WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaaBSCB

'ธนาคารไทยพาณิชย์'ผนึกกำลัง'โรงพยาบาลสมิติเวช'เปลี่ยนประสบการณ์ดิจิทัลเฮลธ์รูปแบบใหม่ เปิดตัว 'The FIRST Lounge & SCB Investment Center' และพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่น เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง

·       ชูแนวคิด 'The FIRST Prestige Health & Wealth Experience'มอบประสบการณ์สุขภาพเหนือระดับพร้อมเอกสิทธิ์ไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบครบวงจรด้วยบริการบริหารความมั่งคั่งจาก SCB Investment Center

·       แทคทีม ‘ดิจิทัล เวนเจอร์ส’ ยกระดับบริการด้านสุขภาพ ร่วมพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นด้านการชำระเงิน ‘Samitivej FastPay’เสริมแกร่งให้พันธมิตรพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุค 4.0

      ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าทำตลาดกลุ่มลูกค้าเวลธ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับ “โรงพยาบาลสมิติเวช” สร้างมิติใหม่ให้ทั้ง 2 วงการ พัฒนาความร่วมมือ 3 ด้านในการยกระดับบริการด้านสุขภาพ ภายใต้แนวคิด The FIRST Prestige Health & Wealth Experience’ ได้แก่ ‘เดอะ เฟิร์ส เลานจ์ แอนด์ เอสซีบี อินเวสเม้นต์ เซ็นเตอร์’ (THE FIRST LOUNGE & SCB INVESTMENT CENTER) พื้นที่รับรองรูปแบบใหม่ที่ถูกออกแบบและตกแต่งในสไตล์กลาสเฮ้าส์แห่งแรกในประเทศไทย ชูจุดเด่น “เอสซีบี อินเวสต์เม้นต์ เซ็นเตอร์’(SCB Investment Center) ศูนย์รวมความรู้ และให้คำแนะนำด้านการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลรูปแบบใหม่ เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่ม FIRST class ของโรงพยาบาลสมิติเวช และกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งหรือ SCB Wealth ที่เป็นสมาชิก SCB PRIVATE BANKING’ และSCB FIRST’

พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง เปิดตัวระบบ’สมิติเวช ฟาสต์เพย์’ (Samitivej FastPay) ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวเพื่อชำระเงินที่เคาน์เตอร์อีกต่อไป และแอปพลิเคชัน ‘สมิติเวช พลัส’ (Samitivej Plus)’ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลการให้บริการสุขภาพออนไลน์ครบวงจร ซึ่งดิจิทัล เวนเจอร์ส บริษัทพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเครือของธนาคารฯ ได้ร่วมพัฒนากับสมิติเวชในส่วนของการออกแบบการใช้งานแอปพลิเคชั่น (User Experience) และการชำระเงินออนไลน์ มุ่งเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบเดิมสู่ประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลเฮลธ์ (Digital Health) ที่ล้ำสมัย เชื่อมโยงการบริการทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลแบบ Exclusive VIP One-stop service เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และการเงินแก่ผู้ใช้บริการ คาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดให้ธนาคารสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด Wealth Banking

                นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารได้ประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์กลับหัวตีลังกา (Going Upside Down) เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ของการเป็น ‘ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด’(The Most Admired Bank) ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการ เพื่อผลักดันให้ไทยพาณิชย์กลายเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Bank as a platform) ที่สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเงินที่ดีขึ้น และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมที่สุด

                “แผนการดำเนินงานของธนาคารไทยพาณิชย์ต่อจากนี้จะมุ่งเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม หรือที่เรียกว่า Digital Experience เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า (Customer Engagement) ในอนาคต รวมถึงการรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญขององค์กร ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับ ‘โรงพยาบาลสมิติเวช’ พันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการแพทย์และบริการด้วยนวัตกรรมอันทันสมัยเพื่อให้คนไข้มีสุขภาพที่ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของไทยพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มร่วมกับพันธมิตร รวมถึงการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ในโรงพยาบาล ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมและตอบโจทย์บริการทั้งด้านสุขภาพและการเงินร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ นับเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับทั้ง แวดวงสุขภาพและการเงินของประเทศ”

