- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 September 2014 16:35
- Hits: 2960
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อค่าบวก หรืออ่อนแต่ไม่หลุด 1550”
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : อ่อนลง เมื่อวันศุกร์ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นเล็กน้อย 2.58 จุด มาปิดที่ 1561.63 โดยนักลงทุนยังมีความคาดหวังในทางบวกกับการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจาก Asset Classประเภทอื่นยังไม่จูงใจมากนัก ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบจ.อยู่ในโมเมนตัมบวกรวมทั้งในสัปดาห์นี้จะมีการประชุม ECB ด้วย ซึ่งอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่ม นักลงทุนต่างชาติซื้อ-ขายใกล้เคียงกัน สถาบันในประเทศและพอร์ตบล.ขายสุทธิกลุ่มละประมาณ 500+/- ล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 1.0 พันล้านบาท
ปัจจัยและกลยุทธ์ : ปัจจัยภายนอกที่ติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งมีกระแสคาดการณ์ว่า ECB อาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น QE หลังจากเมื่อเดือนมิ.ย. ทาง ECB ได้ประกาศชุดมาตรการกระตุ้น ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (Target LTRO) และการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการซื้อขาดหลักทรัพย์ที่ใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน แต่เศรษฐกิจยูโรโซนยังชะลอตัวลง นอกจากนั้นยังมีสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งดูว่าอุณหภูมิความขัดแย้งจะคุกกรุ่นขึ้นอีกระลอก สำหรับในประเทศ ในหลวงได้โปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีใหม่ 32 คนแล้ว ซึ่งคาดว่าภาคเอกชนมีผลตอบรับในทางบวก โดยรัฐมนตรีที่มาจากนายทหารระดับสูงหลายท่านมีข้อมูลเพื่อใช้บริหารกระทรวงที่ต้องรับผิดชอบในฐานะคสช.ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจก็เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว จากนี้ไปก็ต้องติดตามผลงานในการบริหารประเทศของรัฐมนตรีชุดนี้ต่อไป ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย มองว่ายังอยู่ในโมเมนตัมบวก โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นโดดเด่นใน 4Q57 คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอย (ค้าปลีก), อาหาร, สื่อ, ท่องเที่ยว & โรงแรม และขนส่ง หุ้น Top Picks จาก Theme การลงทุนในเดือนก.ย.57 ดังกล่าวเป็น CENTEL, CPN, MC, TUF, VGI ส่วน Dark Horse คือ TMB, VIBHA หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อวันนี้เป็น CENTEL
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือการอ่อนตัวที่ต่ำกว่า 1550 จุด ควรชะลอการเก็งกำไร/ลดพอร์ตตามในกรณีที่มีหุ้นมาก เหลือเงินสดอยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1520 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1570, 1580 จุด สำหรับหุ้นที่คาดว่าราคามีโอกาสทำ New High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค คือ HMPRO, MINT, CENTEL, THREL, VGI, DELTA, TUF, EPCO, JMT, TPIPL ส่วนหุ้นที่แนะนำไป และอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit (สำหรับการลงทุนรอบสั้น) คือ FORTH, TTA
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829
[email protected]