WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์/บวกกรอบแคบ
  KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์/บวกแคบๆ (วานนี้ดัชนีฯ บวกแรงกว่าเราคาดมาก... แต่ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงซื้อหนักในหุ้น EA* และหุ้น SCB* ซึ่งสองตัวนี้มีผลบวกต่อดัชนีฯ ประมาณ 5 จุด) เราคงมองอัพไซด์ระยะสั้นของ SET มีจำกัดหลังต่างชาติและสถาบันในประเทศยังอยู่ฝั่งขายสุทธิต่อเนื่องเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดีปัจจัยภายนอกกลับมาเป็นบวกแล้ว จึงน่าจะยังค้ำจุน SET เหนือระดับจิตวิทยา 1,800 ได้ในวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรลลี่ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ตามปัจจัยบวกเช่น i) เจ้าหน้าที่จีนแถลงปฎิเสธรายงานข่าวเรื่องจีนจะชะลอหรือหยุดซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ โดยชี้แจงว่าน่าจะเป็นข่าวปลอม ii) ความคาดหวังว่างบไตรมาส 4/2560 ของ บจ.สหรัฐฯ จะแข็งแกร่ง โดยธอมสัน/รอยเตอร์คาดกำไร +12% YoY ซึ่งถือว่าโดดเด่นมาก ด้านสกุลเงินดอลล่าร์ฯ ร่วงแรงเมื่อคืนนี้ หลัง ธ.กลางยุโรปออกรายงานประชุมจากครั้งล่าสุด ชี้ว่าพร้อมปรับการส่งสัญญาณนโยบายการเงินให้ตึงตัวมากขึ้นในปี 2561 (เป็นไปตามมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ KGI) เช้านี้เงินบาทแข็งค่าต่อ มาที่ 31.93/ดอลล่าร์ฯ แข็งค่าสุดตั้งแต่ ก.ย. 2557 (ดูหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ในส่วนถัดไป)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร MONO*, TICON
  MONO* (เป้าพื้นฐาน 5.75 บาท) 1) เรตติ้งช่อง MONO29 ล่าสุด (1 – 7 ม.ค.) ปรับขึ้นเป็น 0.895 (ปรับขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ยที่ 0.702) และขึ้นแซง WORK* ที่เรตติ้งล่าสุด (1 – 7 ม.ค.) ลดลงเป็น 0.791 (ปรับลงจากเฉลี่ยปีก่อนที่ 1.001) คาด i) ชี้แนวโน้มผลการดำเนินของ MONO ในปีนี้จะจะเติบโตเด่นสุดในกลุ่มจาก อัตราค่าโฆษณา + Utilization rate ที่คาดจะปรับขึ้นสะท้อนเรตติ้งที่ดีขึ้น ii) นักลงทุนมีโอกาสเปลี่ยนตัวเล่นจาก WORK* ที่เรตติ้งลดลงมา MONO* ที่เรตติ้งกำลังปรับตัวขึ้นแทน 2) ประเมินหากดีดพ้นแนวต้านเทรนไลน์ที่ 4.34 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.64 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” / แนวรับ 4.20 บาท (Stop loss 4.16 บาท)
  TICON (เป้าพื้นฐาน 19.3 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นหลักในกลุ่มนิคมฯ, คลังสินค้า อย่าง WHA*, AMATA* โดยคาด TICON จะได้รับอานิสงส์จากโครงการ EEC และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั่วประเทศ เช่น รถไฟทางคู่ เช่นกัน ... เราคาดร่างกฏหมาย EEC จะผ่าน และมีผลบังคับใช้ภายใน 1H61 2) รูปแบบราคาฟื้นตัวตามคาด ประเมินแนวรับ 17.1 บาท และ 16.7 บาท / แนวต้าน 17.7 - 18.1 บาท (Stop loss 16.3 บาท)
หุ้นในกระแส
  กลุ่มรับอานิสงส์บาทแข็ง เราประเมินค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ (แต่ขายสินค้าในไทย) เช่น กลุ่ม TVO (นำเข้าถั่วเหลืองมาผลิตกากถั่วเหลือง+น้ำมันขายในไทย), RSP (นำเข้ารองเท้า Converse มาขายในไทย), WINNER (นำเข้าสินค้าอาหารขายในไทย) เป็นต้น และกลุ่มขายสินค้าอุปกรณ์ไอที ที่ต้องนำเข้าสินค้า เช่น COM7*, SYNEX, JMART* เป็นต้น / ขณะเดียวกันแนะนำชะลอการลงทุนในกลุ่มส่งออกอย่าง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ยอดผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์อาจชะลอตัวลงระยะสั้น เป็นต้น
