WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TMB Piti Tantakasemทีเอ็มบี มุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านกลยุทธ์ 'Get More with TMB 'โดยมีกำไร ก่อนหักสำรองฯ 9,980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% สำหรับงวด 6 เดือน ปี 2561

     เพื่อคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อ NPL ที่ 140% และควบคุมสัดส่วนหนี้เสียในระดับต่ำที่ 2.37% ธนาคารจึงตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น เน้นความรอบคอบในการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 4,306 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อนหน้า

      ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการ ไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน ปี 2561 โดยธนาคารและบริษัทย่อยฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ สำหรับงวด 6 เดือน ปี 2561 ที่ 9,980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนหน้า โดยคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อ NPL(coverage ratio) ที่ 140% ขณะที่สัดส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) อยู่ในระดับต่ำที่ 2.37% ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า เพื่อเน้นการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน เป็นจำนวน 4,306 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน

      นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ทีเอ็มบี มุ่งขยายฐานลูกค้าและธุรกิจผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้แนวคิด “ได้มากกว่า” หรือ “Get More With TMB” เมื่อใช้ทีเอ็มบีเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) เป็นประจำ พร้อมทั้งมุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้บริการธนาคารที่ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัลสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นได้จากจำนวนลูกค้ารายย่อยที่ใช้ทีเอ็มบีเป็นประจำ (Active Customer) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.5 ล้านราย ขณะที่ Active Digital Customer เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1 ล้านราย”

     ทั้งนี้ ใน 6 เดือนแรกของปี ทีเอ็มบีขยายฐานเงินฝากเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 6.32 แสนล้านบาท ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเงินฝากลูกค้ารายย่อย ผ่านผลิตภัณฑ์หลักอย่าง เงินฝาก “ทีเอ็มบี โน-ฟิกซ์” (TMB No-Fixed) และ “ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี” (TMB All Free) ซึ่งลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์สูงสุดเมื่อทำธุรกรรมผ่านบัญชี All Free คู่กับการออมเงินผ่านบัญชี No-Fixed เป็นการเน้นย้ำแนวคิด “Get More with TMB” จึงทำให้เงินฝาก No-Fixed เพิ่มขึ้น 12% หรือ 2.7 หมื่นล้านบาท และ “ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี” (TMB All Free) เติบโต 3% หรือ 1.7 พันล้านบาท ในส่วนของเงินฝาก ME ซึ่งเป็นเงินฝากแบบดิจิทัล เติบโตได้ดีเช่นกันที่ 9% หรือ 3.9 พันล้านบาท

      ในส่วนของสินเชื่อ ทีเอ็มบีขยายสินเชื่อคุณภาพ (Performing loan) ได้ 2% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.36 แสนล้านบาท เป็นการเติบโตจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก โดยเฉพาะจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น 9% หรือ 1.2 หมื่นล้านบาท ในส่วนของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ พบว่าสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงเติบโตได้ดีที่ 3% หรือ 7.7 พันล้านบาท สำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากธนาคารยังคงเน้นความรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ใน 6 เดือนแรกของปี สินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กขยายตัวได้ที่ 0.2%

       สำหรับ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย อยู่ที่ 3.01% ลดลงจาก 3.19% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2% มาอยู่ที่ 12,130 ล้านบาท ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7% มาอยู่ที่ 6,447 ล้านบาท ปัจจัยหนุนมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังคงอยู่ในระดับที่ดี ทั้งค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะจากแบงก์แอสชัวรันและกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่มีแนวโน้มดีกว่าปีที่แล้ว

      ทำให้โดยรวม ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 18,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 8,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เช่นกัน ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ อยู่ที่ 9,980 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 1% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนของปีก่อน

      ธนาคารยังคงดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด โดยคง coverage ratio ที่ 140% และควบคุม NPL ratio ในระดับต่ำที่ 2.37% ธนาคารจึงตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนโดยมีการตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 4,685 ล้านบาท เพื่อเน้นความรอบคอบในการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิสำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2561 อยู่ที่ 4,306 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน

