- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 December 2017 18:40
- Hits: 1530
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1738.16 +5.85 (+0.34) // Vol. 48,358
มีโอกาสลชะลอตัว ในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง
กรอบการเคลื่อนที่ 1732-1742
ดัชนีวานนี้เริ่มมีความผันผวน โดยดึง Low 1728 จุด แต่สามารถดีดกลับขึ้นมาได้ทำ New High 1739 จุด พร้อมกับทำปิดใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1738 จุด จากภาพของการที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีสัญญาณเตือนในเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็น Overbought // Bearish Divergence ทั้งภาพรายวันและชม. ทำให้ดัชนีมีโอกาสชะลอในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง ที่ควรยืนเหนือ 1730 จุด
แนวรับ 1730-1735
แนวต้าน 1742-1745
SET INDEX
1738.16 +5.85 (+0.34) // Vol. 48,358
มีโอกาสลชะลอตัว ในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง
กรอบการเคลื่อนที่ 1732-1742
ดัชนีวานนี้เริ่มมีความผันผวน โดยดึง Low 1728 จุด แต่สามารถดีดกลับขึ้นมาได้ทำ New High 1739 จุด พร้อมกับทำปิดใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1738 จุด จากภาพของการที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีสัญญาณเตือนในเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็น Overbought // Bearish Divergence ทั้งภาพรายวันและชม. ทำให้ดัชนีมีโอกาสชะลอในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง ที่ควรยืนเหนือ 1730 จุด
แนวรับ 1730-1735
แนวต้าน 1742-1745
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" วิ่งเข้าใกล้เป้า 1750 จะผันผวนมากขึ้น "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ด้วยมุมมองต่างประเทศที่เป็นบวกและภาพเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงคาดว่าดัชนีในวันนี้มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อได้ แต่คาดว่าการปรับตัวขึ้นจะเริ่มมี upside จำกัดจากโอกาสการ take profit ของนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้นขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ .... ภาพต่างประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงจับตาเรื่องมาตรการภาษีทรัมป์ โดยวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง และจะส่งต่อไปยัง ปธน. ทรัมป์เพื่อลงนามภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผ่านได้ และจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ตลาดบวกต่อเนื่อง .... ปัจจัยในประเทศ กนง.มีการคงดอกเบี้ยตามคาด พน้อมทั้งปรับคาดการณ์ GDP ไทยขึ้น อีกทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ยังระบุการส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูง จึงมองว่าภาพเศรษฐกิจไทยยังคงดีอยู่ .... แม้นักลงทุนต่างชาติยังมีมูลค่าขายสุทธิจำนวนมากแต่ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากผลของ LTF-RMF ในช่วงปลายปีมาพยุงตลาดไว้
กลยุทธ์การลงทุน : ด้านกลยุทธการลงทุน ด้วยมุมมองที่ว่าตลาดในวันนี้จะปรับตัวขึ้นโดยมี upside จำกัด จึงแนะนำให้ลงทุนในลักษณะ "selective buy" และให้ระวังแรงขายทำกำไรในระหว่างวัน เน้นการเข้าลงทุน (ซื้อ) เป็นรายตัว เน้นหุ้น เก็งงบ 4Q (โรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี) หุ้นที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้น โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่เราให้ความสนใจ คือ PTT และ KBANK รวมไปถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BEAUTY, TK, BH , PLANB
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: LANNA, AMATA , ICHI
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
Banking Sector(Neutral) : สินเชื่อ พ.ย. เติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนทุก segment
(+) TK สองล้อชูโรง...หนุนการดำเนินงาน 4Q17
" วิ่งเข้าใกล้เป้า 1750 จะผันผวนมากขึ้น "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ด้วยมุมมองต่างประเทศที่เป็นบวกและภาพเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงคาดว่าดัชนีในวันนี้มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อได้ แต่คาดว่าการปรับตัวขึ้นจะเริ่มมี upside จำกัดจากโอกาสการ take profit ของนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดหุ้นขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ .... ภาพต่างประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงจับตาเรื่องมาตรการภาษีทรัมป์ โดยวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง และจะส่งต่อไปยัง ปธน. ทรัมป์เพื่อลงนามภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถผ่านได้ และจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ตลาดบวกต่อเนื่อง .... ปัจจัยในประเทศ กนง.มีการคงดอกเบี้ยตามคาด พน้อมทั้งปรับคาดการณ์ GDP ไทยขึ้น อีกทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ยังระบุการส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูง จึงมองว่าภาพเศรษฐกิจไทยยังคงดีอยู่ .... แม้นักลงทุนต่างชาติยังมีมูลค่าขายสุทธิจำนวนมากแต่ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากผลของ LTF-RMF ในช่วงปลายปีมาพยุงตลาดไว้