  กลุ่มค้าปลีก การบริโภคในประเทศ (ตัวหลัก CPALL*, ROBINS*, COM7* / ตัวรอง TNP, MOONG) จากประเด็น i) การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (ครั้งแรกในรอบ 3 ปี) ii) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 35 เดือน iii) เงินเฟ้อเดือน ธ.ค. +0.78% (ปี 2560 +0.66%) คาดปี 2561 แตะ +1% เงินเฟ้อระดับอ่อนๆคาดเป็นบวกต่อ SSSG ของกลุ่มค้าปลีก แนะนำ “อ่อนตัวสะสม” หุ้นกลุ่มค้าปลีกต่อ เน้นตัวหลักเป้าหมายกองทุน CPALL*, ROBINS*, COM7* และอาจพิจารณาหุ้นตัวรองในกลุ่มที่ Laggard อย่าง TNP, MOONG
หุ้น Small cap ที่มีธีม Turnaround / M&A ในปีนี้ (SPPT, SIMAT, TPAC)
  i) SPPT: คาด Turnaround จากการขายสินทรัพย์ผลตอบแทนต่ำออกไป และซื้อธุรกิจผลตอบแทนสูงเข้ามาแทนที่ (ตอนนี้ซื้อธุรกิจงานระบบฯไอที + จัดตั้ง บ. ด้าน Software logistic และ Fintech) ตอนนี้ไม่มีหนี้ระยะยาว + เงินสดเหลือเยอะ คาดเตรียมซื้อกิจการใหม่เพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้
  ii) SIMAT: คาด Turnaround จากการที่ธุรกิจอินเตอร์เนตมีจำนวนลูกค้าถึงจุดคุ้มทุนแล้วใน 4Q60 EBITDA เป็นบวกได้ราว ±10 ล้านบาท/ไตรมาส จึงไม่เป็นตัวถ่วงธุรกิจอื่นๆที่มีกำไรเด่นอย่างธุรกิจ Label และธุรกิจ Software Logistic รวมถึงการได้เงินเพิ่มทุน PP เข้ามา จะทำห้สภาพคล่องในบริษัทดีขึ้น พร้อมประมูลงานระบบฯในปีนี้ ... ล่าสุดเซ็น MOU เข้าซื้อกิจการแผงวงจรสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดปิดดีลภายใน 1Q61 รับรู้กำไร 2Q61
  iii) TPAC: ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 15 ม.ค. เพื่ออนุมัติการเข้าซื้อกิจการ ผลิตขวดพลาสติกที่ประเทศอินเดีย (Sunrise Containers Limited: SUNRISE) ในอัตราส่วน 80% แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรายงาน IFA ที่แจ้งตลาดฯวันที่ 28 ธ.ค.เพิ่มเติม
หุ้นมีข่าว
  (+ กลุ่มขายอุปกรณ์ฯ COM7*, JMART* / + กลุ่มงานวางระบบฯ SPPT, SIMAT, AIT) ธุรกิจลงทุนไอทีพุ่ง (โพสต์ทูเดย์) ไอดีซีคาดปีนี้องค์กรลงทุนไอทีแตะ 4.4 แสนล้าน ตลาดสมาร์ทโฟนราคาแรงขึ้นหนุนความต้องการของผู้ใช้งาน นายจาริตร์ สิทธุ ผู้บริหารประจำ ไอดีซีประเทศไทย เปิดเผยว่า องค์กรต้องการเติบโตได้ในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย ดิจิทัล เพื่อการแข่งขันและสร้างโอกาส ใหม่ๆ จึงเร่งลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มศักยภาพในการทำงาน
  (+ กลุ่มสื่อ MONO*, RS, PLANB) งบโฆษณาปี 60'แสนล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) นีลเส็น สรุป เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อปี 2560 มูลค่า 1.01 แสนล้าน ลดลง 6% ปีนี้ลุ้นอุตสาหกรรมกลับมาโต 10% กลุ่มรถยนต์-สื่อสาร-มือถือ แข่งเดือด คาดใช้งบโฆษณาเพิ่ม
  (+) FPI คาดปีนี้ งานนอกหนุนรายได้โต 10% (โพสต์ทูเดย์) FPI ส่งซิกปีนี้รายได้โต 10% ทำสถิติสูงสุดใหม่ ม.ค.กดปุ่มสตาร์ทโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในอินเดีย หลังมีออร์เดอร์ในมือ 300 ล้าน นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้และกำไรปีนี้เติบโตมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีโอกาสเห็นผลประกอบการทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เนื่องจากมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาต่อเนื่องจากลูกค้าทวีปยุโรปและออสเตรเลีย โดยปีนี้ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
  (0) PACE เสริมทีมผู้บริหาร SCB* ถือหุ้น (โพสต์ทูเดย์) PACE ปรับโครงสร้างบริหารดึง "สยาม" นั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านไทยพาณิชย์เข้าถือหุ้น 9.62% แล้ว นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติแต่งตั้งนายสยาม ทองกระบิล เป็นรองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.เป็นต้นไป
