- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 December 2017 16:28
- Hits: 3111
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical DailySET INDEX
1723.71 +6.02 (+0.35) // Vol. 45,217
เริ่มมีความผันผวนมากขึ้น แต่เชื่อว่ามีโอกาสฝ่า 1730 จุด กรอบการเคลื่อนที่ 1718-1727
หลังจากที่ดัชนีเบรกสามเหลี่ยมขึ้นไปได้จากวันก่อนหน้า ทำให้ดัชนีไปต่อด้วยการยก High-Low (1717-1727) ก่อนที่จะทำปิดที่ 1723 จุด จากภาพของดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน ทำให้เริ่มเข้าสู่ Overbought บวกกับกำลังเข้าใกล้ 1730 จุด ทำให้ดัชนีวันนี้น่าจะมีความผันผวนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มดัชนีเชื่อว่ามีโอกาสฝ่า 1730 จุด ได้ในไม่ช้า
แนวรับ 1714-1718
แนวต้าน 1727-1732
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" มีโอกาสทะลุเป้า 1,730 จุด "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯในวันนี้จะสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้จากวันก่อน และภาพทั้งสัปดาห์มีโอกาสสูงที่จะปรับตัวขึ้นทะลุเป้า 1,730 จุดที่เราให้ไว้สำหรับสัปดาห์นี้ .... ภาพต่างประเทศ มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีการเก็งกำไรจากประเด็นเรื่องมาตรการภาษีทรัมป์นี้ โดยคาดว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส .... ปัจจัยในประเทศในวันนี้ มีปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ยังอยู่ในระดับสูงแม้จะปรับตัวลดลง และการคาดการณ์ว่าจะมีการอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ 5 สัญญาซึ่งมีการประมูลไปก่อนหน้านี้ มูลค่ารวมเกือบ 5 หมื่นล้านบาท .... นักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นซื้อสุทธิอีกครั้งเป็นไปตามที่เราคาดว่าจะมีเม็ดเงินทยอยไหลเข้ามายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากผลของ LTF-RMF ในช่วงปลายปีมาพยุงตลาดไว้
กลยุทธ์การลงทุน : แม้ภาพตลาดยังมองว่าสามารถไปต่อได้ และมีแนวโน้มที่จะทะลุกรอบ 1,730 จุด อย่างไรก็ตาม หุ้นบางกลุ่มราคาได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก การเลือกลงทุนจึงควรเลือกเป็นในลักษณะ "selective buy" .... โดยเน้นการเข้าลงทุน (ซื้อ) เป็นรายตัว เน้นหุ้น เก็งงบ 4Q (โรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี) หุ้นที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้น, หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ PTT* , IRPC* , MINT , SEAFCO*
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: PRM, ASIAN, JMART-W2
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,723.71 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 45,217.44 ล้านบาท ต่างชาติมีสภานะสุทธิเป็นซื้ออีกครั้งที่ระดับ 409 ล้านบาท มองตลาดได้รับปัจจัยบวกจากต่างประเทศจากการเก็งกำไรก่อนการอนุมัติมาตรการภาษีทรัมป์ และแรงซื้อจาก LTF-RMF ในช่วงปลายปีที่ยังมีอยู่
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,792.20 จุด ปรับตัวขึ้น 140.46 จุด หรือ +0.57% ทำนิวไฮต่อเนื่อง จากการเก็งกำไรก่อนสภาคองเกรสสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ อีกทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯยังออกมาดีอีกด้วย .... เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +1.2% ปิดที่ 392.66 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,723.71 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 45,217.44 ล้านบาท ต่างชาติมีสภานะสุทธิเป็นซื้ออีกครั้งที่ระดับ 409 ล้านบาท มองตลาดได้รับปัจจัยบวกจากต่างประเทศจากการเก็งกำไรก่อนการอนุมัติมาตรการภาษีทรัมป์ และแรงซื้อจาก LTF-RMF ในช่วงปลายปีที่ยังมีอยู่
