- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 December 2017 17:06
- Hits: 4891
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1740 แนวต้าน 1750
SET Index: 1749.37 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่แนวต้าน 1750 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีแนวรับที่ 1740 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1780 และ 1800 จุดในช่วงต้นปีหน้า และมีแนวรับสำคัญของการปรับฐานที่ 1730 จุด
แนวต้าน : 1750 และ 1755
แนวรับ : 1744 และ 1740**
PTT = 440/444, SCB = 150/152, BGRIM = 29.00/29.50, AOT = 67.00/68.00, BCPG = 24.00/24.50
Berli Jucker (BJC TB; THB 63.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 65.00 และ 67.00 / เป้าหมาย 70.00
แนวรับ : 63.00 และ 62.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ขึ้นไปได้ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ BJC โดยมีแนวรับที่ 63.00 และ 62.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 65.00 และ 67.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 60.50 ลงไป
Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 10.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 10.70 และ 11.20
แนวรับ : 10.10 และ 10.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ RATCH โดยมีแนวรับที่ 10.10 และ 10.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.70 และ 11.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
SET Index: แนวรับ 1740 แนวต้าน 1750
SET Index: 1749.37 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่แนวต้าน 1750 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวลดลงในระยะสั้น น่าจะมีแนวรับที่ 1740 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1780 และ 1800 จุดในช่วงต้นปีหน้า และมีแนวรับสำคัญของการปรับฐานที่ 1730 จุด
แนวต้าน : 1750 และ 1755
แนวรับ : 1744 และ 1740**
PTT = 440/444, SCB = 150/152, BGRIM = 29.00/29.50, AOT = 67.00/68.00, BCPG = 24.00/24.50
Berli Jucker (BJC TB; THB 63.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 65.00 และ 67.00 / เป้าหมาย 70.00
แนวรับ : 63.00 และ 62.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ขึ้นไปได้ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ BJC โดยมีแนวรับที่ 63.00 และ 62.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 65.00 และ 67.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 60.50 ลงไป
Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 10.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 10.70 และ 11.20
แนวรับ : 10.10 และ 10.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ RATCH โดยมีแนวรับที่ 10.10 และ 10.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.70 และ 11.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ยังไม่เห็นปัจจัยลบ
ทิศทางการลงทุนในโค้งสุดท้ายของปี ยังเต็มไปด้วยข่าวในเชิงบวก โดยเฉพาะการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนมุมมองตลาดหุ้นสหรัฐในปีหน้า อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีนี้ นักวิเคราะห์ในต่างประเทศต่างคาดกันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะมีแรงหนุนจาก Santarally ซึ่งจะดูจาก 5 วันสุดท้ายของปีและอีก 2 วันในเดือน ม.ค.ปีหน้า หากเกิดในเชิงบวก ส่วนใหญ่มองจะหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นทั้งปีของสหรัฐดีขึ้นต่อ แต่หากไม่เกิดและมีแรงขายจนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในช่วง 2-3 วันแรกติดลบ ถือเป็นปัจจัยที่ต้องระวัง