กลยุทธ์การลงทุน : ด้านกลยุทธการลงทุน ด้วยมุมมองที่ว่าตลาดในวันนี้จะปรับตัวขึ้นโดยมี upside จำกัด จึงแนะนำให้ลงทุนในลักษณะ "selective buy" และให้ระวังแรงขายทำกำไรในระหว่างวัน เน้นการเข้าลงทุน (ซื้อ) เป็นรายตัว เน้นหุ้น เก็งงบ 4Q (โรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี) หุ้นที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้น โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่เราให้ความสนใจ คือ PTT และ KBANK รวมไปถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BEAUTY, TK, BH , PLANB
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: LANNA, AMATA , ICHI
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
Banking Sector(Neutral) : สินเชื่อ พ.ย. เติบโตต่อเนื่องจากแรงหนุนทุก segment
(+) TK สองล้อชูโรง...หนุนการดำเนินงาน 4Q17
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (20 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,738.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด หรือ +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 48,357.67 ล้านบาท ตลาดบวกได้จากแรงหนุนของปัจจัยต่างชาติ หลังจากที่ตลาดมีมุมมองว่าร่างกฎหมายภาษีทรัมป์จะสามารถผ่านความเห็นชอบได้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,726.65 จุด ลดลง 28.10 จุด หรือ -0.11% มองเป็นการขายทำกำไรในช่วงสั้น หลังดัชนีปรับตัวทำนิวไฮขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้.... เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.7% แตะระดับ 388.37 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (20 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,738.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด หรือ +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 48,357.67 ล้านบาท ตลาดบวกได้จากแรงหนุนของปัจจัยต่างชาติ หลังจากที่ตลาดมีมุมมองว่าร่างกฎหมายภาษีทรัมป์จะสามารถผ่านความเห็นชอบได้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,726.65 จุด ลดลง 28.10 จุด หรือ -0.11% มองเป็นการขายทำกำไรในช่วงสั้น หลังดัชนีปรับตัวทำนิวไฮขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้.... เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.7% แตะระดับ 388.37 จุด
ปัจจัยต่างประเทศ
(+) คาดมาตรการลดภาษีทรัมป์จะผ่านมติได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ - วุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งคาดว่ากฏหมายดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ได้ จะเป็นบวกต่อตลาดโดยรวม
(+) สต็อกน้ำมันดิบลดลงกว่าคาด - EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล
(+/-) วันนี้ติดตามการประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1%
(+) คาดมาตรการลดภาษีทรัมป์จะผ่านมติได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ - วุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพื่อลงนามให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งคาดว่ากฏหมายดังกล่าวจะสามารถประกาศใช้ได้ จะเป็นบวกต่อตลาดโดยรวม
(+) สต็อกน้ำมันดิบลดลงกว่าคาด - EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล
(+/-) วันนี้ติดตามการประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1%
ปัจจัยในประเทศ :
(+) กนง. คงดอกเบี้ยตามคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทย - กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี พร้อมทั้งปรับเพิ่มประมาณการ GDP ของไทยในปีนี้เป็น 3.9% จากก่อนหน้าคาดไว้ที่ 3.8% จากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น
(+) ส่งออกไทยเติบโตสูง - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เปิดเผยในระหว่างการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า การส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.) ขยายตัวได้แล้ว 10.1% วันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออก (ผลสำรวจ bloomberg คาด +7.2% YoY)
(+) ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเติบโตดี - ส.อ.ท. เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.17 อยู่ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนต.ค.18
(-) ประมูลคลื่น 900/1800 MHz มีแนวโน้มล่าช้า- นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่าการจัดประมูลคลื่น 900/1800 MHz มีแนวโน้มล่าช้าเพราะเมื่อบอร์ดใหม่เข้ามารับผิดชอบ บอร์ดจะทบทวนร่างหลักเกณฑ์การประมูลที่ร่างไว้จึงมีโอกาสที่การประมูลอาจล่าช้ากว่าที่กำหนด และกสทช.ระบุว่าการที่ ADVANC ขอผ่อนจ่ายใบอนุญาตงวดสุดท้าย อาจทำไม่ได้ โดย กสทช.จะนำเข้าพิจารณา 27 ธ.ค.
