- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 September 2014 16:03
- Hits: 2400
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ซื้อเล่นรอบ 1,546
Technical : แนวรับ 1,559 / 1,546 แนวต้าน 1,570 / 1,577
หุ้นแนะนำพิเศษ : EARTH แนวรับ 5.60-5.80แนวต้าน 6.20/7.10
หุ้นเด่นรายวัน : SYNTEC GOLD UV KBS
วันศุกร์ตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,561.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด(+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 48,744.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 28.79 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,500-1,577 การปรับตัวลงมีแรงซื้อกลับคืนจากแนวรับ 1,559 / 1,550 แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี รวมทั้งปัจจัยต่างประเทศ การประชุมECB สถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนคู่สร้างแนวรับจุดต่ำ 1,039 และกลับตัวเหนือ 1,044 เป็นสัญญาณบวก ไม่สร้างจุดต่ำกว่า 1,039 มีโอกาสกลับตัวขึ้น GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,570-19,690 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,630-19,750
กลยุทธ์ ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ากระตุ้น ปริมาณการซื้อขายเป็นสัญญาณชี้นำทิศทางตลาด ซึ่งยังคงการซื้อเก็งกำไรเล่นรอบระยะสั้นหุ้นขนาดกลางและเล็กเป็นหลัก หุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นBig Caps. ยังขาดปัจจัยบวกเรื่องแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหลังงานThailand Focus ตลาดคาดจะมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร ในขณะที่กลุ่มพลังงาน (กลุ่ม ปตท.) แรงขายลดความเสี่ยงจากโครงสร้างราคาพลังงานส่งผลราคาอยู่ในภาวะขายมากทางเทคนิค และมีโอกาสที่จะเกิดการเล่นรอบกลับขึ้นไป PTT PTTEP PTTGC EARTH หุ้นรายหลักทรัพย์ UV KBANK TPIPL TRUE ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
EARTH (ปิด 5.95 ซื้อเป้าปี 58: 8.25 บาท)ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเนื่องจากเรามองแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังยังเติบโตอย่างต่อเนื่องตามยอดขายถ่านหินที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายที่บริษัทมีกำหนดส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับบริษัทมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นหลังจากล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญาขายถ่านหินให้กับลูกค้าในประเทศเกาหลีใต้โดยมีกำหนดส่งมอบถ่านหินตั้งแต่เดือนต.ค.ปีนี้ นอกจากนี้เราคาดว่าการขุดเจาะถ่านหินในอินโดฯจะทำได้มากขึ้นเนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีปัญหาเรื่องฝนตกหนักเหมือนครึ่งปีแรกซึ่งเป็นฤดูฝนของอินโดนีเซีย โดยปีนี้เราคาด 1,362 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
SYNTEC (ปิด 2.34 ซื้อเป้าปี 58: 3 บาท) โชว์งานในมือ (Backlog) อย่างแข็งแกร่งโดยปัจจุบันมี Backlog เหลืออยู่กว่า 10,300 ล้านบาทรองรับการขยายตัวของรายได้ไปอีก 1-2 ปี ด้านผลประกอบการเพื่อสะท้อนกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ออกมาอย่างโดดเด่นและแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาที่กลับสู่ภาวะปกติเราจึงปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าขึ้น 24% และ 38% ตามลำดับเป็น 319 ล้านบาทและ 366 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 294%yoy และ 15%yoy ตามลำดับ
GOLD (ราคาปิด 10.3 ซื้อเก็งกำไร) UV(ราคาปิด 10.70 ซื้อเก็งกำไร) กลุ่มเสี่ยเจริญเตรียมระดมทุน 2.5 หมื่นล้านบาท ในการขายกอง REIT ราวเดือนต.ค. ในการขายทรัพย์สินของ UV GOLD และทีซีซีแลนด์เข้ากองทุนฯ ทั้งนี้คาดว่า GOLD บันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์ 2-2.5 พันล้านบาท UV กำไร 1.5 พันล้านบาทซึ่งจะบันทึกใน 4Q57 (ที่มา : ข่าวหุ้น)
KBS (ราคาปิด 11.20 ซื้อเก็งกำไร) กลุ่มมิตซุยฯ มั่นใจในศักยภาพใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ซื้อหุ้นสามัญเต็ม 50 ล้านหน่วย ในราคาหุ้นละ 12.70 บาท บริษัทเตรียมนำเงินกว่า 635 ล้านบาท เดินหน้าโครงการ “ชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์”มูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* BMCL / CKP/ EE / LIVE / RASA/ RPC/ TCC มีผลบังคับใช้ 28 ก.ค. - 5 ก.ย.57
* ABC มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. – 5 ก.ย. 57
* TMI มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค.-19 ก.ย.57
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค.-26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค.-3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 18.88 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 18.88 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในช่วงท้ายเดือนส.ค.ซึ่งทำการสำรวจโดยรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่าปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 82.5 จากระดับเดือนก.ค.ที่ 81.8 และเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อย่างไรก็ตามดัชนีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงกดดันจากรายงานตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ค.ที่ปรับตัวลดลง 0.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น 0.2%ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 18.88 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 17,098.45 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 6.63 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 2,003.37 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 22.58 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 4,580.27 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.41 $/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนขานรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้เผยแพร่ "ภาพถ่ายจากดาวเทียม" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "กองกำลังทหารรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน" ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.96 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 103.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์