ภาพที่จะหนุนตลาดหุ้นในต้นเดือน ม.ค. ยังคงเป็นข่าวการลดภาษีในสหรัฐ ที่จะหนุนกำไรและเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยมองกันว่าในช่วงต้นเดือนม.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐจะกลับมาคึกคัก ทั้งจากการย่อยข่าวผลของการลดภาษี การประมาณการณ์งบกลุ่มสถาบันการเงินและการประชุมของกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญสหรัฐ โดยมองกันว่าปัจจัยดังกล่าวจะหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นต่อ โดยตอนนี้ หากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นต่อไปถึงเดือนมี.ค.ก็จะครบ 9 ปีของขาขึ้น แต่หากลากยาวไปถึงเดือน ส.ค. ได้ก็จะสร้างประวัติศาสตร์การขึ้นที่ยาวนานที่สุด แม้ต่างมองทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐจะยังขึ้นต่อในปี 2018 แต่บางส่วนมองดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ น่าจะเผชิญกับความผันผวนในช่วงครึ่งปีแรก โดยน้ำหนักจะอยู่ในช่วง Q1/18
หากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ สามารถขึ้นต่อ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีค่าสหสัมพันธ์ในเชิงบวกค่อนข้างสูงกับตลาดหุ้นสหรัฐ (สหรัฐขึ้น เราขึ้น สหรัฐลงเราลง) น่าจะขึ้นตาม โดยจะมีแรงหนุนจากปัจจัยภายในเพิ่มขึ้น อย่าง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และกำไรของตลาดที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นจากกลุ่มที่เคยแย่ๆ อย่าง ธนาคารพาณิชย์ และสื่อสาร หากอัตราการทำกำไรของตลาดในQ4/17 ดีขึ้น เรามองว่าในไม่ช้าเม็ดเงินลงทุนจากต่งชาติน่าจะกลับมา หลังขายหุ้นออกอย่างหนักในปีนี้ โดยรูปด้านซ้ายแสดงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่กำลังขึ้นไปแตะ 65 อลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ค่าการกลั่นยังอยู่ในกรอบ 7-8 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะยังหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนรูปขวา คือสัดส่วนทางพื้นฐานของตลาดที่ดีขึ้นตามลำดับ
ก่อนที่งบ Q4/17 จะทยอยประกาศ ในช่วงกลางเดือน ม.ค. เรามองว่าหุ้นที่ยังขึ้นน้อยหรือยังเผชิญแรงขายใน Q4/17 หรือหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงๆ น่าจะเป็นตัวขั้นที่ดีในช่วงสั้นๆ จนกว่างบกลุ่มธนาคารจะทยอยประกาศ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้คือ กลุ่มสื่อสารอสังหาริมทรัพย์ นอกนั้นจะเป็นหุ้นพลังงาน โดยทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้คาดจะค่อยๆ ขยับขึ้นต่อและคาดจะขึ้นแรงในช่วง 1-2 วันแรกของต้นเดือน ม.ค. สำหรับแนวโน้มในวันนี้คาด ดัชนี SET จะค่อยๆ ซึมขึ้นต่อ หลังเริ่มมีแรงซื้อของต่างชาติในกลุ่มพลังงาน ประกอบกับยังไม่เห็นปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อตลาด วันนี้มองแนวต้านที่ 1756-1760 จุดและแนวรับที่ 1746-1744 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DTAC LH KCE และIRPC
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,749.37 จุด ลดลง 0.85 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย25,480.22 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ โดยมีแรงขายทำกำไรหลังดัชนีทดสอบแนวต้านบริเวณ 1750 จุด ขณะที่เม็ดเงินจากกองทุน LTF ยังหนุนตลาดต่อเนื่องด้านตลาดภูมิภาคปรับลงเล็กน้อยด้วยปริมาณซื้อขายเบาบางในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แถวบริเวณ 1750 จุด หลังเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาวและขาดปัจจัยหนุนในช่วงสั้น การเก็งกำไรอาจต้องพิจารณากรอบราคาที่แคบลง ในขณะที่ปัจจัยบวกในบ่ายนี้มีเรื่อง ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค.61 โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ขณะที่ภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตรจะนำเข้าพิจารณาของที่ประชุมครม. ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวจะเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวอย่าง AOT CENTEL ERW MINT ในขณะที่บ่ายนี้ยังเน้นซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ถูกเลือกเข้า SET50 อย่าง BCP BEAUTY CENTELTPIPP SAWAD และ WHA เราให้แนวรับที่ 1745-1743 จุดและแนวต้านที่ 1753-1755จุด
Technical Pick (PM) ...
