- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 January 2018 17:53
- Hits: 3790
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1760 และ 1740 แนวต้าน 1780
SET Index: 1772.96 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องค่อนข้างแข็งแกร่งทะลุผ่านแนวต้านที่ 1765 จุดขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ในขณะที่ SET Index เคยทำจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 1789 จุด ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นน่าจะมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1800-1840 จุด แต่ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1760 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1740 จุด
แนวต้าน : 1774 และ 1780
แนวรับ : 1768 และ 1760**
BANPU = 19.50/20.00, AOT = 69.50/71.00, IVL = 55.00/56.00, ADVANC = 194/195, IRPC = 7.10/7.20
CP All (CPALL TB; THB 78.25) -ซื้อ
แนวต้าน : 80.00 และ 81.50 / แนวต้านสำคัญ 83.00
แนวรับ : 78.25 และ 78.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเหนือจุดสูงสุดเดิม ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ CPALL โดยมีแนวรับที่ 78.25 และ 78.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 80.00 และ 81.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 76.00 ลงไป
Amata Corporation (AMATA TB; THB 26.75) -ซื้อ
แนวต้าน : 28.50 และ 30.00
แนวรับ : 26.75 และ 26.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ AMATA โดยมีแนวรับที่ 26.75 และ 26.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 28.50 และ 30.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 25.00 ลงไป
SET Index: 1772.96 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องค่อนข้างแข็งแกร่งทะลุผ่านแนวต้านที่ 1765 จุดขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ในขณะที่ SET Index เคยทำจุดสูงสุดเอาไว้ที่ 1789 จุด ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นน่าจะมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1800-1840 จุด แต่ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1760 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1740 จุด
แนวต้าน : 1774 และ 1780
แนวรับ : 1768 และ 1760**
BANPU = 19.50/20.00, AOT = 69.50/71.00, IVL = 55.00/56.00, ADVANC = 194/195, IRPC = 7.10/7.20
CP All (CPALL TB; THB 78.25) -ซื้อ
แนวต้าน : 80.00 และ 81.50 / แนวต้านสำคัญ 83.00
แนวรับ : 78.25 และ 78.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเหนือจุดสูงสุดเดิม ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ CPALL โดยมีแนวรับที่ 78.25 และ 78.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 80.00 และ 81.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 76.00 ลงไป
Amata Corporation (AMATA TB; THB 26.75) -ซื้อ
แนวต้าน : 28.50 และ 30.00
แนวรับ : 26.75 และ 26.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ AMATA โดยมีแนวรับที่ 26.75 และ 26.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 28.50 และ 30.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 25.00 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ปรับตัวขึ้น
การเปิดของดัชนีตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ ถือว่าดีพอสมควร โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชียเหนืออย่าง ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ส่วนในอาเซียนอย่างมาเลเชียและอินโดนีเชียลบลงเล็กน้อย ส่วนการเปิดวันแรกของตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 104 จุด แต่ Nasdaq และ S&P 500ปรับตัวขึ้นขึ้นแรง การเปิดในแดนบวกในวันแรกของปี 2018 ของตลาดหุ้นสหรัฐ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี จากที่วันศุกร์มีแรงเทขายทำกำไร การปิดในแดนบวกที่แรงของตลาดหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะ Nasdaq เป็นผลจากแรงซื้อคืน หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ที่ยังคาดกันว่าจะไปได้ต่อ
