สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -0.29 จุด ย่ำฐานจากต่างชาติขายปรับพอร์ต และ LTF
  SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1791-1807 มูลค่าซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 8.9 หมื่นลบ. แม้กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยช่วยหนุน SET ขึ้นทะลุ 1800 ได้ในระหว่างวัน แต่เผชิญแรงขายต่อเนื่องจาก LTF ที่ครบกำหนด 5 ปี ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิหนักขึ้นเป็น 4.35 พันลบ. 5 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 7,258 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ย่ำฐานกรอบ 1785-1810 ต่อไป, มีปัจจัยเฝ้าระวังเพิ่ม
  หุ้นโลกเมื่อวาน (10 ม.ค.) ส่วนใหญ่ปรับลง โดยหุ้นสหรัฐฯ ร่วงเป็นครั้งแรกของปีนี้ วิตกเจ้าหน้าที่ระดับสูงกรุงปักกิ่งแนะนำรัฐบาลจีนควรหยุดหรือลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ หนุน 10Y US Bond Yield อยู่ที่ 2.55% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 10 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกดดันจากกระแสข่าวปธน.ทรัมป์เล็งถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลง NAFTA กระทบต่อหุ้นหลายตัวที่ได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้ ด้านราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นต่อ ปิด 63.57$/bbl สูงสุดใหม่ในรอบมากกว่า 3 ปี หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาด (จริง -4.948m vs คาด -3.890m) มอง SET แกว่งลักษณะย่ำฐานต่อจากเมื่อวานในกรอบ 1785-1810 นลท.เริ่มเฝ้าระวังการปรับตัวขึ้นของ Bond Yield อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรหุ้นทั่วโลกได้ง่าย รวมทั้งยังรอติดตามงบแบงก์ทั้งในและตปท.ที่จะเริ่มทยอยประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แนวรับ 1790-92, 1785 แนวต้าน 1800+/-, 1810 ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ, ยืน 1800 ได้จึงจะเริ่มซิกแซกขึ้น
  แนะหาจังหวะเทรดดิ้งสั้นในกรอบ 1780-1820 ขึ้นขายทำรอบ-ลงซื้อคืนและใช้จุด Stop หาก SET ปิดต่ำกว่า 1760  แต่หากยืนปิด 1800 ได้น่าจะสะท้อนการพักฐานสิ้นสุดเข้าสู่แนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น อย่างไรก็ดีแนะจับตา Bond Yield ใกล้ชิด หากพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ควรขายกระชับพอร์ต ถือเงินสดเพิ่ม เพราะตลาดจะผันผวนมากขึ้นในระยะสั้น
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick TASCO – เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางมะตอยรายใหญ่ระดับเอเชียที่ราคาหุ้นยัง laggard ในหุ้นที่เกี่ยวข้องราคาน้ำมัน-โภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้นตลอดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา, มองกำไรปี 18F จะโต 35% ฟื้นตัวจากปี 17F ที่เป็นจุดต่ำสุดรอบ 3 ปี / AOT เราปรับประมาณการกำไรปี 18-20F ขึ้น 3-7% จากตัวเลขนักท่องเที่ยว พ.ย. ที่ดีเกินคาด และปรับเป้าพื้นฐานขึ้น 62 บ. เป็น 69 บ.แต่ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” หลังราคาหุ้นขึ้นสะท้อนปัจจัยบวกไปแล้วจนไม่มี upside / Commodities Play – BANPU, IRPC, PTTGC, STA, TASCO (เพิ่มเป็น Laggard) / หุ้นหลักทรัพย์ได้ประโยชน์จากวอลุ่มตลาดดี – ASP, KGI (ทั้งคู่มีปันผลดี) / งบแบงก์ 4Q17F ที่คาดดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ – BAY, KTB, TCAP / หุ้นเกี่ยวข้องการบริโภค-การท่องเที่ยวคาดได้อานิสงส์การลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ กระตุ้นกำลังซื้อให้กระจายครบทุกกลุ่ม – AOT, BEAUTY, BJC, CENTEL, COM7, CPALL, ERW, MINT, ROBINS / หุ้นปันผลดีน่าสะสม BANK – ชอบ KKP, TCAP / ENERG – SPCG, SPRC, TTW / ETRON – HANA / FIN – ASP, KCAR, PL / ICT – AIT, MSC, SIS / PROP – LALIN, LH, PRIN, PSH, QH / OTHERS – LHK, TMT / หุ้นได้ประโยชน์การลงทุนภาครัฐ-เร่งผลักดัน EEC และลงทุนเอกชนฟื้นตัวตาม – นิคม AMATA, ROJNA, WHA รับเหมา – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO / แบงก์ – BAY, BBL, KBANK, TMB / Laggards - SCB, KTB
หุ้น Weekly GURU ซื้อ ASP (เป้าสั้น 4.24 บ.), CK (28.5 บ.), KTB (21 บ.), TPIPP (8.6 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว SCC (+1.2%)
หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) BANPU, BAY, IRPC, KTB, ROJNA, RS, STA, TPIPP
หุ้นเด่น 1H18 BEAUTY, COM7, JWD, ORI, PLANB, ROJNA, RS, SEAFCO, STEC, TPIPP

ปัจจัยติดตาม
วันที่             ปท.         เหตุการณ์
8-22 ม.ค.       TH       กลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการปี 2017
11 ม.ค.       JP, EU        ดัชนีชี้นำศก.ญี่ปุ่นใน พ.ย. (เบื้องต้น), ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปใน พ.ย.
                    US            ดัชนีราคาผู้ผลิตและงบประมาณรายเดือนสหรัฐฯ ใน ธ.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ รายสัปดาห์
12 ม.ค.         CH, US       ตัวเลขส่งออก, นำเข้า และดุลการค้าจีนใน ธ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ใน ธ.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
 
นักวิเคราะห์ : 
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล   เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171    02-633-6467   : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์      เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537    02-633-6471   : [email protected]