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
Update เศรษฐกิจไทย ตัวเลขยังดีต่อเนื่อง วานนี้ เราสรุปข้อมูลด้านเศรษฐกิจ หลายตัวที่ออกมาตามสื่อ ทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยยังคงดีต่อ หุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจ กลุ่มหลักๆ คือ ธนาคารและค้าปลีก หุ้นที่เป็น top picks สำหรับหุ้นที่อิงเศรษฐกิจ คือ KBANK , TMB , BEAUTY , TK
(+) กนง. คงดอกเบี้ยตามคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทย - กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี พร้อมทั้งปรับเพิ่มประมาณการ GDP ของไทยในปีนี้เป็น 3.9% จากก่อนหน้าคาดไว้ที่ 3.8% จากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น
(+) ส่งออกไทยเติบโตสูง - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เปิดเผยในระหว่างการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า การส่งออกของไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัวได้ 13.36% ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.) ขยายตัวได้แล้ว 10.1% วันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออก (ผลสำรวจ bloomberg คาด +7.2% YoY)
(+) ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเติบโตดี - ส.อ.ท. เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.17 อยู่ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนต.ค.18
(-) ประมูลคลื่น 900/1800 MHz มีแนวโน้มล่าช้า- นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. กล่าวว่าการจัดประมูลคลื่น 900/1800 MHz มีแนวโน้มล่าช้าเพราะเมื่อบอร์ดใหม่เข้ามารับผิดชอบ บอร์ดจะทบทวนร่างหลักเกณฑ์การประมูลที่ร่างไว้จึงมีโอกาสที่การประมูลอาจล่าช้ากว่าที่กำหนด และกสทช.ระบุว่าการที่ ADVANC ขอผ่อนจ่ายใบอนุญาตงวดสุดท้าย อาจทำไม่ได้ โดย กสทช.จะนำเข้าพิจารณา 27 ธ.ค.
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
Update เศรษฐกิจไทย ตัวเลขยังดีต่อเนื่อง วานนี้ เราสรุปข้อมูลด้านเศรษฐกิจ หลายตัวที่ออกมาตามสื่อ ทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยยังคงดีต่อ หุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจ กลุ่มหลักๆ คือ ธนาคารและค้าปลีก หุ้นที่เป็น top picks สำหรับหุ้นที่อิงเศรษฐกิจ คือ KBANK , TMB , BEAUTY , TK
ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญวานนี้
กนง. ปรับ GDP ปีนี้และปีหน้า จาก จาก 3.8% เป็น 3.9% โดยปี 2561 กนง. ปรับการขยายตัวของการบริโภคเอกชนและส่งออกสูงขึ้นจากประมาณการเดิม
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เผยตัวเลขส่งออก เดือน พ.ย. 13.36% ($2.1 หมื่นล้านเหรียญ) ..... เป็นตัวเลขเบื้องต้นก่อนที่ กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานตัวเลขจริง ในวันนี้ (21) โดยผลสำรวจ Bloomberg ประเมินไว้เพียง 7.2% YoY แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการส่งออกของไทยที่ยังขยายตัวได้ดี ต่อเนื่องจากเดือน ต.ค. ที่ส่งออกขยายตัว 13.1% YoY เมื่อไม่รวมทองคำและน้ำมันขยายตัว 12.5% เรายังไม่มีรายละเอียดแต่ละรายการหรือหมวดสินค้า แต่หนึ่งในสินค้าที่น่าจะส่งออกขยายตัวดี คือ รถยนต์ ที่มีการรายงานในวันนี้ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ที่ออกมาขยายตัว 4.6% YoY (เดือนก่อน -12%)
ส.อ.ท. เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.17 อยู่ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนต.ค.17
ยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 ผลิตได้ 190,385 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.48% สูงสุดในรอบ 20 เดือน ยอดขายในประเทศเดือนพฤศจิกายน 2560 มีทั้งสิ้น 78,082 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.6% สูงสุดในรอบ 8 เดือน และสอท.จึงประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ปีหน้าน่าจะเติบโตได้ 2%
สินเชื่อของธนาคาร เดือน พ.ย. ขยายตัว 0.3% MoM และ 2.4% YoY และ 11 เดือน ขยายตัว 1.9% จากการเติบโตของสินเชื่อในทุก segment โดยภาพรวมสินเชื่อเดือน พ.ย. 2017 ออกมาค่อนข้างดูดี ซึ่งเราคาดว่า จะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ใน 4Q17