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,792.20 จุด ปรับตัวขึ้น 140.46 จุด หรือ +0.57% ทำนิวไฮต่อเนื่อง จากการเก็งกำไรก่อนสภาคองเกรสสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ อีกทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯยังออกมาดีอีกด้วย .... เช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +1.2% ปิดที่ 392.66 จุด
ปัจจัยต่างประเทศ
(+) คาดมาตรการลดภาษีทรัมป์จะผ่านมติได้ก่อนช่วงคริสต์มาส - มาตรการลดหย่อนภาษีสหรัฐฯเป็นประเด็นบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงเวลานี้ โดยคาดว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส
(+) คาดมาตรการลดภาษีทรัมป์จะผ่านมติได้ก่อนช่วงคริสต์มาส - มาตรการลดหย่อนภาษีสหรัฐฯเป็นประเด็นบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงเวลานี้ โดยคาดว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส
ปัจจัยในประเทศ :
(+) ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงแต่ยังอยู่ในระดับที่สูง - สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงาน ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 150.81 จุด ลดลงจากเดือนก่อนที่ 9.02% ที่ 165.77 จุด แม้จะปรับตัวลดลงแต่ยังมองว่าอยู่ในระดับที่สูงอยู่
(+) ครม.วันนี้คาดอนุมัติรถไฟทางคู่ - คาด ครม. อนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง มีบริษัทในตลาดหุ้นได้โครงการ 3 บริษัท (ITD=2.26 หมื่นลบ., UNIQ =1.87 หมื่นลบ., STEC = 1.35 หมื่นลบ.)
(+) ลดภาษีการลงทุน EEC -บีโอไอเปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ได้เห็นชอบให้ประเภทกิจการเป้าหมายในเขต EEC ใน 2 เขตพื้นที่ตามมติบอร์ดบีโอไอ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2017 ได้อนุมัติสิทธิประโยชน์ไปแล้วได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 2 ปี จากเกณฑ์ปกติ 8 ปี
(-) มุมมองท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ลดลง - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เปิดเผยว่าการเดินทางผ่านบริษัททัวร์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2560-2 ม.ค. 2561 ลดลง 50-60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคนไทยไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ได้ยกเลิกวางแผนการเดินทางเพราะมีผลประกอบการที่ไม่ดี (โพสต์ทูเดย์, 19/12/2017)
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์ (ADVANC , TRUE, DTAC) เป็นหุ้นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง ที่นักลงทุนให้ความสนใจน้อย หลังจากการประมูลคลื่นความถี่ ในปี 2558 ที่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาตในราคาที่ค่อนข้างสูง
วานนี้ (18) กสทช. ได้จัดประชุมรับฟังความเห็นสาธารณะ 4 ร่างประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม รวมถึงแผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญที่จะใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ 1800 MHz ที่อยู่ภายใต้สัมปทานระหว่าง บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) โดยสำนักงาน กสทช.เตรียมจะจัดขึ้นในกลางปี 2561
