- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 January 2018 16:22
- Hits: 2146
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1785 แนวต้าน 1800-1805
SET Index: 1796.32 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับในระยะสั้นที่ 1785 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไป หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1805 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1800-1805 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1780 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไป 1760 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1830-1840 จุด
แนวต้าน : 1797 และ 1800
แนวรับ : 1790 และ 1785
AOT = 69.00/70.00, EA = 62.00/65.00, PTT = 464/470, SCB = 152/154, KBANK = 232/235
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.40 / แนวต้านสำคัญ 18.00
แนวรับ : 16.20 และ 16.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TIPCO โดยมีแนวรับที่ 16.20 และ 16.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 17.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 15.30 ลงไป
Thai Vegetable Oil (TVO TB; THB 31.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 34.00 และ 35.00
แนวรับ : 31.75 และ 31.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI เคลื่อนไหวเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TVO โดยมีแนวรับที่ 31.75 และ 31.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.00 และ 35.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 30.50 ลงไป
SET Index: 1796.32 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับในระยะสั้นที่ 1785 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไป หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1805 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวต้านที่ 1800-1805 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1780 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไป 1760 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1830-1840 จุด
แนวต้าน : 1797 และ 1800
แนวรับ : 1790 และ 1785
AOT = 69.00/70.00, EA = 62.00/65.00, PTT = 464/470, SCB = 152/154, KBANK = 232/235
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.20) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.40 / แนวต้านสำคัญ 18.00
แนวรับ : 16.20 และ 16.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TIPCO โดยมีแนวรับที่ 16.20 และ 16.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 17.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 15.30 ลงไป
Thai Vegetable Oil (TVO TB; THB 31.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 34.00 และ 35.00
แนวรับ : 31.75 และ 31.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI เคลื่อนไหวเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TVO โดยมีแนวรับที่ 31.75 และ 31.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.00 และ 35.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 30.50 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ประเมินหุ้นกลุ่มพลังงาน-ค้าปลีก
หุ้นกลุ่มที่ขึ้นได้แรงในช่วง Q4/17 ถึงปัจจุบันคงหนีไม่พ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มค้าปลีกขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Q3/17 การขึ้นมาของหุ้นทั้ง 2 กลุ่มมาจากทิศทางราคาน้ำมันและการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ และที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่มองกันว่าทั้ง 2 กลุ่มนี้ผลการดำเนินงาน Q4/17 จะออกมาดี จากฐานขัอมูลใน Thomson Reuters/IBES พบว่ากำไรใน Q4/17 ของกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและค้าปลีกต่างออกมาดีเมื่อเทียบกับ Q4/16
รูปด้านซ้าย เราแสดงค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี เทียบระหว่าง P/E สูงสุด-ต่ำสุด ปัจจุบัน และเฉลี่ยในรอบ 10 ปีจะพบว่าเกือบทั้งกลุ่มขึ้นไปเล่นเหนือค่า P/E เฉลี่ย 10 ปี ยกเว้น 2 บริษัทที่ยังเล่นกันต่ำกว่าค่าเฉลี่ย คือ IRPC และ BANPU ขณะที่ IVL เล่นที่ค่าเฉลี่ย ส่วนที่ขึ้นไปถึงค่า P/E สูงสุดในรอบ 10 ปีคือ PTT และ PTTGC ส่วน SPRC กำลังขึ้นไปเล่นใกล้ค่า P/E สูงสุดในรอบ 10 ปี ดังนั้นราคาหุ้นในกลุ่มนี้จะขึ้นต่อหรือปรับตัวลง ยังต้องติดตามดูงบ Q4/17 ส่วนจะมีแรงซื้อเข้ามาอีกหรือไม่ในช่วงนี้ เรามองว่าอาจจะเป็นบางตัว แต่ส่วนใหญ่มองราคาหุ้นน่าจะเริ่มนิ่งๆ ยกเว้นราคาน้ำมันจะกระชากขึ้นแรงๆ ทะลุ 70 ดอลลาร์ต่อบารเรล์
กลุ่มค้าปลีกหลัก การประเมินยิ่งหนักว่ากลุ่มพลังงาน คือ ส่วนใหญ่กำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่สูงมากๆ แม้จะยังไม่ถึงจุด P/Eสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยหุ้นที่ขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 สูงสุดในรอบ 10 ปีมีตัวเดียวคือ CPALL ส่วนในกลุ่มค้าปลีกขนาดเล็ก อย่าง BIG COM7 ถือว่าไม่แพง ขณะที่ BEAUTY ขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าสูงสุดของอุตสาหกรรม การลงทุนในกลุ่มนี้ยังต้องรอให้งบ Q4/17 ออกมาก่อนเพื่อรอประเมินดูงบรายตัว
ดัชนี SET ยังมีความพยายามที่จะขึ้นไปยืนเหนือ 1800 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี แต่ก็ยังเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าการขึ้นไปยืนเหนือ 1800 จุดที่ 1830 จุดหรือปรับตัวลงมาที่กรอบ 1770-1760 จุด จะตัดสินจากงบ Q4/17 ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน โดยประเด็นแรก คือ งบ คาดว่าดัชนีในระดับนี้น่าจะเป็นการรับงบไปแล้ว ประเด็นที่สอง ยังคุมเครือจนกว่าจะดิ่งลงแรงๆ ส่วนประเด็นสุดท้าย คือตัวแปรจริงๆ คือหากยังขึ้นต่อไปที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็น่าจะมีแรงซื้อพลังงานหลัก ส่วนที่ต้องระวังกับแรงขายคือ กลุ่มโรงกลั่น ที่ตอนนี้ค่าการกลั่นลงมาต่ำกว่า 6 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ต่ำสุดในรอบ 5 ปี จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบและการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่น
หุ้นกลุ่มพลังงานที่คึกคักมาโดยตลอด น่าจะเริ่มเผชิญกับแรงขาย หลังค่าการกลั่นปรับตัวลง ราคาหุ้นเทรดกันที่สูง ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่ทะลุ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล หากมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมา ตลาดหุ้นน่าจะซึมตัวลง นอกจากนั้นดูเหมือนดัชนีระดับ 1800 จุดจะเป็นแนวต้านที่สำคัญเพราะต่างชาติเน้นขายหนักๆ ที่บริเวณนี้ วันนี้มองดัชนี SET จะปรับตัวลงเพื่อสร้างฐานหลังยังไม่เห็นปัจจัยหนุน โดยวันนี้มีแนวต้านที่ 1798-1802 จุดและแนวรับที่ 1787-1783 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IVL ANAN BANPU ROBINS และ BIG
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,796.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด (+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย46,864.62 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวน โดยดัชนีถูกกดในช่วงเปิดตลาดจากแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานหนุนตลาดไว้ ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับลงตามตลาดดาวโจนส์ ติดตามผลประกอบการ 4Q17 ของกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มทยอยประกาศในปลายสัปดาห์นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ผันผวนในกรอบ SET ยังแกว่งอยู่ในกรอบจำกัด โดยมองแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1800-1805 จุด และแนวรับบริเวณ 1785-1780 จุด ตลาดยังรอปัจจัยใหม่มาหนุน อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมของตลาดในระยะกลางจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แนะเก็งกำไร AP ANAN CPALL IVL TMB
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 16.20) – ซื้อ
Thai Vegetable Oil (TVO TB; THB 31.75) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : CHO, KCM, TCMC-W2, III* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4405