WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaa1ABk

ไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ Lombard Odier ฟันธงเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลังเติบโตดี หนุนผลิตภัณฑ์ลงทุนโตเพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท พร้อมขยายบริการจัดการความมั่งคั่งให้ลูกค้าเศรษฐีไทย

      ธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ Lombard Odier มองเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ดี ไร้สัญญาณวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ จากการวิเคราะห์เจาะลึกโดย ดร.แซมมี่ ชาร์ นักเศรษฐศาสตร์มือหนึ่งระดับโลกจากเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมพัฒนาศักยภาพการให้คำแนะนำจัดพอร์ตลงทุนและขยายผลิตภัณฑ์การลงทุนเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังต่อยอดบริการความมั่งคั่งให้ลูกค้าเศรษฐีไทย ครอบคลุมทุกความต้องการ รองรับการเติบโต และยืนหยัดความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้

    นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Business Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจไพรเวทแบงก์ในประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ทั้งจากการตั้งบริษัทร่วมทุน และการที่ผู้ให้บริการต่างชาติกลับเข้ามาตั้งสำนักงานอีกครั้ง ทั้งนี้ ธนาคารฯ มองว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะในขณะที่คู่แข่งให้ความสำคัญกับเรื่องการลงทุนและผลตอบแทน แต่ธนาคารฯ มองกว้างและลึกกว่านั้น โดยเห็นว่าลูกค้าที่มีสินทรัพย์มาก (High Net Worth Individual - HNWI) มักมีความกังวลมากตามไปด้วย ไม่เพียงเท่านี้สินทรัพย์ของลูกค้ายังมีความหลากหลายและไม่จำกัดอยู่ในตลาดทุนเท่านั้น ซึ่งในระดับโลกมีการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินต่างๆ มาใช้บริหารสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างความเติบโตให้ทรัพย์สินเท่านั้น (To Grow) แต่ยังรวมถึง 2 เรื่องสำคัญคือ การรักษาสินทรัพย์ (To Keep) และการส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น (To Pass) ซึ่งการที่ธนาคารฯ เป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์ชั้นนำระดับโลกอย่างลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ทำให้สามารถนำเสนอคำแนะนำ พร้อมจัดวางเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อใช้จัดการและบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าได้ในองค์รวม โดยขึ้นกับความเหมาะสมของลูกค้าหรือสภาพตลาดในช่วงนั้น ทั้งหมดนี้ จึงได้ช่วยยกระดับให้ธนาคารฯ มีความสามารถทัดเทียมกับสถาบันการเงินระดับโลก อีกทั้งยังผสานจุดแข็งของความเป็นที่หนึ่งในตลาดประเทศไทยกับจุดแข็งด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในการตลาดโลกกว่า 222 ปี ของลอมบาร์ด โอเดียร์ สร้างเป็นบริการที่ครอบคลุมมากที่สุดและโดดเด่นที่สุดในประเทศไทย

       ด้าน ดร.แซมมี่ ชาร์ หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ จากลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ในฐานะพันธมิตรสำคัญ ได้ร่วมถ่ายทอดมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ไว้อย่างน่าสนใจว่า "ในภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค นำโดยสหรัฐฯ ตามด้วยยุโรป และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเศรษฐกิจหลักๆ มีฐานะทางการเงินและการคลังที่เข้มแข็งขึ้น ขณะที่นโยบายภาครัฐฯ ยังอยู่ในเชิงผ่อนคลายและประคับประคองเศรษฐกิจ ที่แม้จะไม่เติบโตแบบเร่งตัวดังเช่นในปีที่ผ่านมา แต่ขยายตัวอย่างสม่ำเสมอและมีเสถียรภาพ ส่งผลถึงความสามารถในการสร้างกำไรของภาคธุรกิจ แม้จะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบเป็นระยะ อาทิ มาตรการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศอิตาลีและสเปน รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดี ทิศทางดอกเบี้ยแม้จะอยู่ในขาขึ้นแต่ในระดับที่ไม่สูงมากจนเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ และไม่มีสัญญาณการชะลอตัวอย่างรุนแรงหรือวิกฤติเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงไม่ควรกังวลมากเกินไป หากควรพิจารณาจัดพอร์ตการลงทุนตามพื้นฐานที่แท้จริงของเศรษฐกิจ ศักยภาพการสร้างผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความเข้มแข็งทางการเงินของผู้ออกตราสารหนี้ โดยกระจายเงินลงทุนให้หลากหลายทั้งเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้นกู้แปลงสภาพ หุ้น และโภคภัณฑ์ ในสัดส่วนที่สอดคล้องกับความเสี่ยงของตนเอง สำหรับตราสารทุนภูมิภาคที่น่าสนใจคือยุโรปและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงกลางของระยะฟื้นตัวและยังมีเวลาที่จะเติบโตได้ต่อ"

     นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะไปในทางใด แต่ลูกค้าของธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปราศจากความกังวล เพราะธนาคารฯ ได้นำเสนอนวัตกรรมด้านการลงทุนในหลากหลายมิติ เพื่อเป็นทางเลือก และเสริมความสามารถทั้งในการรับและปรับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ด้วยคำแนะนำบนหลักการหักกลบความเสี่ยง เน้นลงทุนระยะยาว และการนำเงินเข้าลงทุนตลอดเวลา (Stay Invested) เพื่อสะสมผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ แม้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

      ปัจจุบันลูกค้าไม่เพียงนำเงินมาลงทุน แต่อาจมีสินทรัพย์อื่นที่ไม่มีสภาพคล่องเท่าเงินสดมาลงทุนได้ เช่น ธุรกิจของครอบครัว ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารฯ มีบริการ"การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management)" ที่ผสานองค์ความรู้กว่า 222 ปีจากลอมบาร์ด โอเดียร์ เข้ากับความเข้าใจในตลาดไทย เพื่อพัฒนาเป็นบริการในแบบฉบับคนไทย ครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถส่งมอบบริการนี้ได้อย่างครบถ้วน

       ธนาคารฯ มองว่าหนึ่งในความรับผิดชอบหลักของผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์ คือ 'การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ให้ทรัพย์สินของลูกค้า จากความเป็นจริงที่สภาพเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยปรัชญาที่ธนาคารฯ เน้นเสมอมาคือ (1) ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนแบบ Asset Allocation บนหลักการ Risk Based Approach ด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่เพิ่มความง่ายในการกระจายความเสี่ยง (2) ใช้กระบวนการสร้างอัตราทด (Leverage) ควบคู่ไปกับการจัดการความเสี่ยงขาลง (Drawdown Management) สำหรับปรับระดับความเสี่ยง (3) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับความผันผวนที่มากขึ้น เช่น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภทคุ้มครองเงินต้น และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ควบคู่ไปกับการวางแผนภาษีและการส่งต่อทรัพย์สินให้ทายาทได้ด้วย (4) สนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการมีบรรษัทภิบาลที่ดี หรือ ESG (Environmental Social Governance) ที่คาดว่าจะนำมาซึ่งความยั่งยืน (Sustainable Investing)"

      ธุรกิจบริการไพรเวทแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเก็บรักษาและดูแลสินทรัพย์ ตลอดจนการทำให้งอกเงย รวมไปถึงการส่งต่อทั้งทรัพย์สินและธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดของการมอบบริการ คือ มุ่งเน้นสร้างความสุข (Standing for Happiness) และแบ่งเบาภาระในชีวิตของลูกค้า (Structuring a Worry Free Life) เพื่อความมั่งคั่งที่สมบูรณ์ (Perfect Wealth)

KBank Private Banking Service and Lombard Odier boost investment products. These products are forecast to grow by THB20 billion amid a promising outlook for the global economy in 2H18

    Private Banking Service of KASIKORNBANK (KBank) and Lombard Odier expect a promising outlook for the global economy without any sign of economic crisis in the US, Europe, China and emerging markets, based on an in-depth analysis of Dr. Samy Chaar, top economist from Geneva, Switzerland. The two institutions are poised to enhance investors’ potential via provision of advice on portfolio allocations and an expansion of investment products by THB20 billion.

