WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily 

SET INDEX

1791.02 +12.49 (+0.70) // Vol. 90,817

  ไปต่อเข้าใกล้ 1800 จุด แต่ควรระมัดระวังต่อการพักตัว จากสัญญาณเตือนในเชิงลบ กรอบ 1786-1800

  ดัชนียังคงเดินหน้าต่อ ขึ้นทดสอบ 1789 จุดที่รอคอยมา 23 ปี พร้อมทำปิดที่  All Time High 1791จุด ทำให้แนวโน้มดัชนียังมีแรงไปต่อที่เข้าใกล้ 1800 จุด แต่ด้วยภาพของดัชนีขึ้นแรง ๆ ติดต่อกัน 3 วันทำการ พร้อมกับการเปิด Gap ตลอดทาง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวมาปิดได้ทุกเมื่อ บวกกับภาพของกราฟแท่งเทียนที่เตือนในเชิงลบมีรูปแบบ Hangman ถึงแม้ Momentum ที่ยังไปได้ต่อ ทำให้ต้องระมัดระวังต่อการพักตัวเช่นกัน ที่ไม่ควรหลุด 1770 จุดเพื่อรักษาทิศทางของแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น

แนวรับ 1780-1786

แนวต้าน 1795-1800 // 1808

Technical Analyst :  พรรณนภา  เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

" คาดชน 1800 แต่จะผ่านได้ในที่สุด "

  ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเราคาดว่าวันนี้ตลาดจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ ภาพระยะสั้นมีกรอบแนวต้านที่จุดจิตวิทยาที่ 1,800 จุด แต่เรามองว่าตลาดจะสามารถปรับตัวผ่านจุดดังกล่าวได้ในระยะยาว .... ภาพต่างประเทศ ดัชนีดาวโจนส์ยังปรับตัวสูงขึ้นทำนิวไฮต่อเนื่อง จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดี และผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวสูงขึ้น .... ปัจจัยในประเทศ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคประกาศที่ 79.2 ปรับตัวสูงขึ้น 5 เดือนติดต่อกัน และค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 32.2 บาท/ดอลล่าร์

  กลยุทธ์การลงทุน : ในภาพระยะยาวเรามองว่าตลาดจะสามารถปรับตัวขึ้น ทะลุ 1,800 จุดได้ จึงแนะนำเป็น "ซื้อ"  โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ PTTEP, CPALL, KBANK

          หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ :   STEC*, SAWAD, AMATA

          หุ้นแนะนำทางเทคนิค :  PTG, PSL, ORI

          * เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

หุ้น Active ที่น่าสนใจ

(+) PTTEP : ยังคงมองว่า PTTEP สามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาได้ดีจากแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงที่ระดับ 62 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเกือบ 3% เทียบกับสัปดาห์ก่อน  โดยเรามองว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังยืดเยื้อ และการประชุม OPEC ครั้งก่อนที่มีการตกลงลดกำลังการผลิต

(+) CPALL : ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้น 5 เดือน ติดต่อกัน เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคกำลังมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น เป็นบวกต่อธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าเพื่ออุปโภค-บริโภค หรือร้านค้าปลีกทั่วไป จึงมองว่า CPALL จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง

(+) KBANK : หุ้นกลุ่มแบงก์มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาด เรามอง KBANK มีความน่าสนใจที่สุดของกลุ่ม จากมุมมองเชิงบวกต่อการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญที่จะลดลงในปีหน้า

(+) STEC : ประเมินภาครัฐฯ จะทยอยประกาศและอนุมัติโครงการในช่วง 1Q มากขึ้น และช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวลดลงมาค่อนมากจากความล่าช้าในการอนุมัติโครงการต่างๆ  .... สำหรับ STEC มีประเด็นบวกที่สำคัญ คือ ถือหุ้น GULF  อยู่ 40 ล้านหุ้น ซึ่งหากยังไม่ขายหุ้นจำนวนนี้ออกไป STEC จะมีกำไรจากเงินลงทุน คำนวณจากราคาตลาดที่ 68.75 บาท กว่า900 ลบ.  (STEC มีกำไรสุทธิ 9M/60 ที่  709 ลบ.)