                “เป้าหมายความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ รวมถึงดูแลกลุ่มลูกค้าเวลธ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของไทยพาณิชย์ ผ่านการนำเสนอนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ที่สร้างสรรค์ เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์บริการด้านไลฟ์สไตล์การเงินให้แก่ลูกค้า อีกทั้งการร่วมมือกับสมิติเวชยังเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะไม่เป็นเพียงแค่ธนาคารอีกต่อไป แต่เป็นองค์กรที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ เสริมขีดความสามารถ และโอกาสใหม่ๆ ให้กับองค์กร ยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดในการเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหลักภายในปี 2563 อย่างแท้จริง และคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด Wealth Banking” นายอาทิตย์กล่าว

                นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า “โรงพยาบาลสมิติเวชดำเนินการให้บริการมานานกว่า 39 ปี ภายใต้ปรัชญา ‘ดูแลคนไข้ด้วยหัวใจ’ โดยเราไม่เคยหยุดนิ่งในการมอบบริการและนำนวัตกรรมทั้งด้านการแพทย์ และการบริการมาใช้ในสมิติเวช เพื่อดูแลรักษาคนไข้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับบริการด้านสุขภาพที่ได้มาตรฐาน โดยปัจจุบันสมิติเวชได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัย และเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งเรามุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำโรงพยาบาลระดับแนวหน้าของประเทศไทย ล่าสุดสมิติเวชได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจในการก้าวสู่ปีที่ 40 ภายใต้แนวคิด ‘เราไม่อยากให้ใครป่วย’ เน้นอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี จึงพัฒนานวัตกรรมที่สามารถค้นหาโรคในตัวคุณและเตรียมตัววางแผนก่อนเกิดโรคในอนาคต อาทิ Precision Medicine ที่เน้นการดูแลวินิจฉัยถึงระดับพันธุกรรม (ยีน) สามารถรู้เท่าทันโรคที่จะเกิดในอนาคตเฉพาะบุคคล การร่วมมือทางการแพทย์กับต่างประเทศ

อาทิ โรงพยาบาลซาโน ญี่ปุ่น ใช้เทคโนโลยีค้นหาและล่วงรู้การเกิดโรคมะเร็งลำไส้และกระเพาะอาหารได้ล่วงหน้า และการร่วมมือกับ Oregon Health & Science University (OHSU) และ Doernbecher Children's Hospital ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในThe Best Children’s Hospitals ในสหรัฐอเมริกา เข้ามาแลกเปลี่ยนเทคนิคการดูแลผู้ป่วยเด็ก ทั้งด้านการรักษาและการป้องกัน การเกิดโรค ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงเด็กโต เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต สมิติเวชยังมีโปรแกรม Divine คือนวัตกรรมในการยกระดับสุขภาพให้ถึงจุดที่ดีที่สุดในตัวคุณ เป็นโปรแกรมเฉพาะบุคคลเพื่อการดูแลแบบรู้เท่าทันโรค ด้วยการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า Precision Medicine ตรวจลึกถึงระดับยีน

และนำมาวิเคราะห์เป็นโปรแกรมการดูแลในแบบเฉพาะบุคคล (Personal Health MappingTM) โดยมีทีมแพทย์เป็นเทรนเนอร์ด้านสุขภาพอย่างใกล้ชิด ในโปรแกรมนี้ สามารถตรวจพันธุกรรมเพื่อหาความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ มากมาย รวมถึงการตรวจเทโลเมียร์หาความยาวของปลายโครโมโซม ที่จะรู้ถึงอายุเซลล์ภายในร่างกายอย่างแท้จริง และความสัมพันธ์กับการเกิดโรคร้ายต่างๆ เพื่อการดูแลคุณก่อนเกิดโรคร้ายแรง นอกจากนี้เราได้พัฒนาซอฟต์แวร์ Total Health Solution โดยจะมีโปรแกรมแนะนำการตรวจเชิงป้องกันที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ เป็นการเตรียมวางแผนไม่ให้เกิดโรคได้ รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ‘โรงพยาบาลสมิติเวช’ และ ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ ในการยกระดับการดูแลผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล ด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่เพื่อความพึงพอใจสูงสุด รวมถึงยังได้พัฒนาบริการในด้านต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัดตลอด 24 ชั่วโมง”