สำหรับร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นของ กสทช. มีสาระสำคัญคือนำคลื่นภายใต้สัมปทานระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม (แคท) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ที่จะสิ้นสุดสัมปทาน ก.ย. 2561 ได้แก่ คลื่น 900 MHz นำออกประมูล 1 ใบอนุญาต ขนาด 5 MHz ราคาเริ่มต้น 37,988 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปี คลื่น 1800 MHz นำออกประมูล 3 ใบอนุญาตๆ ละ 15 MHz ราคาเริ่มต้น 37,457 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปีเช่นกัน แต่จำนวนใบอนุญาตที่จะนำออกประมูลจะใช้กฎ N-1 เพื่อกระตุ้นการแข่งขันเสนอราคา
ความเห็นในเชิงกลยุทธ์ของเรา ต่อการประมูลคลื่นความถี่ ทั้งหมด 50 MHz ครั้งนี้ ว่าน่าจะเกิดขึ้นตามกำหนด แต่ประเด็นที่เราสนใจ คือ ADVANC และ TRUE ได้เสนอให้ กสทช. พิจารณาในในเรื่องการจ่ายเงินค่าใบอนุญาต คลื่น 900 MHz งวดสุดท้ายในปี 2562 ที่สองรายต้องจ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ คือ 5.9 หมื่นล้านบาท และ 6.0 หมื่นล้านบาท โดยขอยืดการจ่ายโดยแบ่งเป็นงวด ทั้งหมด 5 งวด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ ซึ่งทางกสทช. จะมีการพิจารณาข้อเสนอนี้ในวันที่ 27 ธ.ค.2560 หากเป็นเช่นนั้นจริง จะคล้ายกับที่ผู้ประกอบการดิจิตอลทีวี ยืดเวลาการจ่ายเป็นงวดๆ ออกไป เป็นบวกต่อ cash flow ของบริษัทนั้นๆ แต่ในส่วนของ ADVANC และ TRUE แม้จะจ่ายตามกำหนดเดิม ก็คงจะไม่มีปัญหาทางการเงินมากนัก
แต่หากภาระการจ่ายเงินถูกยืดออกไป จะเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการประมูลครั้งใหม่ได้มากขึ้น (ยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้นได้ เพราะไม่ต้องกังวล cash flow มากนัก) จะเป็นบวกต่อ TRUE และ ADVANC มีโอกาสที่นักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นสองตัวนี้ (คล้ายที่เกิดกับหุ้นทีวีดิจิตอล) …… ในขณะที่ DTAC นั้น คงต้องไปรอดูการตัดสินใจของ กสทช. ในเรื่องสัญญาที่มีกับ TOT ในการใช้คลื่น 2300 MKz ที่จะทราบผลในเดือน ก.พ.61
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
PTT*(ราคาปิด 436.00) เรายังคงแนะนำ PTT ต่อเนื่อง โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 3Q17, ค่าการกลั่นน้ำมันลดลง, Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี ราคา HDPE ที่ขึ้นมาประมาณ 3% QoQ, และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้เรามีมุมมองในเชิงบวกต่อบริษัทลูกของ PTT ทุกตัว ซึ่งได้แก่ PTTEP, PTTGC, TOP, IRPC นอกจากนี้ PTT เป็นหุ้นใหญ่นำตลาด เป็นเป้าหมายเวลาที่มีเม็ดเงินเข้าตลาด นอกจากนี้ การออก TOR ประมูลแหล่งปิโตรเลียม บงกชและเอราวัณในเดือน ก.พ. 2018 ถือว่าเร็วกว่ากำหนด เป็นบวกต่อ PTT .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 119,992 ล้านบาท (+27% YoY) และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2018 ที่ 117,237 ล้านบาท (-2% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 460.17 บาท)
IRPC*(ราคาปิด 6.80) มอง IRPC มีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี และคาดว่าจะได้รับ stock gain ในช่วง 4Q17 นอกจากนี้ คาดว่า IRPC จะได้รับผลบวกจากโครงการ UHV ที่จะเสร็จสิ้นภายในปี 2019 อีกด้วย .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,020 ล้านบาท (+3% YoY) และปี 2018 ที่ 12,582 ล้านบาท (+26% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 7.03 บาท)
MINT(ราคาปิด 42.75) เรามองว่า MINT จะ ได้รับผลประโยชน์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากเท่ากับหุ้นกลุ่มโรงแรมตัวอื่นๆ .... อีกทั้งผลประกอบการช่วง 3Q17 ออกมาดีที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 55% QoQ จากโรงแรมในไทยและในกลุ่มทิโวลีที่โปรตุเกสและบราซิล .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 5,575 ล้านบาท (-19% YoY) และปี 2018 ที่ 6,376 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 47.00 บาท)
