- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 September 2014 15:03
- Hits: 2461
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET จะแกว่งตัวไร้ทิศทาง
SET View
แนวโน้ม วันนี้คาด SET เคลื่อนไหวไร้ทิศทางในกรอบ 1550-1565 จุด จาก (1) ในประเทศแม้นักลงทุนจะคาดการณ์เชิงบวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังการมีรัฐบาลชุดใหม่ แต่กลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงอ่อนตัวลง และความวิตกปรับโครงสร้างกลุ่มปตท.อาจกดดัน SET ขณะที่กลุ่มธนาคารเริ่มไม่ถูก ซื้อขายใกล้แนวต้านเดิมบริเวณ 1.9xP/BV (2) เริ่มเห็นสัญญาณการพักฐานของตลาดหุ้นในเอเชีย นักลงทุนอาจรอดูสถานการณ์ว่าดัชนีดาวโจนส์จะผ่านทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 17,098 จุดได้หรือไม่ใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1570 จุดภายในสัปดาห์นี้เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินโลกยังดีอยู่สังเกตจากอัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังคงมีทิศทางอ่อนตัวลงต่อเนื่อง และคาดหวังเชิงบวกต่อธนาคารกลางยุโรปที่จะประกาศมาตรการเสริมสภาพคล่องปลายสัปดาห์นี้ กอปรกับคาดมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนขึ้น XD ในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ยืนเหนือ 1550 จุด เน้นขึ้นขายลงซื้อในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะ หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มนำตลาดมูลค่าตลาดขนาดใหญ่
(1) Top Daily Pick : WORK (คาดผลประกอบการ 2H57 โตก้าวกระโดดจากรายได้ Workpoint TV เริ่มเข้ามาอย่างมีนัย) และ CPF (คาดผลประกอบการ 2H57 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปัจจัยฤดูกาลรวมถึงการฟื้นตัวของธุรกิจกุ้งส่งออก)
(2) Technical Pick : TRUE STEC ADVANC TMB TPIPL
(3) Theme Play : กลุ่มอาหาร/อิเล็กทรอนิกส์ (CPF TUF DELTA SVI) ยอดขายเร่งตัวช่วง 2H57 ตามปัจจัยฤดูกาล กลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW) และกลุ่มนิคมฯ (HEMRAJ AMATA) คาดรัฐบาลชุดใหม่มีมาตราการสนับสนุนเป็นลำดับต้น
แนวโน้ม SET เดือนก.ย. ขึ้นไปได้ถึง 1600 จุดแล้วพักฐาน
เรามองปัจจัยบวกระยะสั้นมีมากกว่าความเสี่ยงระยะกลางจาก (1) 1-2 สัปดาห์นี้ คาดรัฐบาลชุดใหม่จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (2) เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวก้าวกระโดดช่วง 2H57 โดยคาด GDP จะโตได้ถึง 3%-4% ต่อไตรมาส เทียบกับติดลบ 0.1% ข่วง 1H57 จากภาคส่งออกเข้าสู่ฤดูกาลสูง รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ นักลงทุนจะเริ่มคาดหวังเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโตของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในช่วงสิบสองเดือนข้างหน้า เรามองว่า SET มีความเป็นไปได้อาจขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1600 จุด เทียบเท่า 17xP/E’57 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบสิบสองเดือน (3) ปลายสัปดาห์นี้คาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะออกมาตรการเสริมสภาพคล่อง ด้วยการอัดฉีดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเข้าสู่ระบบธนาคารในยุโรป จะทำให้สภาพคล่องส่วนเกินโลกคงดำรงต่อเนื่อง (4) ทิศทางอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปียังยังมีแนวโน้มทรงตัวระดับต่ำ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงสะภาพคล่องส่วนเกินยังมีอยู่มาก
•ปัจจัยเสี่ยง มองการเคลื่อนไหวของ SET เดือนนี้จะผันผวนกว่าเดือนที่ผ่านมาและมีโอกาสพักฐานได้ทุกเมื่อ โดยมีแนวรับที่สำคัญบริเวณ 1520 จุด (ทางเทคนิค ตาม Gap ที่เปิดไว้ต้นเดือนส.ค.) และ 1497 จุด (16xP/E’57 ค่ากลางที่ซื้อขายในปี 56) เนื่องจาก (1) ด้านผลประกอบการ ช่วง 1H57 กำไรของบจ.ในตลท.เติบโตเพียง 3%YoY เทียบกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดกำไรทั้งปีจะเติบโตราว 7%-10% ขณะที่ช่วง 2H57 กลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบจากฤดูกาลต่ำ ขณะที่กลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากภาคส่งออกที่ยังฟื้นตัวช้าและหนี้สินภาคครัวเรือนระดับสูง ซึ่งสองกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบ 40% ของมูลค่าตลาด จึงมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 57 ลง ซึ่งจะกระทบต่อการประเมินมูลค่าในระยะถัดไป (2) ด้านประเมินมูลค่า SET ณ ระดับปัจจุบัน (1561 จุด) ซื้อขายที่ 15.7x ของกำไรเฉลี่ยปี 57-58 (คาดการณ์โดย KKTrade) เท่ากับสะท้อนผลประกอบการปี 58 ไปบางส่วนแล้ว หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น อาทิ รัฐบาลอาจดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ช้ากว่าคาด หรือเฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด จะเสี่ยงต่อการปรับลดลงแรง (3) การประชุม FOMC วันที่ 16-17 ก.ย. เนื่องจากมีการปรับปรุงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ เฟดอาจมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่า (4) สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน พร้อมกลับมาประทุขึ้นได้ทุกเมื่อ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก หากคลึ่คลายได้เร็ว อาจเห็นการขายทำกำไรในตลาดหุ้น Emerging Market เช่นไทย เพื่อกลับไปซื้อหุ้นยุโรปซึ่ง Underperform ราว 20% จากต้นปี
•กลยุทธ์การลงทุนเดือนก.ย. หาจังหวะทยอยสะสมหุ้นหรือเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวดีและ/หรือมีปัจจัยบวกรออยู่ช่วง 2H57 ได้แก่ กลุ่มอาหาร/ส่งออก/รถยนต์ (CPF TUF PSL AH) กลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว (AOT ERW MINT) กลุ่มอสังหา/รับเหมา/นิคม (SPALI QH LH CK HEMRAJ) กลุ่มสื่อสาร (THCOM SAMART SIM SYMC) และสื่อฯ (WORK)
Smart Port Note
PTTGC ราคาปรับลดลง 4.6% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบจากการปฎิรูปพลังงานของ คสช. ในเรื่องของการซื้อวัตถุดิบ LPG จาก PTT โดยไม่ว่าจะปรับเพิ่มราคา LPG ในภาคปิโตรเคมี หรือ PTTGC ต้องนำเข้า LPG เพื่อใช้ในการผลิตทดแทน จะทำให้ PTTGC มีความสามารถในการทำกำไรลดลง
BTS ซื้อหุ้นคืนภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6 พันล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืนตั้งแต่ วันที่ 25/08/57 – 24/02/58
TRUE หุ้นเพิ่มทุนเข้าซื้อ-ขายวันแรก 10/09/2557
AJD มูลค่าเหมาะสมอยู่ในระหว่างทบทวนประมาณการ
AJD ติด Cash Balance ระหว่าง 13/08/20147 – 19/09/2014
หุ้นใน Smart Port ที่จะขึ้น XD ได้แก่