                “นอกจากนี้ สมิติเวชยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมอบประสบการณ์การบริการด้านสุขภาพในยุคดิจิทัล 4.0 จึงได้ร่วมมือกับ ‘ดิจิทัล เวนเจอร์ส’บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ พัฒนาระบบการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้บริการ ได้แก่ ‘สมิติเวช ฟาสต์เพย์’ (Samitivej FastPay) ระบบการชำระเงินที่ให้ความสะดวก และรวดเร็วในการจ่ายเงิน และ แอปพลิเคชัน ‘สมิติเวช พลัส’ (Samitivej Plus) โดยแอปฯ ดังกล่าวจะเป็นเสมือนผู้ช่วยด้านสุขภาพที่ให้ข้อมูลครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าใช้บริการ (Pre Hospital) ระหว่างใช้บริการที่โรงพยาบาล (Hospital) จนถึงหลังจากกลับบ้านเพื่อพักฟื้นหรือดูแลตัวเอง (Post Hospital) เบื้องต้นได้ นำร่องใช้ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และโรงพยาบาลเด็ก สมิติเวชก่อน และคาดว่าจะนำแอปพลิเคชัน ดังกล่าวไปใช้กับทุกโรงพยาบาลในเครือที่มีอยู่ 7 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์พิเศษเฉพาะผู้รับบริการอย่างแท้จริง” นพ. ชัยรัตน์กล่าวเสริม

                ด้าน นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “ความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการยกระดับคุณภาพและบริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจหลาหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสุขภาพ ดิจิทัล เวนเจอร์ส จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวชในการพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นทางการเงินภายใต้ชื่อ Samitivej FastPay ช่องทางการชำระเงินรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 1) การชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่จุด FastPay Station

ซึ่งระบบนี้ได้เชื่อมต่อกับระบบบิลของโรงพยาบาลทำให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าใช้จ่ายและสแกนเพื่อชำระเงินได้ทันที และ 2) การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน Samitivej Plus โดยเราได้เปิดให้ผู้ใช้ได้ทดลองการชำระเงินทั้งสองรูปแบบที่สมิติเวช สุขุมวิท และศรีนครินทร์ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีจำนวนธุรกรรมผ่าน Samitivej FastPay กว่า 1,157 ธุรกรรม หรือเฉลี่ย 50 ธุรกรรมต่อวัน และลูกค้าให้คะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึง 4.75 จากคะแนนรวม 5 นอกจากนี้ผู้ที่ชำระเงินผ่าน Samitivej FastPay จะได้รับส่วนลด 10% และได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมหากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์”

                ความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ในการเปลี่ยนประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลรูปแบบใหม่ หรือ ดิจิทัลเฮลธ์ ครอบคลุม 3 เรื่องหลัก ดังนี้

                1.'เดอะ เฟิร์ส เลานจ์ แอนด์ เอสซีบี อินเวสเม้นเซ็นเตอร์'(THE FIRST LOUNGE & SCB Investment Center) พื้นที่รับรองรูปแบบพิเศษแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด The FIRST Prestige Health & Wealth Experience’ ที่ถูกออกแบบ ในสไตล์กลาสเฮ้าส์ เพื่อมอบประสบการณ์บริการแบบ Exclusive VIP One-stop service ให้แก่ลูกค้าFIRST Class ของโรงพยาบาลสมิติเวช และลูกค้าเวลธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เป็นสมาชิก SCB PRIVATE BANKING’ และ “SCB FIRST” ที่มาใช้บริการ ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โดยภายในจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ 1) โซนรับรองพิเศษด้านสุขภาพแบบครบวงจร พื้นที่หลักบริเวณด้านหน้าของเลานจ์ ซึ่งจะบริการต้อนรับและดูแลแบบ VIP ด้วยเจ้าหน้าที่ดูแลเฉพาะบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับท่าน อาทิ การนัดหมายแพทย์ การพบแพทย์ การจ่ายเงิน และการรอรับยา พร้อมมีมุม Exclusive Healthy Snack Bar ไว้บริการลูกค้าให้ได้ใช้เป็นที่พักผ่อนระหว่างรอรับบริการด้านสุขภาพ พร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่มสุขภาพจากร้านดัง Divana Signature Café 2) โซน SCB Investment Center ศูนย์บริหารความมั่งคั่งที่รวมความรู้และการให้คำแนะนำด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลเพื่อมอบเอกสิทธิ์ไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิก

