- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 December 2017 17:29
- Hits: 1968
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ กองทุนยังหนุน + ปัจจัยภายนอกดี
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ปรับขึ้นต่อ คาดแรงซื้อจากกองทุนในประเทศมีต่อเนื่อง และปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ยังเป็นบวกมากขึ้นอีก (วานนี้ ดัชนีฯ บวกกรอบจำกัด ตามคาด) นับจากต้นเดือน ธ.ค. สถาบันในประเทศซื้อสะสมหุ้นไทย 1.39 หมื่นล้านบาท เข้าใกล้ค่าเฉลี่ย 5 ปีของยอดสะสมเดือน ธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 1.45 หมื่นล้านบาท (เรามองว่าปีนี้มีโอกาสเห็นสถาบันฯ ซื้อหนักกว่าค่าเฉลี่ย เพราะมุมมองตลาดปี 2561ค่อนข้างดี) ด้านปัจจัยภายนอก เมื่อคืนนี้ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 1.25-1.50% และยกระดับการลดงบดุลขึ้นจาก 1 หมื่นล้านเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญฯ ต่อเดือน ซึ่งเป็นไปตามคาด ทั้งนี้เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปี 2561 จากเดิม 2.1% เป็น 2.5% แต่ยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 (เป็นบวกต่อหุ้นโลก) ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านักการเมืองสหรัฐฯ ใกล้จะได้ข้อสรุปของกฎหมายลดภาษีแล้ว น่าจะส่งให้โดนัลด์ ทรัมป์ลงนามได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อ SET ในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค. และคงแนะนำถือหุ้นหรือเข้าเก็งกำไรต่อ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ กองทุนยังหนุน + ปัจจัยภายนอกดี
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ปรับขึ้นต่อ คาดแรงซื้อจากกองทุนในประเทศมีต่อเนื่อง และปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ยังเป็นบวกมากขึ้นอีก (วานนี้ ดัชนีฯ บวกกรอบจำกัด ตามคาด) นับจากต้นเดือน ธ.ค. สถาบันในประเทศซื้อสะสมหุ้นไทย 1.39 หมื่นล้านบาท เข้าใกล้ค่าเฉลี่ย 5 ปีของยอดสะสมเดือน ธ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 1.45 หมื่นล้านบาท (เรามองว่าปีนี้มีโอกาสเห็นสถาบันฯ ซื้อหนักกว่าค่าเฉลี่ย เพราะมุมมองตลาดปี 2561ค่อนข้างดี) ด้านปัจจัยภายนอก เมื่อคืนนี้ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 1.25-1.50% และยกระดับการลดงบดุลขึ้นจาก 1 หมื่นล้านเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญฯ ต่อเดือน ซึ่งเป็นไปตามคาด ทั้งนี้เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปี 2561 จากเดิม 2.1% เป็น 2.5% แต่ยังคงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 (เป็นบวกต่อหุ้นโลก) ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่านักการเมืองสหรัฐฯ ใกล้จะได้ข้อสรุปของกฎหมายลดภาษีแล้ว น่าจะส่งให้โดนัลด์ ทรัมป์ลงนามได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อ SET ในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค. และคงแนะนำถือหุ้นหรือเข้าเก็งกำไรต่อ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรหุ้นถูกขายทำกำไร พื้นฐานดี COM7*, SPPT, ECL
COM7* (เป้า Consensus 18.4 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นปรับฐาน หลังขึ้นแรงก่อนหน้า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานเด่น คาดแนวโน้มกำไร 4Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่ โต YoY และ QoQ 2) คาดความต้องการอุปกรณ์ไอที เช่น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ในไทย ยังเติบโตต่อเนื่องตามเทรนด์ใหญ่ของโลก และล่าสุด กสทช เทงบ 4.6 พันล้านบาท หนุนใช้อินเตอร์เนตชายขอบ เริ่ม ส.ค.61 เป็นบวกต่อความต้องการอุปกรณ์ โดย COM7* มีสาขาในต่างจังหวัดจำนวนมากและล่าสุดเตรียมเปิดแฟรนไชส์ร้าน Banana IT ในพื้นที่ต่างจังหวัด และ COM7* ขายอุปกรณ์ไอที+สมาร์ทโฟนครบทุกยี่ห้อ รวมถึงยี่ห้อจีนที่ราคาไม่แพง 3) Valuation ไม่แพง หลังราคาปรับฐาน โดยตอนนี้ PE ปี 2561 ต่ำเพียง 25 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ขณะที่ i) SSSG ใน 9M60 โตเด่นถึง +12% (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯต่ำกว่า 3%) และ อัตราการเติบโตของกำไรปีหน้า +26% YoY (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯเฉลี่ยราว 15%) 4) ประเมินรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 16 บาท และถัดไป 16.6 บาท / แนวรับ 14.7 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
