICOS และ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลีส แอนด์ ไฟแนนซ์ โดยกลุ่ม MUFG ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง วาณิชธนกิจ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ และอีกหลากหลาย โดยกลุ่ม MUFG มีเครือข่ายต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสถาบันการเงินในญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานและบริษัทในเครือมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมทั้ง MUFG Union Bank ในสหรัฐอเมริกาด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์: 02 296 2443-4
อีเมล์: [email protected]