โดยSCB Investment Center แห่งนี้ ถือเป็น Touch point ล่าสุดที่ธนาคารเปิดให้บริการกับลูกค้าเวลธ์ และเป็นแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล ปัจจุบันธนาคารเปิดให้บริการ SCB Investment Center’ รวมทั้งหมด 7 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะเปิดให้บริการรวม 60 แห่งในโลเคชั่นสำคัญๆ 3) โซนเอาท์ดอร์ พื้นที่เปิดโล่งสำหรับรองรับการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่จะจัดให้กับสมาชิกคนสำคัญ อาทิ กิจกรรมดนตรีในสวน (Music in the garden) เพื่อสร้างความผ่อนคลายเวลามาใช้บริการด้านสุขภาพที่สมิติเวช กิจกรรมสนทนาพูดคุย หรือเวิร์คช้อปต่างๆ อาทิ เรื่องสุขภาพ และการลงทุน เป็นต้น โดยพื้นที่รับรองแห่งนี้จะเป็นช่องทางการให้บริการครบวงจรตอบโจทย์สุขภาพและการเงิน ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการจนกระทั่งออกจากเลานจ์นี้ไป

                2.Samitivej Plus แอปพลิเคชันที่จะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบเดิมๆ ให้เป็นประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างครบวงจร โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงผู้ใช้บริการเป็นหลัก (User Experience) ตั้งแต่การดูข้อมูลแพทย์และนัดหมายแพทย์ออนไลน์ (Online Appointment) การแจ้งคิวเรียลไทม์ผ่านแอป (My Queue) การชำระเงินออนไลน์ (Payment) หรือดูข้อมูลสุขภาพ รายการยา และประวัติการรักษาย้อนหลัง (My History) พร้อมด้วยฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ติดต่อหรือเรียกรถโรงพยาบาลได้ทันที อุ่นใจเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือรับส่วนลด และโปรโมชั่นของโรงพยาบาลสมิติเวช เป็นต้น

                3.Samitivej FastPay คือ ประสบการณ์ใหม่ของการชำระเงินที่ให้ความสะดวก และรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาในการรอคิวชำระเงินผ่านช่องทางปกติ เนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วย 1) การสแกนคิวอาร์โค้ด ณ จุด FastPay Station หรือ 2) ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอป Samitivej Plus และสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ได้รับทางอีเมลไปรับยาได้ทันที โดยผู้ใช้บริการที่ชำระเงินผ่าน 2 ช่องทางนี้จะได้รับส่วนลด 10% สำหรับค่ายา ค่า X-Ray และ Lab ตามเงื่อนไขของโรงพยาบาล และได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมหากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 2561

 

Siam Commercial Bank & 'Samitivej Hospital Group' Redefine Digital Health Experiences with 'The FIRST Lounge & SCB Investment Center' developing Digital Solutions for Wealth Customers

·       'The FIRST Prestige Health & Wealth Experience' concept highlighted for the delivery of superior healthcare services together with financial privileges for every digital lifestyle by SCB Investment Center

·       'Digital Ventures' contributes by upgrading health services with ‘Samitivej FastPay’ – the digital payment solution for Thailand 4.0 Era

                Siam Commercial Bank has actively pursued wealth customers. In its latest move, it has partnered with “Samitivej Hospital Group” in adding a new dimension to both bank and healthcare industries. Bringing services to the next level, the partnership covers three aspects and embraces “The FIRST Prestige Health & Wealth Experience” concept. Firstly, “THE FIRST LOUNGE & SCB INVESTMENT CENTER” now operates inside a glass house at a Samitivej hospital, incorporated with SCB Investment Center whereby customers can seek knowledge and advice on wealth management. This lounge targets FIRST-class customers of the Samitivej Hospital as well as SCB Wealth customers, who are either “SCB PRIVATE BANKING” or “SCB FIRST” members. Secondly, “Samitivej FastPay” presents itself as a fast payment solution. With it, there is no need for hospital’s service users to wait in line to settle their medical bills. This solution also helps reinforce Siam Commercial Bank’s positioning as the digital-banking leader. Thirdly, “Samitivej Plus”springs into action as a comprehensive digital platform for online healthcare. Digital Ventures, a developer of financial innovations, a subsidiary of Siam Commercial Bank, has created this application to deliver impressive User Experience and facilitate online payments. With Samitivej Plus, users get the taste of modern Digital Health and Exclusive VIP One-stop service. They can access services both inside and outside the hospital through the solution. As the partnership caters well to the health, lifestyle and financial needs of target groups, it is expected to establish Siam Commercial Bank as the No. 1 wealth-banking leader.