หุ้นมีประเด็น

(+) กลุ่มค้าปลีก : (น้ำหนักเท่ากับตลาด)

          ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.60 อยู่ที่ 79.2 จาก 78.0 ในเดือน พ.ย.60 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน

เรามองว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้น 5 เดือน ติดต่อกัน เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคกำลังมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น เป็นบวกต่อธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าเพื่ออุปโภค-บริโภค หรือร้านค้าปลีกทั่วไป เรายังคงมีมุมมองในทางบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่จะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนิ้ จากดัชนี ยอดขายห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป ที่รวบรวมโดย ธปท. พบว่า ในช่วงเดือน ก.ย.- ต.ค. 60 การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเริ่มสูงขึ้นตามลำดับ เป็นบวกต่อ  BEAUTY, CPALL, HMPRO, ROBINS, BJC  โดยเรายังแนะนำ "ซื้อ" หุ้นทั้ง 5 ตัวนี้

(+) กลุ่มค้าปลีก, (-) กลุ่มเกษตร, (-) กลุ่มรับเหมาฯ

          ปรับเพิ่มค่าแรงขั่นต่ำ: คณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) จะมีการพิจารณาก่อนวันที่ 15 มกราคมนี้ และจะเร่งนำเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อมีมติเห็นชอบ ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 31 มกราคมนี้

          ทั้งนี้การพิจารณาจะอยู่บนพื้นฐานของผู้ใช้แรงงานได้รับความเป็นธรรมและได้รับการคุ้มครอง ผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ ส่วนอัตราจะเท่ากันทั่วประเทศหรือไม่ ต้องรอให้บอร์ดค่าจ้างพิจารณา แต่จะต้องรอบคอบ โดยยืนยันว่าภายในวันที่ 15 มกราคมนี้ จะได้ข้อยุติ และจะต้องมีผลเพื่อให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างอัตราใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้ หุ้นที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและเกษตร-ประมงได้แก่ STEC, ITD, CK, TU ในขณะที่หุ้นที่ได้รับปัจจัยบวก คือ เครือข่ายร้านค้าปลีก CPALL

(+) กลุ่มสื่อ

          เม็ดเงินโฆษณาส่อฟื้น ทีวีดิจิทัลจัดผังใหม่โกย (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์) สัญญาณการเติบโตที่ดีของสื่อทีวีส่งผลให้บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) หรือ KWP ออกมาคาดการณ์ว่าภาพรวมของสื่อทีวีในปี 2561 จะมีสัดส่วนเม็ดเงินไหลผ่านเข้ามาเพิ่มเป็น 57.4% อยู่ที่ 58,000 ลบ.จากปี 2560 มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 56.6%  ที่ 51,850 ลบ. เรามีมุมมองเชิงบวกกับข่าวข้างต้น โดยทางเจ้าของช่องทีวีดิจิตอลได้มีการปรับผังรายการ และปรับค่าโฆษณาใหม่

          โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากข่าวข้างต้น คือ RS, WORK, MONO, BEC ซึ่ง RS มีแผนปรับค่าโฆษณา ขึ้น 45% ใช้งบลงทุนที่ 700ลบ. เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อทีวีของ RS จะอยู่ที่ 2,075 ลบ เพิ่มขึ้น 60% YoY ส่งผลจากการปรับค่าโฆษณาสะท้อนเรตติ้งที่ดีขึ้น และปรับกลยุทธ์โฟกัสช่วงprime time เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 30 บาท

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (04 ม.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,791.02 จุด เพิ่มขึ้น 12.49 จุด หรือ +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 90,816.95 ล้านบาท ปริมาณการซื้อขายเข้ามามาก จากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบยังคงสามารถปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจัยต่างประเทศ

(+) เศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 250,000 ราย

(+) ราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงต่อเนื่อง - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นที่ระดับ 62.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปัจจัยในประเทศ

(+) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเติบโต - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.60 อยู่ที่ 79.2 จาก 78.0 ในเดือน พ.ย.60 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน

(+) ลงนามสัญญาคลื่น 2100 MHz กับ ADVANC ในวันนี้ - รายงานข่าวจากบมจ.ทีโอที เปิดเผยว่า บริษัทจะจัดพิธีลงนามในสัญญาเช่าเครื่องและอุปกรณ์เพื่อให้บริการโทรคมนาคม และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศระบบ 2100 MHz ระหว่างทีโอที และบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)

(+) ค่าเงินบาทยังแข็งค่า - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แนวโน้มเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับประเทศในภูมิภาค เพราะเงินทุนไหลเข้าจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น ซึ่งไม่ได้มีการแทรกแซงค่าเงิน เพราะค่าเงินแข็งค่ามาจากความเชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ (โพสต์ทูเดย์, 05/01/2018)

Analyst :  Mongkol Puangpetra

          License No: 001937  

          +662 648 1123

          mongkol.p@ktbst.co.th

          Nontapat Rushtasomboon

          License No: 081447  

          +662 648 1127

          nontapat.r@ktbst.co.th

OO4208

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!