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BEAUTY(ราคาปิด 20.00) เราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ BEAUTY หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในเดือนต.ค. 2017 เพิ่มขึ้น 70% YoY เราคาดว่าใน ปี 2017 -2018 นักท่องเที่ยวจีนจะเติบโต 8.5% และ 10% YoY ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ BEAUTY เติบโต นอกจากนี้ เรายังคาดว่าช่วง 4Q17 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีกด้วย .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 1,190 ล้านบาท (+81% YoY) และ ปี 2018 ที่ 1,628 ล้านบาท (+37% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 25.00 บาท)
TK(ราคาปิด 16.30) เรามองว่า ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภูมิภาคที่มีมากขึ้นในช่วงหลังนี้ จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญให้กับ TK โดย เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 160 ล้านบาท (+20%QoQ และ 57%YoY) มีแรงหนุนจากยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศที่ดีขึ้น .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 517ล้านบาท (+20% YoY) และ ปี 2018 ที่ 600 ล้านบาท (+16% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 20.00 บาท)
BH(ราคาปิด 190.50) เรามองว่า BH จะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยจากต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยว Middle East เริ่มกลับมา โดยใน 3Q17 รายได้จากชาวคูเวตเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว อีกทั้ง BH อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวอาคารโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น .... KTBST คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,011 ล้านบาท (+11% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,302 ล้านบาท (+7% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 223.50 บาท)
PLANB*(ราคาปิด 6.45) เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนความสนใจมาที่สื่อใหม่ๆ เช่น ดิจิตอล หรือ outdoor มากขึ้น อีกทั้ง อุตสาหกรรมโฆษณา ปี 2561 แนวโน้มฟื้น ซึ่ง "กรุ๊ปเอ็ม" ประเมินมูลค่ากลับมาแตะ 1 แสนล้าน โต 10% หลังชะลอตัว 2 ปีติดต่อกัน .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 502 ล้านบาท (+20% YoY) และ ปี 2018 ที่ 668 ล้านบาท (+33% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 7.69 บาท)
กนง. ปรับ GDP ปีนี้และปีหน้า จาก จาก 3.8% เป็น 3.9% โดยปี 2561 กนง. ปรับการขยายตัวของการบริโภคเอกชนและส่งออกสูงขึ้นจากประมาณการเดิม
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เผยตัวเลขส่งออก เดือน พ.ย. 13.36% ($2.1 หมื่นล้านเหรียญ) ..... เป็นตัวเลขเบื้องต้นก่อนที่ กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานตัวเลขจริง ในวันนี้ (21) โดยผลสำรวจ Bloomberg ประเมินไว้เพียง 7.2% YoY แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการส่งออกของไทยที่ยังขยายตัวได้ดี ต่อเนื่องจากเดือน ต.ค. ที่ส่งออกขยายตัว 13.1% YoY เมื่อไม่รวมทองคำและน้ำมันขยายตัว 12.5% เรายังไม่มีรายละเอียดแต่ละรายการหรือหมวดสินค้า แต่หนึ่งในสินค้าที่น่าจะส่งออกขยายตัวดี คือ รถยนต์ ที่มีการรายงานในวันนี้ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ที่ออกมาขยายตัว 4.6% YoY (เดือนก่อน -12%)
ส.อ.ท. เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.17 อยู่ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนต.ค.17
ยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2560 ผลิตได้ 190,385 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.48% สูงสุดในรอบ 20 เดือน ยอดขายในประเทศเดือนพฤศจิกายน 2560 มีทั้งสิ้น 78,082 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.6% สูงสุดในรอบ 8 เดือน และสอท.จึงประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ปีหน้าน่าจะเติบโตได้ 2%
สินเชื่อของธนาคาร เดือน พ.ย. ขยายตัว 0.3% MoM และ 2.4% YoY และ 11 เดือน ขยายตัว 1.9% จากการเติบโตของสินเชื่อในทุก segment โดยภาพรวมสินเชื่อเดือน พ.ย. 2017 ออกมาค่อนข้างดูดี ซึ่งเราคาดว่า จะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ใน 4Q17
