- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 December 2017 16:42
- Hits: 2943
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยตอนเช้ามีแรงซื้อเด่นในกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว ภายหลังครม.อนุมัติหลายโครงการสนับสนุน นำโดย CPN, BJC, CPALL, CENTEL และ ERW ในขณะที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเช่น GULF, GPSC, EA และ BGRIM อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงขายทำกำไรใน AOT ส่งผลให้ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,752 จุด (+0.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.8 หมื่นล้านบาท (โดยวานนี้มี Biglot AAV 8.2 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 4.7 บาท และ BJC 1.46 พันล้านบาท ราคาเฉลี่ย 63.5 บาท)
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 514 ล้านบาท แต่ยังคง Long SET50 index future ต่อเนื่องอีก 7058 สัญญา
Investment theme
ระยะสั้น SET ปรับฐาน แต่คงมุมมองบวกต่อใน 1Q18: ในช่วงไตรมาส 1 เราคาดปัจจัยต่างประเทศจะเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ทั้งจากปัญหาการเมืองจากฝั่งยุโรป (สเปน, อิตาลี และเยอรมัน) ซึ่งเป็นปกติที่นักลงทุนเลือกที่จะชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการเลือกตั้ง ซึ่งเรามองว่าตลาดหุ้นเอเชีย (ตอนใต้) อาจได้ประโยชน์ทางอ้อม โดยหากนับผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในปีนี้ พบว่าตลาดหุ้น TIP (Thailand, Indonesia and Philippines) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 18% และหากนับเฉพาะประเทศไทยประมาณ 14% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับ MSCI Asia pacific Ex Japan ที่ให้ผลตอบแทนสุงกว่า 31% ประกอบกับเราแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถาน์การณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ภายหลังสหประชาชาติรวมถึงสหรัฐอเมริกา เพิ่มมาตรการคว่ำบาตร ทั้งการตัดการส่งน้ำมัน, การค้า และอื่นๆ ซึ่งช่วง 2Q-3Q17 ที่ผ่านมาเราพบว่า มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเอเชียตะวันออก เพื่อลดความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าว ฉะนั้นจากประเด็นดังกล่าว เราคาดตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ TIP อาจได้ประโยชน์ทางอ้อม
Investment theme: ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี เราแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการขายทำกำไรในหุ้นขนาดเล็ก-กลาง และหันมาทยอยสะสมหุ้นใหญ่ใน SET50 ที่พื้นฐานดี และ Downside จำกัดอย่าง PTT, PTTEP, BJC, IRPC และ BDMS
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค US ธค. ลดลงสู่ระดับ 122.1 จุด จาก 129.5 และแย่กว่าคาดที่ 128 จุด / Dollar Index อ่อนคงลงสู่ระดับ 93.025 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
SUN : 10 เรื่องต้องรู้
Stock pick : SF
SF : ทยอยสะสม 8.70 บาท/หุ้น
คาดผลประกอบการไตรมาส 4 เติบโต YoY, QoQ จากการเปิด Mega bangna phase 2 ด้วยอัตราการเช่า 100% ประกอบกับช่วง High season ส่งผลให้มีรายได้จากค่าเช่าการจัด event สูง ในขณะที่มีรายได้จากโครงการใหม่ที่นางลิ้นจี่ 7,000 ตร.ม.
ในปี 2561 บริษัทฯ เปิดให้เช่าพื้นที่บริเวณ Mega Bangna ทำธุรกิจ Outdoor entertainment บนพื้นที่ 20 ไร่ และเพิ่มพื้นที่เช่าด้านหลัง Mega Bangna สูงกว่า 8,500 ตร.ม. ส่งผลให้ทั้งปีคาดมีพื้นที่เช่าสูงกว่า 150,000 ตร.ม.
ราคาหุ้น SF ปัจจุบันคิดเป็น PBV ที่ 1.3x ซึ่งถือว่าถูกหากเทียบกับ CPN, PLAT ที่เฉลี่ยสูงกว่า 4.0x ในขณะที่ PER 18 ต่ำกว่าประมาณ 11% คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสม 8.70 บาท/หุ้น
Trading idea – ทยอยสะสมหุ้น SET50 ที่ Beta สูงกว่าตลาดเช่น BJC, IRPC และ TRUE / ทยอยสะสม PTT และ TISCO (@105) / เก็งกำไรกลุ่ม ICT จิตวิทยาบวกเรื่องคลื่น 2300 และการจ่าย licence 900
Technical View
แตะแนวต้านแล้วอ่อนตัวลงทันที: ในช่วงเช้าหุ้นในกลุ่ม Big Cap. หลากกลุ่มช่วยกันผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1765 ก่อนที่ช่วงบ่าย AOT จะปรับตัวลงแรง กด Sentiment ตลาดให้หุ้นอีกหลายกลุ่มถูกขายทำกำไร แต่ระยะสั้นมองว่าหากดัชนีพักตัวไม่หลุดเส้น EMA5วัน ที่ 1747 ดัชนียังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และยังคงมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ แต่หากหลุด 1747 คาดมีโอกาสแกว่งลงทดสอบแนวรับที่ 1740 และ 1735 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : หาก Rebound อาจทยอยขายทำกำไรบางส่วนที่แนวต้านแล้วรอดูแนวโน้ม 2) ไม่มีหุ้น : หากอ่อนตัวสู่แนวรับ 1747 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อ Trading ระหว่างวัน
แนวรับ : 1747, 1740 แนวต้าน : 1758, 1765
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว-สั้นของสหรัฐปรับตัวลงอย่างมาก (Flattening yield curve) / จับตาความตึงเครียดในเกาหลีเหนือภายหลัง UNSC คว่ำบาตร
ปัจจัยในประเทศ : รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พย. (29 ธค.)
หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 77.00, Tp 81.00, Cut 76.00)
TRUE (B 6.20, Tp 6.50, Cut 6.10)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