    Mr. Jirawat Supornpaibul, KBank Private Banking Business Group Head, said “The private banking business in Thailand has experienced continued growth, and competition has intensified as evidenced by establishment of joint ventures and office set-ups of foreign service providers. This situation is a challenge for KBank. While our competitors may focus on investment and returns, KBank holds a broader and deeper perspective. We are aware that our High Net Worth Individual (HNWI) clients, who have large asset sizes always have considerable concerns. Their diverse assets are beyond capital markets. Globally, a variety of financial tools have been developed for efficient asset management, which does not only involve ‘To Grow’ assets, but also ‘To Keep’ and ‘To Pass’ on those assets to next generations.

     Through our partnership with Lombard Odier, a world-renowned private banking service provider, we have offered useful advice and various tools of wealth management for our clients in sync with their positions and prevailing market conditions. This collaboration has uplifted KBank’s capability to match world-class financial institutions. The synergy of KBank’s strength of being number one in the Thai market and Lombard Odier’s 222-year experience as the world’s leading private bank has built up Thailand’s most comprehensive and distinctive private banking service.”

     Samy Chaar, PhD., Chief Economist of Lombard Odier - KBank’s major partner, has provided interesting perspectives on the global economic outlook for 2H18 that “Overall, the world’s economy will gain further traction across all regions, led by the US, followed by Europe and emerging economies; core economies have had healthier financial and fiscal standings. Meanwhile, the fiscal policy will remain accommodative to sustain the economy which is set to exhibit consistent and stable expansion, following acceleration in growth seen last year, thus being a boon to profitability of the business sector.

       However, the global economy may be affected by such factors as protectionist measures adopted by the US and China, political uncertainties in Italy and Spain and the US Federal Reserve’s policy rate hike. Despite the bullish interest rate trend, businesses are unlikely to be hampered by rising interest rates given that the global economy has been driven by positive economic activities and no sign of a hard landing or economic crisis is on the horizon. Investors should not be too anxious but take into consideration the economic fundamentals, listed companies’ profitability and financial health of debt issuers when it comes to investment. Diversification holds the key; they should hold deposits, debt instruments, convertible bonds, stocks and commodities in their portfolio proportionately to their risk appetite. Investors are recommended to focus on equity instruments of Europe and emerging economies which are on a recovery path and poised for further growth.”

      “Whatever the global economic scenario, our private banking customers will be able to lead their lives without any worry. This is because KBank has already introduced investment innovations in numerous facets as options and to enhance our customers’ capacity to accept and adjust risks in their investment portfolios through our recommendations toward risk reduction, long-term investment and stay invested so that they can accumulate regular gains despite changing economic conditions,” added Mr. Jirawat.

       Currently, the customers do not only bring cash to invest, but may use other assets that are not as liquid as cash to invest as well, for instance, their family businesses, land and properties. By combining our expertise gained from Lombard Odier’s private banking experience for over 222 years and our profound understanding of the Thai market, KBank’s “Wealth Management” service has been improved to meet all the needs of our Thai customers. KBank therefore is the first and only bank in Thailand that is able to offer a complete private banking service.

      KBank views that one of the main responsibilities of private banking service providers is “risk management for clients’ assets” based on the fact that the global economy and international financial markets have become more unpredictable. The philosophies that KBank has always adhered to include (1) providing advice about a risk-based approach to asset allocation through mutual fund products, which can diversify risks more easily; (2) using a leverage process together with drawdown management to adjust risk levels; (3) developing products that are more responsive to market volatility such as principal-protected structured notes and life insurance products in parallel with taxes and succession planning; and (4) supporting investments in companies having an environmental, social and governance (ESG) strategy with an expectation to achieve a sustainable investing goal,” concluded Mr. Jirawat.

      KBank Private Banking Business realizes the importance of keeping, protecting and nurturing assets as well as passing on the family’s estate and businesses to the next generation in order to reach the ultimate goal of providing services that are “Standing for Happiness” and “Structuring a Worry Free Life” for our clients to gain “Perfect Wealth”.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!