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1. ตัวเลข PMI ของบริษัทขนาดเล็กในจีนของเดือน พ.ย. โตมากกว่าคาด 2. ตัวเลข GDP Q4/17 ของสิงคโปร์ยังขยายตัวได้สูงกว่าคาดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 3. ราคาน้ำมันโดยเฉพาะ WTI ขึ้นมายืนเหนือ 60ดอลลาร์/บาร์เรลได้สำเร็จ ส่วนเบรนท์ขึ้นไปที่ 57 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ เป็นผลจาก ปัญหาการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในอิหร่านและปัญหาท่อส่งน้ำมันในลิเบีย คาดกันว่าราคาน้ำมันน่าจะยังยืนๆ หรือขึ้นไปแตะ 70+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์ โดยมีแรงหนุนสำคัญคือ ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบทั่วโลกค่อยๆ ลดลง ขณะที่ปริมาณการใช้เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น
วันนี้ตลาดหุ้นไทย น่าจะได้ประโยชน์จากการปิดในแดนบวกของตลาดหุ้นในเอเชียเมื่อวานนี้ รวมทั้งการปิดของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะยังมีช่องให้ขึ้นได้ต่อ จากแรงหนุนการปรับลดภาษี กำลังเข้าสู่ช่วงจะมีการทยอยประกาศงบ Q4/17 ของหุ้นสถาบันการเงินและตัวเลขเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ตลาดมองกันว่าหากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐสามารถขึ้นได้ต่อในช่วงเวลาที่เหลือของสัปดาห์ ถือเป็นสัญญาญในเชิงบวกกับตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ โดยอารมณ์ของตลาดหุ้นในเดือน ม.ค. ของสหรัฐขึ้นอยู่กับสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในวันที่ 19 ม.ค. รวมทั้งผลการดำเนินงาน Q4/17 ขอหุ้นสถาบันการเงิน
ปัจจัยแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายปี 2017 และต้นปี 2018 แทบจะไม่มี หากมีคือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มเท่านั้น ส่งผลให้เกิดแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้เข้ามาพร้อมๆ กับหุ้นสถาบันการเงิน หากราคาน้ำมันยังวิ่งขึ้นละส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา เรามองว่าดัชนี SET จะวิ่งขึ้นได้เร็ว จากรูปด้านซ้ายและขวา เราแสดง ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีพบว่า SPRC เทรดกันที่ค่า P/E ต่ำสุด ขณะที่ PTTEP เทรดกันสูงสุด แต่ต่ำกว่าในอดีตค่อนข้างมาก ส่วนปิโตรเคมี คือ PTTGC
วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะดีดตัวขึ้นแรง จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและแรงหนุนจากดัชนีในภูมิภาค วันนี้มองแนวต้านที่ 1763-1767 จุดส่วนแนวรับที่ 1750-1748 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP PTTGC SPRC AAV GLOBAL และ LH
การเปิดของดัชนีตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ ถือว่าดีพอสมควร โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชียเหนืออย่าง ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ส่วนในอาเซียนอย่างมาเลเชียและอินโดนีเชียลบลงเล็กน้อย ส่วนการเปิดวันแรกของตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 104 จุด แต่ Nasdaq และ S&P 500ปรับตัวขึ้นขึ้นแรง การเปิดในแดนบวกในวันแรกของปี 2018 ของตลาดหุ้นสหรัฐ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี จากที่วันศุกร์มีแรงเทขายทำกำไร การปิดในแดนบวกที่แรงของตลาดหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะ Nasdaq เป็นผลจากแรงซื้อคืน หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ที่ยังคาดกันว่าจะไปได้ต่อ
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1. ตัวเลข PMI ของบริษัทขนาดเล็กในจีนของเดือน พ.ย. โตมากกว่าคาด 2. ตัวเลข GDP Q4/17 ของสิงคโปร์ยังขยายตัวได้สูงกว่าคาดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 3. ราคาน้ำมันโดยเฉพาะ WTI ขึ้นมายืนเหนือ 60ดอลลาร์/บาร์เรลได้สำเร็จ ส่วนเบรนท์ขึ้นไปที่ 57 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ เป็นผลจาก ปัญหาการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในอิหร่านและปัญหาท่อส่งน้ำมันในลิเบีย คาดกันว่าราคาน้ำมันน่าจะยังยืนๆ หรือขึ้นไปแตะ 70+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์ โดยมีแรงหนุนสำคัญคือ ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบทั่วโลกค่อยๆ ลดลง ขณะที่ปริมาณการใช้เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น
วันนี้ตลาดหุ้นไทย น่าจะได้ประโยชน์จากการปิดในแดนบวกของตลาดหุ้นในเอเชียเมื่อวานนี้ รวมทั้งการปิดของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะยังมีช่องให้ขึ้นได้ต่อ จากแรงหนุนการปรับลดภาษี กำลังเข้าสู่ช่วงจะมีการทยอยประกาศงบ Q4/17 ของหุ้นสถาบันการเงินและตัวเลขเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ตลาดมองกันว่าหากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐสามารถขึ้นได้ต่อในช่วงเวลาที่เหลือของสัปดาห์ ถือเป็นสัญญาญในเชิงบวกกับตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ โดยอารมณ์ของตลาดหุ้นในเดือน ม.ค. ของสหรัฐขึ้นอยู่กับสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในวันที่ 19 ม.ค. รวมทั้งผลการดำเนินงาน Q4/17 ขอหุ้นสถาบันการเงิน
ปัจจัยแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายปี 2017 และต้นปี 2018 แทบจะไม่มี หากมีคือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มเท่านั้น ส่งผลให้เกิดแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้เข้ามาพร้อมๆ กับหุ้นสถาบันการเงิน หากราคาน้ำมันยังวิ่งขึ้นละส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา เรามองว่าดัชนี SET จะวิ่งขึ้นได้เร็ว จากรูปด้านซ้ายและขวา เราแสดง ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีพบว่า SPRC เทรดกันที่ค่า P/E ต่ำสุด ขณะที่ PTTEP เทรดกันสูงสุด แต่ต่ำกว่าในอดีตค่อนข้างมาก ส่วนปิโตรเคมี คือ PTTGC
วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะดีดตัวขึ้นแรง จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและแรงหนุนจากดัชนีในภูมิภาค วันนี้มองแนวต้านที่ 1763-1767 จุดส่วนแนวรับที่ 1750-1748 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร PTTEP PTTGC SPRC AAV GLOBAL และ LH
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,772.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.25 จุด (+1.10%) มูลค่าการซื้อขาย40,963.34 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ดีดขึ้นตามตลาดภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐ โดยมีปจั จัยบวกจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐแข็งแกร่ง บ้านเรามีแรงหนุนในช่วงเช้าจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และแบงก์ หลังเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้า จากค่าเงินบาทแข็งค่า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ลุ้นปิดเหนือระดับ1780 จุด เพื่อสร้างสัญญาณเก็งกำไรต่อเนื่องภาพรวมตลาดได้ปจั จัยหนุนจากภาพการลงทุนที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าเม็ดเงินต่างชาติน่าจะเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยตัง้ แต่ช่วงต้นปี ในขณะที่แรงขายจาก LTF อาจจะยังไม่มีออกมามากเนื่องจากตลาดยังมีสัญญาณบวก และเม็ดเงิน LTF สวนใหญ่จะเป็นก้อนที่ครบ 5 ปีไปแล้ว ทำให้ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบขาย LTF เหมือนในอดีต ซึ่งหากสามารถยืนเหนือระดับ 1780 จุดได้ จะมีลุ้นทดสอบแนวต้าน 1800 จุด เป็นแนวต้านถัดไป เราแนะนำให้นักลงทุน ถือหุ้นต่อ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกลุ่มธนาคารพลังงาน ปิโตรเคมีและท่องเที่ยว มองแนวรับระดับ 1765 จุด แนะนำ PTT PTTEPPTTGC BANPU CENTEL
Technical Pick (PM) ...
CP All (CPALL TB; THB 78.25) – ซื้อ
Amata Corporation (AMATA TB; THB 26.75) – ซื้อ
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,772.96 จุด เพิ่มขึ้น 19.25 จุด (+1.10%) มูลค่าการซื้อขาย40,963.34 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ดีดขึ้นตามตลาดภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐ โดยมีปจั จัยบวกจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐแข็งแกร่ง บ้านเรามีแรงหนุนในช่วงเช้าจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และแบงก์ หลังเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้า จากค่าเงินบาทแข็งค่า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ลุ้นปิดเหนือระดับ1780 จุด เพื่อสร้างสัญญาณเก็งกำไรต่อเนื่องภาพรวมตลาดได้ปจั จัยหนุนจากภาพการลงทุนที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าเม็ดเงินต่างชาติน่าจะเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยตัง้ แต่ช่วงต้นปี ในขณะที่แรงขายจาก LTF อาจจะยังไม่มีออกมามากเนื่องจากตลาดยังมีสัญญาณบวก และเม็ดเงิน LTF สวนใหญ่จะเป็นก้อนที่ครบ 5 ปีไปแล้ว ทำให้ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบขาย LTF เหมือนในอดีต ซึ่งหากสามารถยืนเหนือระดับ 1780 จุดได้ จะมีลุ้นทดสอบแนวต้าน 1800 จุด เป็นแนวต้านถัดไป เราแนะนำให้นักลงทุน ถือหุ้นต่อ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกลุ่มธนาคารพลังงาน ปิโตรเคมีและท่องเที่ยว มองแนวรับระดับ 1765 จุด แนะนำ PTT PTTEPPTTGC BANPU CENTEL
Technical Pick (PM) ...
CP All (CPALL TB; THB 78.25) – ซื้อ
Amata Corporation (AMATA TB; THB 26.75) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4079