      ด้านสถานะเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR)และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1)ภายใต้เกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 17.3% และ 13.3% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 10.375% และ 7.875% ตามลำดับ

 

TMB continues to expand its customer base with “Get More with TMB” strategy. The Bank generated the 1H18 pre-provision operating profit (PPOP) of THB9,980 million, up 1% YoY. To maintain coverage ratio at 140% and NPL ratio at a low level of 2.37%, the Bank remained prudent and set aside higher provision. Therefore, TMB reported the 1H18 net profit of THB 4,306 million, down 3% YoY.

        TMB Bank Public Company Limited (TMB) today announced its financial results for the second quarter of 2018 (2Q18) and for the first half of 2018 (1H18). The Bank posted the 1H18 pre-provision operating profit (PPOP) of THB9,980 million, up 1%YoY. TMB maintained coverage ratio at 140% as well as remained NPL ratio at a low level of 2.37%. The Bank has ensured prudent management by increased its provision of 4% YoY. As a result, TMB reported the 1H18 net profit (after provision and tax) of THB4,306 million, down 3% YoY.

        Mr.Piti Tantakasem, CEO of TMB Bank, said "TMB has focused on expanding its customer base through flagship products and services with “Get More” idea. TMB is set to make customers “Get MORE with TMB” when using TMB as a main bank on a regular basis with an aspiration to deliver better customer experience for all customer segments in the digital age. The Bank has earned positive feedback from customers, backed by an increasing number of customers. TMB’s active retail customers has increased to 2.5 million as well as active digital customers that recently reached 1 million.”

       For the 1H18, TMB expanded deposit base further by 3% to THB632 billion, mainly due to continuous growth in retail deposit through flagship products– “TMB No-Fixed” and “TMB All Free”. With “Get More with TMB” concept, customers would benefit the most when use both product as a complete solution; transact with All Free and save with No-Fixed. The balance of No-Fixed and All-Free accounts rose by THB27 billion (up 12%) and by THB1.7 billion (up 3%), respectively. ME by TMB, a digital deposit product, also grew to THB3.9 billion (up 9% YoY).

      On the loan side, TMB achieved performing loan growth of 2% YoY at THB636 billion, primarily driven by retail segment. This attributed to mortgage loan growth of 9% or THB12 billion. Large corporate loan remained resilient and grew by 7.7 billion (up 3% YoY). The Bank has emphasized on quality lending; therefore, small SME loan was slowly recovering with 0.2% growth for the first half of 2018.

        Net Interest Margin (NIM) came in at 3.01%, which decreased from 3.19% in the first half of 2017. Net interest income declined by 2% to THB12,130 million, whereas non-interest income rose to THB 6,447 million (up 7% YoY). Fee income was on track, attributable to higher growth in both retail fees and commercial fees. Retail fee growth was driven from bancassurance and mutual fund. Commercial fee growth YoY has shown positive signal for recovery.

      Overall, the Bank posted the 1H18 operating income of THB18,576 million (up 1% YoY), and registered the 1H18 operating expenses of THB8,559 million (up 1% YoY). As a result, TMB reported the 1H18 PPOP of THB9,980 million (up 1% YoY).

       The Bank has monitored closely on asset quality by maintaining coverage ratio level at 140% as well as remained NPL ratio at a low level of 2.37%. With prudent on NPL management, TMB set aside the 1H18 provision of THB 4,685 million (up 4% YoY). As a result, the Bank recorded the 1H18 net profit (after provisions and tax) of THB 4,306 million, down 3% YoY.

       In term of capital adequacy, capital adequacy ratio (CAR) and Tier 1 ratio under Basel III framework stayed at 17.3% and 13.3%, which are higher than the Bank of Thailand’s minimum requirement of CAR at 10.375% and Tier 1 at 7.875%, respectively.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!