Berli Jucker (BJC TB; THB 63.25) – ซื้อ
Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 10.10) – ซื้อ
แนวโน้มตลาดบ่าย คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แถวบริเวณ 1750 จุด หลังเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาวและขาดปัจจัยหนุนในช่วงสั้น การเก็งกำไรอาจต้องพิจารณากรอบราคาที่แคบลง ในขณะที่ปัจจัยบวกในบ่ายนี้มีเรื่อง ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค.61 โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในเมืองรองมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ขณะที่ภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตรจะนำเข้าพิจารณาของที่ประชุมครม. ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวจะเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวอย่าง AOT CENTEL ERW MINT ในขณะที่บ่ายนี้ยังเน้นซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ถูกเลือกเข้า SET50 อย่าง BCP BEAUTY CENTELTPIPP SAWAD และ WHA เราให้แนวรับที่ 1745-1743 จุดและแนวต้านที่ 1753-1755จุด
Technical Pick (PM) ...
Berli Jucker (BJC TB; THB 63.25) – ซื้อ
Ratchthani Leasing (THANI TB; THB 10.10) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4008
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4008
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปริมาณการซื้อขายชะลอหลังใกล้สู่ช่วงหยุดยาว
ปัจจัยต่างประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในวันคริสมาสต์ ขณะที่ภายในประเทศคาดได้รับจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยจากโมเมนตัมเศรษฐกิจช่วงปลายปีที่เป็นบวกรวมถึงการผลักดันมาตรการภาษีท่องเที่ยวเมืองรองเข้าที่ประชุม ครม.ในวันนี้ (บวกต่อ ERW, MINT, CENTEL) เรามอง SET Index จะมีการแกว่งตัวที่เป็นบวกมากขึ้นจากภาพรวมตลาดที่มีแนวโน้มสดใสในช่วงไตรมาส 1/61 และโมเมนตัมเศรษฐกิจปีหน้าที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นทดสอบแนวต้านของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับ ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่ชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของ SET Index อาจเป็นไปในลักษณะของการ “ซึมขึ้น” กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นทยอยสะสมกลุ่มหุ้นใหญ่ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อาทิ PTT, PTTGC, IRPC, IVL ขณะที่กลุ่มไฟฟ้าปรับขึ้นโดดเด่น แต่ควรเพิ่มความระวังหลังหุ้นจำนวนมากปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐานระยะสั้น การลงทุนจึงควรเป็นการเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนเท่านั้น
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ AMANAH, PSTC*, SRICHA*, BFIT*, SKN*, JKN*, STA*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: คาดช่วงที่เหลือเป็นการแกว่งตัวในบริเวณ 1750 เน้นเลือกหุ้นรายตัว (selective buy) ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่ยังขึ้นไม่มาก อาทิ พลังงาน ธนาคาร การเงิน อาหาร การแพทย์ ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน // หุ้นแนะนำ ERW, PTT, BWG*, PORT*
แนวรับ 1734 / แนวต้าน : 1750 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ปริมาณการซื้อขายชะลอหลังใกล้สู่ช่วงหยุดยาว
ปัจจัยต่างประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในวันคริสมาสต์ ขณะที่ภายในประเทศคาดได้รับจิตวิทยาเชิงบวกเล็กน้อยจากโมเมนตัมเศรษฐกิจช่วงปลายปีที่เป็นบวกรวมถึงการผลักดันมาตรการภาษีท่องเที่ยวเมืองรองเข้าที่ประชุม ครม.ในวันนี้ (บวกต่อ ERW, MINT, CENTEL) เรามอง SET Index จะมีการแกว่งตัวที่เป็นบวกมากขึ้นจากภาพรวมตลาดที่มีแนวโน้มสดใสในช่วงไตรมาส 1/61 และโมเมนตัมเศรษฐกิจปีหน้าที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นทดสอบแนวต้านของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับ ประกอบกับปริมาณการซื้อขายที่ชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของ SET Index อาจเป็นไปในลักษณะของการ “ซึมขึ้น” กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นทยอยสะสมกลุ่มหุ้นใหญ่ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อาทิ PTT, PTTGC, IRPC, IVL ขณะที่กลุ่มไฟฟ้าปรับขึ้นโดดเด่น แต่ควรเพิ่มความระวังหลังหุ้นจำนวนมากปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐานระยะสั้น การลงทุนจึงควรเป็นการเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนเท่านั้น