                Mr. Arthid Nanthawithaya, President and Chief Executive Officer of Siam Commercial Bank, says that “the bank has placed a strong emphasis on the development of innovations, technologies and services, ever since it announced the Going Upside Down strategy in pursuit of the goal to become the Most Admired Bank. Siam Commercial Bank is now transforming itself into Bank as a platform that not only upgrades financial-service experiences but also comprehensively responds to customers’ needs.

                “From now on, we will focus on redefining our customer experiences via digital platforms. We are going to deliver digital experiences to our target groups and create greater opportunities for Customer Engagement. This strategy also applies to our Wealth Management, which is a core part of Siam Commercial Bank. We have lately partnered with Samitivej Hospital Group, the medical-service provider with vision, determination and a clear emphasis on medical and service innovations that can better the health of people. Samitivej’s approach resonates with our intention to develop digital platforms in collaboration with business partners and to create an eco-system suitable for digitally-driven health & wealth experiences. The partnership between Samitivej and Siam Commercial Bank will redefine experiences in Thailand’s healthcare and financial sectors,” he adds.

                “Our collaboration with Samitivej aims at reaching out to new customers and taking care of our existing wealth customers, who are our VIPs, via innovative products and services that are going to serve new lifestyle and financial experiences. Our partnership with Samitivej, moreover, underlines Siam Commercial Bank’s vision to not function just as a bank. We have now set our sight on being an organization that leverages new technology to empower our business partners, enhance our capabilities, seek new opportunities, and pursue the best service standards for our customers. Our ultimate goal is to become a digital platform that is driven by information technology, within 2020. Through our collaboration with Samitivej, we trust that we are well set to become No. 1 wealth-banking leader,” Mr. Arthid explains.

                Chairat Panthuraamphorn, M.D., CEO of Samitivej and BNH hospitals, says, “As we are celebrating the 39th anniversary of the group, we are guided by the concept “Once that matters”. We designed all products and services to help people stay healthy, since we know that an illness not only affects patients, but also their families, friends and work, and in the end the national economy. Thai public healthcare spending exceeds 400 billion baht per year, not including private medical spending, and the trend is growing. With this in mind, we are committed to developing innovations and services to minimize people’s health risks. Samitivej has cooperated with a number of leading hospitals in Thailand and other countries in offering medical innovations and technologies that enable people to discover their specific health risks and then prepare them well. For example, genetic analysis by advanced precision medicine can predict a person’s possible health problems. In cooperation with Sano Hospital of Japan, Samitivej introduces the latest technology that can discover or predict the possibility of colon and gastric cancer.

By continually striving to improve medical treatment and health risk prevention for child patients, Samitivej also has a partnership with Oregon Health & Science University (USA) and with the Doernbecher Children’s Hospital in Portland, Oregon, which has been named the best children’s hospital in the United States. In addition, Samitivej offers “Divine”, an innovative health program custom-tailored to the individual patient. Divine uses precision medicine technology for “Personal Health MappingTM” in order to develop individual healthcare programs. Divine programs includes telomere genetic age test and analysis to identify cell age and potential diseases and health problems, enabling Samitivej to help prevent health risks. Samitivej also offers “Total Health Solution” for preventive diagnosis, which assists medical specialists in drawing appropriate preventive measures for anyone of any age.

                “In terms of customer services, Samitivej has cooperated with Digital Ventures in developing applications that suit new generation lifestyle. “Samitivej Plus” connects Samitivej’s information services together. The application enables patients to check the waiting queue while receiving information in real time where to go next for what service. The application will guide patients through every step, from the very first moment of arriving at the hospital. Patients can also request a doctor’s appointment online, view their medical history and make fast and easy payments. Customer experience is another area of focus. The new “FIRST LOUNGE and SCB Investment Center”, a premium lounge in a garden, provides an impressive one-stop-service at Samitivej Sukhumvit Hospital. Patients are served healthy drinks in a relaxing atmosphere. At Samitivej Srinakarin Hospital, a huge panorama displays beautiful pictures of tranquil nature, ensuring a relaxing and calming environment. Throughout the past 39 years and for many years to come, Samitivej remains committed to being a friendly hospital for all, with medical excellence and impressive services that best address modern lifestyle,” he adds.

