WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaaปตตณฑเกษม

ทีเอ็มบีแจ้งข่าวผลประกอบการไตรมาส 4 / 2560 โดยสรุปของผลประกอบการปี 2560:

       ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย และ การเติบโตของบัญชีเพื่อการทำธุรกรรมตามกลยุทธ์ของธนาคาร เช่น All Free เป็นไปด้วยดีตามเป้าหมาย ส่วนการตั้งสำรองเพิ่มเป็นไปตามนโยบายของธนาคาร เนื่องจากเรามีกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะรองรับความเสี่ยงจากการให้สินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด (effective loan lost buffer management)

TMB มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯกำไรสุทธิ 8,687 ล้านบาท เติบโต 6%

     ทีเอ็มบี มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ เติบโต 6% ในปี 2560 และยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ด้วยการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL อยู่ในระดับสูงที่ 143% ขณะที่สัดส่วน NPL ลดลงมาอยู่ที่ 2.35% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน

       ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการปี 2560 ซึ่งยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ 19,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ทั้งนี้ ธนาคารยังคงเน้นความรอบคอบในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการตั้งสำรองฯ จำนวน 8,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ขณะที่สัดส่วนหนี้เสียลดลงมาอยู่ที่ 2.35% จาก 2.53% ส่งผลให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 143% ซึ่งหลังจากตั้งสำรองฯ และภาษี ธนาคารรายงานกำไรสุทธิที่ 8,687 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6%

       นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ธนาคารยังคงเน้นการขยายธุรกิจผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ (Need Base) และไม่ยุ่งยากซับซ้อน (Simple & Easy) ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ โดยในปี 2560 ธนาคารสามารถขยายฐานสินเชื่อเพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว ซึ่งหลักๆ มาจากสินเชื่อลูกค้าบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นผลจากการที่ธนาคารปรับปรุงกระบวนการนำเสนอสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ พบว่าธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงเติบโตได้ดี ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอี แม้ภาพรวมทั้งปียังชะลอตัว แต่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในไตรมาส 4”

      “ทางด้านเงินฝาก ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานเงินฝากลูกค้าบุคคลเป็นหลัก ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก All Free ที่ให้ประโยชน์ด้านการทำธุรกรรม และเงินฝาก No Fixed ที่ให้ประโยชน์ด้านการออม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นได้จากเงินฝาก “ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี” (TMB All Free) ที่เพิ่มขึ้นกว่า 51% หรือ 1.8 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้ว และเงินฝาก ‘ทีเอ็มบี โน-ฟิกซ์’ (TMB No-Fixed) ที่ขยายตัว 16% หรือ 3.3 หมื่นล้านบาท โดยภาพรวมเงินฝากเติบโต 2% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับการบริหารสภาพคล่องของธนาคาร”

     อย่างไรก็ดี ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ลดลงเล็กน้อยจาก 3.17% มาอยู่ที่ 3.13% เนื่องจากสินเชื่อเอสเอ็มอีซึ่งให้อัตราผลตอบแทนสูง ในภาพรวมทั้งปียังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 24,734 ล้านบาท คงที่จากปีก่อน สำหรับ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย มีจำนวน 12,705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ปัจจัยหนุนหลักคือรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่ขยายตัว 32% โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้าบุคคลจากค่าธรรมเนียมจากการขายกองทุนรวมและแบงก์แอสชัวรันส์ซึ่งเติบโตได้ 76% และ 71% ตามลำดับ

      นายปิติ กล่าวเสริมว่า “การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าธรรมเนียมลูกค้าบุคคล สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาบริการในทุกๆ ช่องทางของทีเอ็มบี อย่างเช่นในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ยกระดับการให้บริการด้านกองทุนรวมให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยนอกเหนือจาก TMB Open Architecture ที่คัดสรรกองทุนเด่นจาก บลจ.ชั้นนำ 8 แห่ง มานำเสนอให้กับลูกค้าแล้ว ธนาคารยังได้เพิ่มบริการที่ปรึกษาด้านการลงทุน (TMB Advisory) ผ่านระบบ VDO Conference รวมทั้งเพิ่มช่องทางการซื้อขายกองทุนผ่านแอพพลิเคชั่น TMB TOUCH เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าใน        โดยรวม ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 37,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2559 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 17,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวทางธุรกิจเป็นหลัก ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ อยู่ที่ 19,736 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 6% ซึ่งเอื้อให้ธนาคารสามารถเพิ่มระดับการรองรับความเสี่ยง ด้วยการตั้งสำรองฯ สูงขึ้น แม้ NPL จะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม

      ปี 2560 ธนาคารตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 8,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า ทำให้อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 143% ขณะที่ NPL หรือสินเชื่อด้อยคุณภาพจะลดลงเป็นจำนวน 84 ล้านบาท มาอยู่ที่ 17,521 ล้านบาท ทำให้สัดส่วน NPL หรือ NPL ratio ลดลงจาก 2.53% มาอยู่ที่ 2.35% ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 8,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า

