- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 January 2018 16:00
- Hits: 2650
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลุ่มธนาคารคาดจะมีบทบาทต่อดัชนีมากขึ้น
บรรยากาศลงทุนหุ้นโลกโดยรวมยังคงเป็นบวก หุ้นยุโรปปรับขึ้นหลังเยอรมันมีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่มขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แม้จะมีรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10 แห่งก็ตาม สำหรับหุ้นไทย เราคาดกลุ่มธนาคารจะมีบทบาทมากขึ้นต่อดัชนี จากการรายงานผลประกอบการของ TISCO ที่ออกมาดีส่งผลรวมต่อคาดการณ์กำไรของหุ้นอื่นในกลุ่ม อาทิ TCAP, KKP, SCB ขณะที่การรายงาน GDP ไตรมาส 4/60 ของสภาพัฒน์ คาดเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อภาพการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น selective buy หุ้นรายตัวที่ผลประกอบการมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมีอัพไซด์เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น ROBINS ERW BANPU STEC MAJOR AP BCH BDMS ขณะที่ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวได้ในกลุ่มพลังงาน และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคา GULF ขึ้น อาทิ STEC, ROJNA* และ BLA*
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 3) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 4) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ AMANAH, TFMAMA, IVL-W2, SINGER*, VNG*, SYNTEC*, MAJOR, MAKRO, TIP*, TVO*, STA*, RSP, VNT*
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งขึ้นทดสอบ 1820 นักลงทุนใช้จังหวะแกว่ง ทยอยสะสมหุ้นใหญ่ // หุ้นแนะนำ MAJOR, BANPU, STEC
แนวรับ 1790 / แนวต้าน : 1820 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกขานรับความคิดเห็นของ รมว.พลังงานรัสเซียที่ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบโลกยังไปไม่ถึงจุดสมดุล / ราคาโลหะปิดผสมผสาน / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,279 จุด (-1.84%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 105.85 เหรียญฯต่อตัน
ตัวเลขการค้าจีนปี 60 ขยายตัว - ยอดส่งออกจีนปี 60 อยู่ที่ 15.33 ล้านล้านหยวน ขยายตัว 10.8% yoy ขณะที่นำเข้าอยู่ที่ 12.46 ล้านล้านหยวน ขยายตัว 18.7% ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า 2.87 ล้านล้านหยวน / การค้าระหว่างประเทศ +14.2% บ่งชี้การฟื้นตัวของการค้าโลก
BOI เปิดเผยยอดขอรับการลงทุนในปี 2560 มูลค่า 6.42 ล้านล้านบาท –ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6 แสนลบ. จำนวน 1,456 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 6.41 แสนลบ. ซึ่งเป็นการยื่นขอลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จำนวน 388 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 2.96 แสนลบ.
แบงก์รัฐ 10 เดือน ยอดสินเชื่อขยายตัว 11.32%, เงินฝาก 6.76% - คลังเปิดเผย ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2560 เงินให้สินเชื่อทั้งหมดอยู่ที่ 4.43 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 3.98 ล้านลบ. 11.32% พร้อมทั้ง งินฝากคงค้างทั้งระบบมียอดรวมกว่า 4.55 ล้านลบ. เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดเงินฝากคงค้างกว่า 4.26 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.76% และหนี้เสียลดเหลือ 2.54 แสนล้านบาท จาก 2.72 ลบ. ส่งผลให้กำไรของแบงก์รัฐอยู่ที่ 4.54 หมื่นลบ.