SEAFCO*(ราคาปิด 9.55) ด้วยการคาดการณ์ว่าที่ประชุม ครม. จะมีการอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ในวันนี้ มองว่า SEAFCO จะได้รับประเด็นบวกจากโครงการดังกล่าว เนื่องจากโครงการรถไฟทางคู่มีงานที่จะต้องใช้เสาเข็มเจาะอยู่ มูลค่ารวมเฉพาะงานเสาเข็มประมาณ 1 พันล้านบาท .... Backlog ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3,014 ล้านบาท รองรับรายได้กว่า 2 ปี ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมากสำหรับหุ้นกลุ่มงานฐานราก .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 207 ล้านบาท (+32% YoY) และปี 2018 ที่ 272 ล้านบาท (+32% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 9.85 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) CPALL แมคโครเปืดสาขาแรกในกัมพูชา เป็นการบุกเบิกเข้าไปสู่ตลาด CLMV ที่มีการเติบโตสูง โดยรายได้จากกัมพูชายังคงน้อยเมื่อเทัยบกับแมคโครปัจจุบัน แต่มีโอกาสที่จะมีการเติบโตของ SSSG ในกัมพูชาในอนาคตสูง CPALLในฐานะผู้ถือหุ้นของแมคโคร จะได้รับประโยชน์ ขณะที่ผลประกอบการในประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการฟื้นตัวของภาวะการบริโภคและการท่องเที่ยว ยังคงแนะนำ "ซื้อ" CPALL ราคาเป้าหมายตาม DCF ที่ 84 บาท
(+) CENTEL CENTEL เผยตัวเลขเดือน ต.ค.-พ.ย. 17 ในส่วนของธุรกิจโรงแรมยังเติบโตได้ดี RevPar ใน 4QTD ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 7% YoY จากการเติบโตในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นได้ดี โดยทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดมี RevPar เพิ่มขึ้น 10% YoY ขณะที่ในมัลดีฟท์ยังหดตัวลงแต่เป็นการลดลงที่ชะลอตัวลง โดย RevPar ยัง -0.4% YoY ในส่วนของธุรกิจอาหารเดือน ต.ค. 17 SSSG หดตัวลง 2.2% YoY เพราะอยู่ในช่วงไว้อาลัย แต่ SSSG พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในเดือน พ.ย. 17 ที่ 6.5% YoY
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขเดือน ต.ค.-พ.ย. 17 ที่มีการเติบโตได้ดี เพราะเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว โดย CENTEL ได้รับประโยชน์ทั้งจากนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียที่เพิ่มขึ้นได้ดี ส่วนธุรกิจอาหารมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แม้ว่า SSSG จะหดตัวในเดือน ต.ค. 17 แต่เราคาดว่า SSSG ใน 4Q17 จะเติบโตได้ดี เพราะเดือน ธ.ค. 17 เป็นช่วงเทศกาลที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า SSSG จะอยู่ที่ระดับ 4% YoY เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ -5.6% ใน 4Q16 โดยเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมที่ 57 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3759
(+) ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงแต่ยังอยู่ในระดับที่สูง - สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงาน ดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 150.81 จุด ลดลงจากเดือนก่อนที่ 9.02% ที่ 165.77 จุด แม้จะปรับตัวลดลงแต่ยังมองว่าอยู่ในระดับที่สูงอยู่
(+) ครม.วันนี้คาดอนุมัติรถไฟทางคู่ - คาด ครม. อนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง มีบริษัทในตลาดหุ้นได้โครงการ 3 บริษัท (ITD=2.26 หมื่นลบ., UNIQ =1.87 หมื่นลบ., STEC = 1.35 หมื่นลบ.)