      นอกจากนี้ ทีเอ็มบียังคงสถานะเงินกองทุนในระดับสูง สะท้อนได้จากอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ภายใต้เกณฑ์ Basel III ที่อยู่ที่ 17.3% และ 13.2% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 9.75% และ 7.25% ตามลำดับ

      นายปิติ กล่าวสรุปว่า “ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในปี 2560 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงภายใต้แนวทาง “Need-Based Bank” กับ “Simple & Easy” และสำหรับปี 2561 ทีเอ็มบีก็ยังคงเน้นการขยายฐานเงินฝากเพื่อการทำธุรกรรม (Transactional Banking) ทั้งจากลูกค้าบุคคลและเอสเอ็มอีขนาดเล็ก รวมทั้งพัฒนาช่องทางดิจิทัลเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของลูกค้า Digital Banking และแน่นอนว่าธนาคารก็จะยังคงรักษาระดับความสามารถในการรองรับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับสูง พร้อมกับบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”

TMB’s operating profit before provision improved 6% in 2017

                •         The Bank remains prudent by setting higher provision and maintains strong coverage ratio at 143% NPL ratio drops to 2.35%

                •         Net profit was THB8,687 million, a 6% increase from last year

        TMB Bank Public Company Limited and its subsidiaries announced today their 2017 financial performance which showed continuous improvement from previous year. The Bank’s pre-provision operating profit was THB19,736 million, a 6% increase year over year. The Bank remained prudent and set aside THB8,915 million of provision, a 3% increase from previous year while NPL ratio dropped to 2.35% from 2.53%. NPL coverage ratio therefore remained high at 143%. After provision and taxes, TMB reported net profit of THB8,687 million, representing 6% growth.

       Mr Piti Tantakasem, CEO of TMB Bank, said “TMB has always focused on delivering “need-based” and “simple and easy” products and services to customers while maintaining prudent management of asset quality. Loans grew by 8% in 2017. Such a growth came primarily from retail lending backed by continuous growth in mortgage as the Bank improved its process for more efficient turnaround time. In terms of commercial segment, corporate loan continued to grow while SME loan was still slowdown. However, the Bank saw recovery signs of SME in the fourth quarter.”

      “On the deposit side, TMB continued to focus on growing retail deposits base by offering All Free, transactional deposit and No-Fixed, non-transactional deposit to customers. The successful expansion of transactional retail deposit franchise was reflected by All Free deposits which grew by 51% or THB18 billion and No-fixed deposits which expanded by 16% or THB33 billion. Overall, total deposit expanded 2% from last year, in line with the Bank’s liquidity management.

       Net interest margin, however, declined slightly from 3.17% to 3.13% as SME loan which offered high yield was underperformed compared with last year. Net interest income therefore was flat at THB24,734 million. Non-interest income on the other hand was THB12,705 million or grew by 21%. Key revenue driver was a 32% increase from net fee and service income, boosted by 76% robust growth of mutual fund fees and 71% of bancassurance fees.

      Mr Piti added, “The continuous improvement of fee income reflected that TMB was on the right direction in delivering products and services that meet needs of customers as well as improving services across all channels. This year, for instance, TMB launched new services in addition to TMB Open Architecture”, the Bank’s mutual fund platform that selects and offers customer top-performed mutual funds from 8 leading asset management firms. TMB also provided TMB advisory, an investment advisory service via VDO conference and a mutual fund trading feature on TMB Touch to serve customers’ digital lifestyle.”

      Overall, TMB generated THB37,439 million of total revenue, an increase of 6% from 2016. Operating expenses was THB17,792 million or rose 7% due mainly to marketing and business volume-related expenses. Consequently, the Bank recorded pre-provision operating profit of THB19,736 million or 6% improved from previous year. TMB therefore had an ability to raise its loan loss buffer by provide more provision while NPLs dropped further.

      In 2017, the Bank set aside provision of THB8,915 million, a 3% higher than the prior year. Coverage ratio therefore remained high at 143%. NPLs reduced THB84 million to THB17,521 million and NPL ratio was lower from 2.53% to 2.35%. After provision and tax, the Bank reported net profit of THB8,687 million, a 6% increase from previous year.

      In addition, the Bank continued to maintain strong capital levels. Capital adequacy ratio (CAR) and Tier 1 ratio under Basel III framework stayed at 17.3% and 13.2%, which are higher than the Bank of Thailand’s minimum requirement of CAR at 9.75% and Tier 1 at 7.25%, respectively.

       Mr Piti concluded, “The improvement of TMB operating performance in 2017 reflected the results of our focus on delivering the products and service that meet the real needs of customers under the concept of “Need-based Bank” and “Simple & Easy”. In 2018, TMB aims to expand transaction deposits through retail and small SME customer base. Digital capability will also be enhanced to better serve growing digital banking customers together while maintaining prudent management of asset quality to ensure quality and sustainable growth.”

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!