                Recognizing the need to deliver new healthcare experiences for Thailand 4.0 Era, we have worked with Digital Ventures of Siam Commercial Bank in developing solutions to answer comprehensively to customers’ needs. “Samitivej FastPay” is the payment solution that is real fast and convenient, while “Samitivej Plus” functions as a personal healthcare assistant from pre-hospital to post-hospital period. At present, these apps have already been introduced to the Samitivej Sukhumvit Hospital, the Samitivej Srinakharin Hospital, and Samitivej Children’s Hospital. We have also planned to introduce them to four other Samitivej hospitals before yearend so as to deliver impressive experiences to all our service users,” he explains.

                Mr.Orapong Thien-Ngern, Chief Executive Officer of Digital Ventures Company Limited, says, “As digital technologies have brought changes to the world, they have also created new business opportunities. Thanks to digital innovations, it is possible to upgrade quality and service for better user experiences. We are well aware that it is important to leverage technologies and innovations for boosting the potential of businesses particularly those in the health industry. So, we have partnered with Samitivej hospitals in developing Samitivej FastPay. This is a new payment solution that allows service users to settle their medical bill at a faster speed and at greater convenience because of 1) QR Code Payment at FastPay Station, which is linked to Samitivej hospitals’ billing system. When service users come to the station,

they will see their outstanding amount and be able to settle the payment with just one scan and 2) Credit-card payment via Samitivej Plus application. Both methods have already been used at Samitivej Sukhumvit and Samitivej Srinakarin hospitals during the past month. They have processed more than 1,157 transactions over the period or about 50 transactions a day. On satisfaction, their users have rated them highly – giving them 4.75 out of the possible 5 points. Samitivej FastPay users get 10-per-cent discount from the hospitals. As a special promotion, app users who settle payments with Siam Commercial Bank’s credit card will also enjoy additional discount”.

The collaboration between Siam Commercial Bank and Samitivej Hospital Group has redefined digital health experiences in three main aspects:

1. ‘THE FIRST LOUNGE & SCB Investment Center’ is the first facility to deliver ‘The FIRST Prestige Health & Wealth Experience’. Built in the style of a glass house, it serves Exclusive VIP One-stop services to Samitivej’s FIRST Class customers, ‘SCB PRIVATE BANKING’members, and ‘SCB FIRST’ members who check into Samitivej Sukhumvit Hospital. This lounge has three zones: 1) Reception & comprehensive healthcare services: This zone offers VIP and fast services. Each service user will have a personal assistant to handle a doctor appointment, an escort to an examination room, payments, medicine pickup and more. Sitting in the front part of the lounge, this zone even includes Exclusive Healthy Snack Bar whereby service users can enjoy healthy servings from Divana Signature Café;

2) SCB Investment Center: This zone offers financial knowledge, investment advice and a full range of wealth-management services to eligible customers. This is the first “SCB Investment Center” inside a hospital and the latest touch point that Siam Commercial Bank has created for its wealth customers. At present, there are seven “SCB Investment Centers” across the country. Siam Commercial Bank hopes to open 60 in strategic locations; and 3) Outdoor Zone: It is the open-air zone for hosting special activities such as Music in the garden so that service users can wind down even while seeking healthcare services at Samitivej, seminars or workshops that address healthcare and investment topics. In all, the lounge is set to fulfill every health and financial need of customers. They will be impressed with every minute spent at this lounge.

2.       Samitivej Plus will change healthcare experiences of its users. With this application, users will enjoy modern digital health experiences and find their health needs easily fulfilled. Developed for great user experience, it allows users to look at doctor information, schedule an appointment online, check their queue on My Queue, make a payment online, retrieve health records, medicine details, and retroactively examine (My History). Included are also various other practical features. For example, this app allows service users to get immediately in touch with the hospital in events of emergencies. Service users, furthermore, will get updates about Samitivej hospitals’ discounts and promotions.

3.       Samitivej FastPay presents a faster and more convenient way of making payments. With this app, service users will considerably save their time. Instead of waiting in queue, they can easily complete the payment by 1) Scaning a QR Code scan at FastPay Station or 2) Making a credit-card payment via Samitivej Plus. Receipts from these app can be used to pick up medicines right away. Moreover, customers who settle medical bills with these apps between today and 31 December 2018 get 10-per-cent discount off medicines, X-Ray and Lab fees. When paid by Siam Commercial Bank’s credit cards, additional discounts are also given.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!