  (+) BCP* ทุ่มงบลงทุนหมื่นล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมัน (ข่าวหุ้น) BCP* ทุ่ม 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มประสิทธิโรงกลั่นน้ำมัน มั่นใจสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น พร้อมส่ง “กาแฟอินทนิล” บุกตลาดกัมพูชา-สปป.ลาว เริ่มเปิดสาขาแรกภายในปี 2561
  (+) BSM ลั่นรายได้ปีนี้โต 800 ล้าน 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้อสังหาฯพุ่ง 50% (ข่าวหุ้น) BSM ลุยอสังหาฯเต็มสูบ ตั้งเป้า 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบัน 15-20% ส่วนปี 61 ปั๊มรายได้พุ่ง 800 ล้านบาท จากปี 60 คาดจะทำได้ 600 ล้านบาท ล่าสุดผู้ถือหุ้นไฟเขียวขายหุ้น PP จำนวน 200 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.65 บาท เพื่อระดมทุน 130 ล้านบาท เข้าซื้อ The Teak Sukhumvit 39 เล็งเปิดใหม่อีก 1 โครงการภายในปีนี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  BANPU* (เป้าพื้นฐาน 24 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 21.2 บาท
  SIMAT (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 3.22 บาท และ 3.16 บาท / แนวต้าน 3.40 บาท และถัดไปที่ 3.66 บาท (Stop loss 3.0 บาท)
  TNP (เป้า Consensus 3.0 บาท) ประเมินแนวรับ 2.70 บาท / แนวต้าน 2.90 – 3.06 บาท (Stop loss 2.58 บาท)
  WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 4.16 บาท
  ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 6.1 – 6.0 บาท / แนวต้าน 6.3 – 6.6 บาท (Trailing Stop 5.8 บาท)
  MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) ประเมินแนวรับ 5.6 บาท และ 5.5 บาท / แนวต้าน 6.0 บาท และถัดไป 6.5 บาท (Trailing stop 5.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  กลุ่มสื่อ น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินยอดการใช้จ่ายโฆษณาในเดือน ธ.ค. 2560 ทรงตัว MoM อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท แต่ลดลง 8% YoY สื่อที่ยอดโฆษณาเพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 4Q60 คือสื่อในโรงภาพยนตร์ ซึ่งโตถึง 38% YoY รองลงมาคือ ทีวี ซึ่งโต 11% YoY แต่ไม่มีสื่อประเภทใดเลยที่ยอดโฆษณาเพิ่มขึ้น QoQ ฝ่ายวิจัยฯให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มสื่อที่ Outperform จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งของหุ้นสื่อที่เราดูแลอยู่ (BEC*, PLANB, MAJOR*, MONO*, RS และ WORK*) ที่คาดว่าจะโตถึง 40% YoY ในปี 2561 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของ SET เราเลือก MONO* เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม
  กลุ่มขนส่ง น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯประเมิน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2560 น่าจะสูงถึง 35 ล้านคน ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะกระทบกับผลการดำเนินงานของสายการบินต่างๆ ก็คือ การแข่งขันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม บางสายการบินเริ่มปรับขึ้นค่าตั๋วและค่าธรรมเนียมน้ำมันในเส้นทางบินระหว่างประเทศบางเส้นทางแล้วในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เลือก THAI* เป็นหุ้นเด่น
Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---   นัยต้าน 1805 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1805 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1805-1815 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1805 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1805-1785 จุด
  แนวรับวันนี้:          1797/1786                  แนวต้านวันนี้:          1805/1814
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO4420

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!