โฆษณา'60 ไม่เด้งธุรกิจลดงบฯ ประคองตัว - นีลเส็นเปิดงบฯโฆษณาปี'60 ไม่เด้ง สื่อทีวีช่องเก่า-ใหม่เติบโตลดลงชัดเจน ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์ตัวเลขยังร่วงต่อเนื่อง เหตุบริษัทยักษ์ใหญ่ "ยูนิลีเวอร์-โตโยต้า" ลดการใช้งบฯโฆษณาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่งผลให้หุ้นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ยังโดดเด่นกว่าช่องโทรทัศน์ เราให้ MAJOR เป็น top pick กลุ่มบันเทิง
ประเด็นติดตาม: 15 ม.ค. TH – สภาพัฒน์ รายงาน GDP 4Q60, 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
กลุ่มธนาคารคาดจะมีบทบาทต่อดัชนีมากขึ้น
บรรยากาศลงทุนหุ้นโลกโดยรวมยังคงเป็นบวก หุ้นยุโรปปรับขึ้นหลังเยอรมันมีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับเพิ่มขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แม้จะมีรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10 แห่งก็ตาม สำหรับหุ้นไทย เราคาดกลุ่มธนาคารจะมีบทบาทมากขึ้นต่อดัชนี จากการรายงานผลประกอบการของ TISCO ที่ออกมาดีส่งผลรวมต่อคาดการณ์กำไรของหุ้นอื่นในกลุ่ม อาทิ TCAP, KKP, SCB ขณะที่การรายงาน GDP ไตรมาส 4/60 ของสภาพัฒน์ คาดเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อภาพการบริโภคและเศรษฐกิจในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น selective buy หุ้นรายตัวที่ผลประกอบการมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมีอัพไซด์เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น ROBINS ERW BANPU STEC MAJOR AP BCH BDMS ขณะที่ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวได้ในกลุ่มพลังงาน และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคา GULF ขึ้น อาทิ STEC, ROJNA* และ BLA*
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 3) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 4) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ AMANAH, TFMAMA, IVL-W2, SINGER*, VNG*, SYNTEC*, MAJOR, MAKRO, TIP*, TVO*, STA*, RSP, VNT*
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งขึ้นทดสอบ 1820 นักลงทุนใช้จังหวะแกว่ง ทยอยสะสมหุ้นใหญ่ // หุ้นแนะนำ MAJOR, BANPU, STEC
แนวรับ 1790 / แนวต้าน : 1820 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปิดบวกขานรับความคิดเห็นของ รมว.พลังงานรัสเซียที่ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบโลกยังไปไม่ถึงจุดสมดุล / ราคาโลหะปิดผสมผสาน / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,279 จุด (-1.84%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 105.85 เหรียญฯต่อตัน
ตัวเลขการค้าจีนปี 60 ขยายตัว - ยอดส่งออกจีนปี 60 อยู่ที่ 15.33 ล้านล้านหยวน ขยายตัว 10.8% yoy ขณะที่นำเข้าอยู่ที่ 12.46 ล้านล้านหยวน ขยายตัว 18.7% ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า 2.87 ล้านล้านหยวน / การค้าระหว่างประเทศ +14.2% บ่งชี้การฟื้นตัวของการค้าโลก
BOI เปิดเผยยอดขอรับการลงทุนในปี 2560 มูลค่า 6.42 ล้านล้านบาท –ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6 แสนลบ. จำนวน 1,456 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 6.41 แสนลบ. ซึ่งเป็นการยื่นขอลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จำนวน 388 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 2.96 แสนลบ.
แบงก์รัฐ 10 เดือน ยอดสินเชื่อขยายตัว 11.32%, เงินฝาก 6.76% - คลังเปิดเผย ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2560 เงินให้สินเชื่อทั้งหมดอยู่ที่ 4.43 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 3.98 ล้านลบ. 11.32% พร้อมทั้ง งินฝากคงค้างทั้งระบบมียอดรวมกว่า 4.55 ล้านลบ. เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดเงินฝากคงค้างกว่า 4.26 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.76% และหนี้เสียลดเหลือ 2.54 แสนล้านบาท จาก 2.72 ลบ. ส่งผลให้กำไรของแบงก์รัฐอยู่ที่ 4.54 หมื่นลบ.
โฆษณา'60 ไม่เด้งธุรกิจลดงบฯ ประคองตัว - นีลเส็นเปิดงบฯโฆษณาปี'60 ไม่เด้ง สื่อทีวีช่องเก่า-ใหม่เติบโตลดลงชัดเจน ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์ตัวเลขยังร่วงต่อเนื่อง เหตุบริษัทยักษ์ใหญ่ "ยูนิลีเวอร์-โตโยต้า" ลดการใช้งบฯโฆษณาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่งผลให้หุ้นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ยังโดดเด่นกว่าช่องโทรทัศน์ เราให้ MAJOR เป็น top pick กลุ่มบันเทิง
ประเด็นติดตาม: 15 ม.ค. TH – สภาพัฒน์ รายงาน GDP 4Q60, 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)