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ AMANAH, PSTC*, SRICHA*, BFIT*, SKN*, JKN*, STA*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: คาดช่วงที่เหลือเป็นการแกว่งตัวในบริเวณ 1750 เน้นเลือกหุ้นรายตัว (selective buy) ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่ยังขึ้นไม่มาก อาทิ พลังงาน ธนาคาร การเงิน อาหาร การแพทย์ ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน // หุ้นแนะนำ ERW, PTT, BWG*, PORT*
แนวรับ 1734 / แนวต้าน : 1750 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
จีนเตรียมลดความเสี่ยงทางการเงินผ่านการควบคุมปริมาณเงินในระบบ – จีนเล็งกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ที่ระดับ 9% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงของหนี้เสียและควบคุมภาวะฟองสบู่ของสินทรัพย์
เงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นปรับขึ้น – ญี่ปุ่นรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% yoy ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%
หอการค้าคาดยอดใช้จ่ายช่วงปีใหม่เติบโตดีขึ้นจากปีก่อน - ม.หอการค้าเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ 61 คาดยอดใช้จ่ายทั่วประเทศอยู่ที่ 132,050 ลบ. เพิ่มขึ้น 2.1% yoy สูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมาในรอบ 13 ปี **กรณีรวมยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 6.4% yoy
ครม.พิจารณามาตรการภาษีท่องเที่ยวเมืองรองวันนี้ - สรรพากรเตรียมเสนอมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองเข้า ครม.ในวันนี้ โดยให้สามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวเมืองรองรวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาทมาหักลดหย่อนภาษีได้เป็นระยะเวลา 1 ปี (1 ม.ค.61-31 ธ.ค.61)
คาดจบปี 60 จำนวนนทท.ต่างชาติโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าทั้งปี 60 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.38 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.77% yoy สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.83 ลบ. เติบโต 12% yoy
ประเด็นติดตาม: 27 ธ.ค. TH – กสทช.พิจารณาขยายเวลาชำระค่าคลื่น 900MHz, 29 ธ.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
จีนเตรียมลดความเสี่ยงทางการเงินผ่านการควบคุมปริมาณเงินในระบบ – จีนเล็งกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ที่ระดับ 9% ในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงของหนี้เสียและควบคุมภาวะฟองสบู่ของสินทรัพย์
เงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นปรับขึ้น – ญี่ปุ่นรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% yoy ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%
หอการค้าคาดยอดใช้จ่ายช่วงปีใหม่เติบโตดีขึ้นจากปีก่อน - ม.หอการค้าเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ 61 คาดยอดใช้จ่ายทั่วประเทศอยู่ที่ 132,050 ลบ. เพิ่มขึ้น 2.1% yoy สูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมาในรอบ 13 ปี **กรณีรวมยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 6.4% yoy
ครม.พิจารณามาตรการภาษีท่องเที่ยวเมืองรองวันนี้ - สรรพากรเตรียมเสนอมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองเข้า ครม.ในวันนี้ โดยให้สามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการท่องเที่ยวเมืองรองรวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาทมาหักลดหย่อนภาษีได้เป็นระยะเวลา 1 ปี (1 ม.ค.61-31 ธ.ค.61)
คาดจบปี 60 จำนวนนทท.ต่างชาติโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าทั้งปี 60 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.38 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.77% yoy สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.83 ลบ. เติบโต 12% yoy
ประเด็นติดตาม: 27 ธ.ค. TH – กสทช.พิจารณาขยายเวลาชำระค่าคลื่น 900MHz, 29 ธ.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)