(+) ลดภาษีการลงทุน EEC -บีโอไอเปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ได้เห็นชอบให้ประเภทกิจการเป้าหมายในเขต EEC ใน 2 เขตพื้นที่ตามมติบอร์ดบีโอไอ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2017 ได้อนุมัติสิทธิประโยชน์ไปแล้วได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 2 ปี จากเกณฑ์ปกติ 8 ปี
(-) มุมมองท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ลดลง - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เปิดเผยว่าการเดินทางผ่านบริษัททัวร์ช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2560-2 ม.ค. 2561 ลดลง 50-60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคนไทยไม่เชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ได้ยกเลิกวางแผนการเดินทางเพราะมีผลประกอบการที่ไม่ดี (โพสต์ทูเดย์, 19/12/2017)
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์ (ADVANC , TRUE, DTAC) เป็นหุ้นกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง ที่นักลงทุนให้ความสนใจน้อย หลังจากการประมูลคลื่นความถี่ ในปี 2558 ที่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาตในราคาที่ค่อนข้างสูง
วานนี้ (18) กสทช. ได้จัดประชุมรับฟังความเห็นสาธารณะ 4 ร่างประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม รวมถึงแผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญที่จะใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และ 1800 MHz ที่อยู่ภายใต้สัมปทานระหว่าง บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) โดยสำนักงาน กสทช.เตรียมจะจัดขึ้นในกลางปี 2561
สำหรับร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นของ กสทช. มีสาระสำคัญคือนำคลื่นภายใต้สัมปทานระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม (แคท) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ที่จะสิ้นสุดสัมปทาน ก.ย. 2561 ได้แก่ คลื่น 900 MHz นำออกประมูล 1 ใบอนุญาต ขนาด 5 MHz ราคาเริ่มต้น 37,988 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปี คลื่น 1800 MHz นำออกประมูล 3 ใบอนุญาตๆ ละ 15 MHz ราคาเริ่มต้น 37,457 ล้านบาท อายุใบอนุญาต 15 ปีเช่นกัน แต่จำนวนใบอนุญาตที่จะนำออกประมูลจะใช้กฎ N-1 เพื่อกระตุ้นการแข่งขันเสนอราคา
ความเห็นในเชิงกลยุทธ์ของเรา ต่อการประมูลคลื่นความถี่ ทั้งหมด 50 MHz ครั้งนี้ ว่าน่าจะเกิดขึ้นตามกำหนด แต่ประเด็นที่เราสนใจ คือ ADVANC และ TRUE ได้เสนอให้ กสทช. พิจารณาในในเรื่องการจ่ายเงินค่าใบอนุญาต คลื่น 900 MHz งวดสุดท้ายในปี 2562 ที่สองรายต้องจ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่ คือ 5.9 หมื่นล้านบาท และ 6.0 หมื่นล้านบาท โดยขอยืดการจ่ายโดยแบ่งเป็นงวด ทั้งหมด 5 งวด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ ซึ่งทางกสทช. จะมีการพิจารณาข้อเสนอนี้ในวันที่ 27 ธ.ค.2560 หากเป็นเช่นนั้นจริง จะคล้ายกับที่ผู้ประกอบการดิจิตอลทีวี ยืดเวลาการจ่ายเป็นงวดๆ ออกไป เป็นบวกต่อ cash flow ของบริษัทนั้นๆ แต่ในส่วนของ ADVANC และ TRUE แม้จะจ่ายตามกำหนดเดิม ก็คงจะไม่มีปัญหาทางการเงินมากนัก
แต่หากภาระการจ่ายเงินถูกยืดออกไป จะเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการประมูลครั้งใหม่ได้มากขึ้น (ยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้นได้ เพราะไม่ต้องกังวล cash flow มากนัก) จะเป็นบวกต่อ TRUE และ ADVANC มีโอกาสที่นักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นสองตัวนี้ (คล้ายที่เกิดกับหุ้นทีวีดิจิตอล) …… ในขณะที่ DTAC นั้น คงต้องไปรอดูการตัดสินใจของ กสทช. ในเรื่องสัญญาที่มีกับ TOT ในการใช้คลื่น 2300 MKz ที่จะทราบผลในเดือน ก.พ.61
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