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BEAUTY(ราคาปิด 20.00) เราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ BEAUTY หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงมามากในช่วงก่อนหน้านี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น โดยในเดือนต.ค. 2017 เพิ่มขึ้น 70% YoY เราคาดว่าใน ปี 2017 -2018 นักท่องเที่ยวจีนจะเติบโต 8.5% และ 10% YoY ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ BEAUTY เติบโต นอกจากนี้ เรายังคาดว่าช่วง 4Q17 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีกด้วย .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 1,190 ล้านบาท (+81% YoY) และ ปี 2018 ที่ 1,628 ล้านบาท (+37% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 25.00 บาท)
TK(ราคาปิด 16.30) เรามองว่า ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภูมิภาคที่มีมากขึ้นในช่วงหลังนี้ จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญให้กับ TK โดย เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 160 ล้านบาท (+20%QoQ และ 57%YoY) มีแรงหนุนจากยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศที่ดีขึ้น .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 517ล้านบาท (+20% YoY) และ ปี 2018 ที่ 600 ล้านบาท (+16% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 20.00 บาท)
BH(ราคาปิด 190.50) เรามองว่า BH จะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยจากต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยว Middle East เริ่มกลับมา โดยใน 3Q17 รายได้จากชาวคูเวตเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว อีกทั้ง BH อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวอาคารโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น .... KTBST คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,011 ล้านบาท (+11% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,302 ล้านบาท (+7% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 223.50 บาท)
PLANB*(ราคาปิด 6.45) เทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนความสนใจมาที่สื่อใหม่ๆ เช่น ดิจิตอล หรือ outdoor มากขึ้น อีกทั้ง อุตสาหกรรมโฆษณา ปี 2561 แนวโน้มฟื้น ซึ่ง "กรุ๊ปเอ็ม" ประเมินมูลค่ากลับมาแตะ 1 แสนล้าน โต 10% หลังชะลอตัว 2 ปีติดต่อกัน .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 502 ล้านบาท (+20% YoY) และ ปี 2018 ที่ 668 ล้านบาท (+33% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 7.69 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) กลุ่ม BANK สินเชื่อ พ.ย. 2017 0.3% MoM และ 2.4% YoY หรือคิดเป็น 1.9% YTD โดยธนาคารที่มีสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ TMB +1.5% MoM รองลงมาเป็น KKP +1.3% MoM จากการเติบโตของสินเชื่อในทุก segment โดยภาพรวมสินเชื่อเดือน พ.ย. 2017 ออกมาค่อนข้างดูดี ซึ่งเราคาดว่า จะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ใน 4Q17 ในระยะสั้นเราแนะนำ เก็งกำไร TMB และ KKP จากตัวเลขสินเชื่อที่ออกมาดี ส่วนในระยะยาวเรายังชอบ BBL และ KBANK เพราะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
(+) กลุ่ม AUTO ส.อ.ท.รายงานสถิติอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเดือน พ.ย.2017 ยอดผลิตรถยนต์ทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 เดือน ที่ 190,385 คัน เพิ่มขึ้น 11.5% YoY ซึ่งได้ผลบวกจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นมากถึง 20.6% YoY และยอดส่งออกพลิกเป็นบวกเพิ่มขึ้น 4.6% YoY รวมงวด 11M17 ยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.83 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1.3% YoY และคิดเป็น 94% ของเป้าหมายผลิตรถยนต์ในปี 2017 ที่ 1.95 ล้านคัน ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2017 ได้ ส่วนปี 2018 คาดยอดผลิตรถยนต์ปรับตัวดีขึ้นเป็น 2.05 ล้านบาท จากผลบวกทั้งยอดขายรถยนต์ในประเทศ และยอดส่งออก ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ด้านผลการดำเนินงานคาดฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2017 - 2018 ทั้งนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มยานยนต์ได้มีการปรับตัวลงมากจึงปรับคำแนะนำเป็น Neutral โดยหุ้น Top Pick ได้แก่ AH ราคาเป้าหมาย 37 บาท ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตสูงคาดยังส่งผลบวกต่อกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ ได้แก่ KKP ราคาเป้าหมาย 84 บาท
