- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Friday, 20 July 2018 12:35
- Hits: 2053
กรุงศรี รายงานผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2561 จำนวน 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4%
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2561 จำนวน 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตที่ต่อเนื่องของเงินให้สินเชื่อ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งและพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลของกรุงศรี
สรุปผลประกอบการตามงบการเงินรวมที่สำคัญสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2561
· กำไรสุทธิ: จำนวน 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2560
· การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 5.9% คิดเป็นจำนวน 91.9 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ในครึ่งปีแรกของปี 2561 เงินให้สินเชื่อเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น 6.7% จากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME เติบโตที่ 4.8% และ 6.4% ตามลำดับ
· การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 3.7% หรือจำนวน 48.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560
· รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 14.5% จากครึ่งปีแรกของปี 2560 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ซึ่งเติบโต 17.2% และ 12.9% ตามลำดับ
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.4% ปรับตัวดีขึ้นจาก 48.0% ในครึ่งปีแรกของปี 2560
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.75% เทียบกับ 3.82% ในครึ่งปีแรกของปี 2560
· สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs): อยู่ที่ระดับ 2.02% ในเดือนมิถุนายน 2561
· อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: ปรับแข็งแกร่งขึ้นมาอยู่ที่ 161.7%
· อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 14.95%
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 เป็นที่น่าพอใจจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของเงินให้สินเชื่อ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตเพิ่มขึ้น 5.9% ในช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวดีขึ้นมาก มาอยู่ที่ระดับ 161.7% และคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 2.02% ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสะท้อนถึงศักยภาพของกรุงศรีและความสามารถในการขยายธุรกิจด้วยความรอบคอบระมัดระวัง"
นายโกโตะให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวม ว่า “สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี ในกรณีที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนไม่รุนแรงขึ้น ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม โดยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสำหรับปี 2561 มาอยู่ที่ 4.7% จาก 4.0% จากการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลกรวมถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ด้วยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องและดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม จากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่มีแรงส่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น ธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2561 จะอยู่ในช่วง 8-10% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่เคยประกาศไว้เมื่อช่วงต้นปี”
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.64 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.37 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.1 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 223.2 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 14.95% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.28%
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานกว่า 74 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 701 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 664 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 8.7 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย
กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)
มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,300 แห่ง
ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 150,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้ง MUFG Bank, Ltd. มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
BAY คาดสินเชื่อปีนี้โต 8-10% สูงกว่าเป้าหมายช่วงต้นปีที่คาดโต 6-8% ,กำไร H1/61 เติบโต 8.4% สินเชื่อขยายตัวดี
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แจ้งว่าธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2561 จะอยู่ในช่วงร้อยละ 8-10 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่เคยประกาศไว้เมื่อช่วงต้นปีที่คาดสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 6-8 เนื่องจากมองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในกรณีที่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนไม่รุนแรงขึ้น เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม
โดยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสำหรับปี 2561 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.7 จากร้อยละ 4.0 จากการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้า และภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องและดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม จากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่มีแรงส่งเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน BAY รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกของปี 2561 จำนวน 12.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตที่ต่อเนื่องของเงินให้สินเชื่อ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งและพอร์ตสินเชื่อที่สมดุลของกรุงศรี
ทั้งนี้ การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 คิดเป็นจำนวน 91.9 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ในครึ่งปีแรกของปี 2561 เงินให้สินเชื่อเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 จากการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME เติบโตร้อยละ 4.8 และร้อยละ 6.4 ตามลำดับ
การเติบโตของเงินรับฝาก เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 หรือจำนวน 48.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 จากครึ่งปีแรกของปี 2560 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ซึ่งเติบโตร้อยละ 17.2 และร้อยละ 12.9 ตามลำดับ
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ร้อยละ 46.4 ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 48.0 ในครึ่งปีแรกของปี 2560 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.75 เทียบกับร้อยละ 3.82 ในครึ่งปีแรกของปี 2560 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.02 ในเดือนมิถุนายน 2561 อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปรับแข็งแกร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 161.7 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับร้อยละ 14.95
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BAY กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกรุงศรีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 เป็นที่น่าพอใจจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของเงินให้สินเชื่อ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ในช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวดีขึ้นมาก มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 161.7 และคุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.02 ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสะท้อนถึงศักยภาพของกรุงศรีและความสามารถในการขยายธุรกิจด้วยความรอบคอบระมัดระวัง