PTT*(ราคาปิด 436.00) เรายังคงแนะนำ PTT ต่อเนื่อง โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 3Q17, ค่าการกลั่นน้ำมันลดลง, Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี ราคา HDPE ที่ขึ้นมาประมาณ 3% QoQ, และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้เรามีมุมมองในเชิงบวกต่อบริษัทลูกของ PTT ทุกตัว ซึ่งได้แก่ PTTEP, PTTGC, TOP, IRPC นอกจากนี้ PTT เป็นหุ้นใหญ่นำตลาด เป็นเป้าหมายเวลาที่มีเม็ดเงินเข้าตลาด นอกจากนี้ การออก TOR ประมูลแหล่งปิโตรเลียม บงกชและเอราวัณในเดือน ก.พ. 2018 ถือว่าเร็วกว่ากำหนด เป็นบวกต่อ PTT .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 119,992 ล้านบาท (+27% YoY) และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2018 ที่ 117,237 ล้านบาท (-2% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 460.17 บาท)
IRPC*(ราคาปิด 6.80) มอง IRPC มีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี และคาดว่าจะได้รับ stock gain ในช่วง 4Q17 นอกจากนี้ คาดว่า IRPC จะได้รับผลบวกจากโครงการ UHV ที่จะเสร็จสิ้นภายในปี 2019 อีกด้วย .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,020 ล้านบาท (+3% YoY) และปี 2018 ที่ 12,582 ล้านบาท (+26% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 7.03 บาท)
MINT(ราคาปิด 42.75) เรามองว่า MINT จะ ได้รับผลประโยชน์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากเท่ากับหุ้นกลุ่มโรงแรมตัวอื่นๆ .... อีกทั้งผลประกอบการช่วง 3Q17 ออกมาดีที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 55% QoQ จากโรงแรมในไทยและในกลุ่มทิโวลีที่โปรตุเกสและบราซิล .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 5,575 ล้านบาท (-19% YoY) และปี 2018 ที่ 6,376 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 47.00 บาท)
SEAFCO*(ราคาปิด 9.55) ด้วยการคาดการณ์ว่าที่ประชุม ครม. จะมีการอนุมัติโครงการรถไฟทางคู่ในวันนี้ มองว่า SEAFCO จะได้รับประเด็นบวกจากโครงการดังกล่าว เนื่องจากโครงการรถไฟทางคู่มีงานที่จะต้องใช้เสาเข็มเจาะอยู่ มูลค่ารวมเฉพาะงานเสาเข็มประมาณ 1 พันล้านบาท .... Backlog ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3,014 ล้านบาท รองรับรายได้กว่า 2 ปี ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมากสำหรับหุ้นกลุ่มงานฐานราก .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 207 ล้านบาท (+32% YoY) และปี 2018 ที่ 272 ล้านบาท (+32% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 9.85 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) CPALL แมคโครเปืดสาขาแรกในกัมพูชา เป็นการบุกเบิกเข้าไปสู่ตลาด CLMV ที่มีการเติบโตสูง โดยรายได้จากกัมพูชายังคงน้อยเมื่อเทัยบกับแมคโครปัจจุบัน แต่มีโอกาสที่จะมีการเติบโตของ SSSG ในกัมพูชาในอนาคตสูง CPALLในฐานะผู้ถือหุ้นของแมคโคร จะได้รับประโยชน์ ขณะที่ผลประกอบการในประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการฟื้นตัวของภาวะการบริโภคและการท่องเที่ยว ยังคงแนะนำ "ซื้อ" CPALL ราคาเป้าหมายตาม DCF ที่ 84 บาท
(+) CENTEL CENTEL เผยตัวเลขเดือน ต.ค.-พ.ย. 17 ในส่วนของธุรกิจโรงแรมยังเติบโตได้ดี RevPar ใน 4QTD ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 7% YoY จากการเติบโตในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นได้ดี โดยทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดมี RevPar เพิ่มขึ้น 10% YoY ขณะที่ในมัลดีฟท์ยังหดตัวลงแต่เป็นการลดลงที่ชะลอตัวลง โดย RevPar ยัง -0.4% YoY ในส่วนของธุรกิจอาหารเดือน ต.ค. 17 SSSG หดตัวลง 2.2% YoY เพราะอยู่ในช่วงไว้อาลัย แต่ SSSG พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในเดือน พ.ย. 17 ที่ 6.5% YoY
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขเดือน ต.ค.-พ.ย. 17 ที่มีการเติบโตได้ดี เพราะเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว โดย CENTEL ได้รับประโยชน์ทั้งจากนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียที่เพิ่มขึ้นได้ดี ส่วนธุรกิจอาหารมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แม้ว่า SSSG จะหดตัวในเดือน ต.ค. 17 แต่เราคาดว่า SSSG ใน 4Q17 จะเติบโตได้ดี เพราะเดือน ธ.ค. 17 เป็นช่วงเทศกาลที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า SSSG จะอยู่ที่ระดับ 4% YoY เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ -5.6% ใน 4Q16 โดยเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมที่ 57 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3759