(+) RS RS ได้รุกขยายจากธุรกิจ มีเดียครบวงจร สู่ธุรกิจH & B เรามองว่าจะส่งผลบวก ในระยะยาว สำหรับปี 2017 เรามองว่า RS จะฟื้นตัวกลับมามีกำไร เราคาดกำไรปกติอยู่ที่ 270 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 102 ล้านบาทในปี 2016 โดยมีธุรกิจ H &B หนุน อีกทั้งในปี 2018-20E เรามองว่ากำไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่น 23% - 171% จาก ธุรกิจสื่อที่ฟื้นตัว และการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ H &B ปัจจุบัน RS มี PEG 0.94x 2018 (CAGR = 37.6%) เราเริ่มต้นให้คำแนะนำ RS เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท คิดด้วยวิธี DCF (WACC = 9.7% และ Terminal growth = 4%) โดยเรามองว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตได้อีกมากจากโครงการในอนาคต
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3877
(+) กลุ่ม BANK สินเชื่อ พ.ย. 2017 0.3% MoM และ 2.4% YoY หรือคิดเป็น 1.9% YTD โดยธนาคารที่มีสินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ TMB +1.5% MoM รองลงมาเป็น KKP +1.3% MoM จากการเติบโตของสินเชื่อในทุก segment โดยภาพรวมสินเชื่อเดือน พ.ย. 2017 ออกมาค่อนข้างดูดี ซึ่งเราคาดว่า จะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ใน 4Q17 ในระยะสั้นเราแนะนำ เก็งกำไร TMB และ KKP จากตัวเลขสินเชื่อที่ออกมาดี ส่วนในระยะยาวเรายังชอบ BBL และ KBANK เพราะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
(+) กลุ่ม AUTO ส.อ.ท.รายงานสถิติอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเดือน พ.ย.2017 ยอดผลิตรถยนต์ทำสถิติสูงสุดในรอบ 20 เดือน ที่ 190,385 คัน เพิ่มขึ้น 11.5% YoY ซึ่งได้ผลบวกจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นมากถึง 20.6% YoY และยอดส่งออกพลิกเป็นบวกเพิ่มขึ้น 4.6% YoY รวมงวด 11M17 ยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.83 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1.3% YoY และคิดเป็น 94% ของเป้าหมายผลิตรถยนต์ในปี 2017 ที่ 1.95 ล้านคัน ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2017 ได้ ส่วนปี 2018 คาดยอดผลิตรถยนต์ปรับตัวดีขึ้นเป็น 2.05 ล้านบาท จากผลบวกทั้งยอดขายรถยนต์ในประเทศ และยอดส่งออก ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ด้านผลการดำเนินงานคาดฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2017 - 2018 ทั้งนี้ ราคาหุ้นในกลุ่มยานยนต์ได้มีการปรับตัวลงมากจึงปรับคำแนะนำเป็น Neutral โดยหุ้น Top Pick ได้แก่ AH ราคาเป้าหมาย 37 บาท ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตสูงคาดยังส่งผลบวกต่อกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ ได้แก่ KKP ราคาเป้าหมาย 84 บาท
(+) RS RS ได้รุกขยายจากธุรกิจ มีเดียครบวงจร สู่ธุรกิจH & B เรามองว่าจะส่งผลบวก ในระยะยาว สำหรับปี 2017 เรามองว่า RS จะฟื้นตัวกลับมามีกำไร เราคาดกำไรปกติอยู่ที่ 270 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 102 ล้านบาทในปี 2016 โดยมีธุรกิจ H &B หนุน อีกทั้งในปี 2018-20E เรามองว่ากำไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่น 23% - 171% จาก ธุรกิจสื่อที่ฟื้นตัว และการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ H &B ปัจจุบัน RS มี PEG 0.94x 2018 (CAGR = 37.6%) เราเริ่มต้นให้คำแนะนำ RS เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท คิดด้วยวิธี DCF (WACC = 9.7% และ Terminal growth = 4%) โดยเรามองว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตได้อีกมากจากโครงการในอนาคต
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3877