SPPT (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ โดยเพิ่มสายธุรกิจด้านงานรับเหมาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซื้อหุ้นสามัญ เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) จำนวน 51%) จะทำให้ผลการดำเนินงานปี 2561 เริ่มการ Turnaround ได้ (คาดเริ่มมีกำไรตั้งแต่ 4Q60 จากการขายที่ดินโรงงานให้เช่า ราว 60 ล้านบาท ลุ้นปันผลครั้งแรกในรอบ 3 ปี) 2) ประเมินความต้องการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็นเทรนด์ใหญ่ใน 2-3 ปีข้างหน้า 3) ประเมินแนวต้านแรก 5.8 บาท และหากผ่านได้จะยืนยันสัญญาณซื้อต่อเนื่องประเมินแนวต้านถัดไปที่ 6.3 บาท (Stop loss 4.94 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) 1) ประเมินผลจากการสะสมยอดสินเชื่อใหม่ (รถยนต์มือสอง / บิ๊กไบค์มือสอง) อย่างต่อเนื่องจะทำให้แนวโน้มกำไร 4Q60 ยังทำจุดสูงสุดใหม่ต่อ (Snowball effect) เบื้องต้นคาดกำไร 4Q60 ในกรอบ 38 – 42 ล้านบาท (จากกำไร 37 ล้านบาทใน 3Q60) 2) ประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่มีโอกาสปรับขึ้น เราประเมินผลกระทบต่อประมาณการกำไรจำกัด โดย i) ดอกเบี้ยรับสินเชื่อรถยนต์มือสองที่สูงเฉลี่ยราว 10 – 11% นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาดปีหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เพียงครั้งเดียว จึงส่งผลกระทบจำกัด ii) คาด ECL เตรียมออกหุ้นกู้ในต้นปีหน้า เพื่อล๊อกต้นทุนดอกเบี้ยในอนาคต 3) PE ปี 2561 ตอนนี้เพียง 20 เท่า และมีโอกาสปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้น จากยอดสินเชื่อใหม่ที่โตกว่าคาดในปีนี้ (เราคาดกำไรปีหน้า 202 ล้านบาท +46% YoY) 4) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากที่เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรก่อนหน้าได้ โดยกำหนดกลยุทธ์ดังนี้ i) หากผ่านแนวต้าน 4.0 บาทได้ แนะนำ Follow buy ประเมินแนวต้านถัดไป 4.3 บาท ii) หากยังไม่ผ่านแนวต้าน 4.0 บาท แนะนำย่อสะสมแนวรับ 3.80 บาท (Stop loss 3.54 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 18.4 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นปรับฐาน หลังขึ้นแรงก่อนหน้า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานเด่น คาดแนวโน้มกำไร 4Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่ โต YoY และ QoQ 2) คาดความต้องการอุปกรณ์ไอที เช่น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ในไทย ยังเติบโตต่อเนื่องตามเทรนด์ใหญ่ของโลก และล่าสุด กสทช เทงบ 4.6 พันล้านบาท หนุนใช้อินเตอร์เนตชายขอบ เริ่ม ส.ค.61 เป็นบวกต่อความต้องการอุปกรณ์ โดย COM7* มีสาขาในต่างจังหวัดจำนวนมากและล่าสุดเตรียมเปิดแฟรนไชส์ร้าน Banana IT ในพื้นที่ต่างจังหวัด และ COM7* ขายอุปกรณ์ไอที+สมาร์ทโฟนครบทุกยี่ห้อ รวมถึงยี่ห้อจีนที่ราคาไม่แพง 3) Valuation ไม่แพง หลังราคาปรับฐาน โดยตอนนี้ PE ปี 2561 ต่ำเพียง 25 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ขณะที่ i) SSSG ใน 9M60 โตเด่นถึง +12% (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯต่ำกว่า 3%) และ อัตราการเติบโตของกำไรปีหน้า +26% YoY (ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯเฉลี่ยราว 15%) 4) ประเมินรีบาวด์ทดสอบแนวต้าน 16 บาท และถัดไป 16.6 บาท / แนวรับ 14.7 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
SPPT (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ โดยเพิ่มสายธุรกิจด้านงานรับเหมาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซื้อหุ้นสามัญ เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TERA) จำนวน 51%) จะทำให้ผลการดำเนินงานปี 2561 เริ่มการ Turnaround ได้ (คาดเริ่มมีกำไรตั้งแต่ 4Q60 จากการขายที่ดินโรงงานให้เช่า ราว 60 ล้านบาท ลุ้นปันผลครั้งแรกในรอบ 3 ปี) 2) ประเมินความต้องการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็นเทรนด์ใหญ่ใน 2-3 ปีข้างหน้า 3) ประเมินแนวต้านแรก 5.8 บาท และหากผ่านได้จะยืนยันสัญญาณซื้อต่อเนื่องประเมินแนวต้านถัดไปที่ 6.3 บาท (Stop loss 4.94 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) 1) ประเมินผลจากการสะสมยอดสินเชื่อใหม่ (รถยนต์มือสอง / บิ๊กไบค์มือสอง) อย่างต่อเนื่องจะทำให้แนวโน้มกำไร 4Q60 ยังทำจุดสูงสุดใหม่ต่อ (Snowball effect) เบื้องต้นคาดกำไร 4Q60 ในกรอบ 38 – 42 ล้านบาท (จากกำไร 37 ล้านบาทใน 3Q60) 2) ประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่มีโอกาสปรับขึ้น เราประเมินผลกระทบต่อประมาณการกำไรจำกัด โดย i) ดอกเบี้ยรับสินเชื่อรถยนต์มือสองที่สูงเฉลี่ยราว 10 – 11% นักเศรษฐศาสตร์ บล เคจีไอ คาดปีหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เพียงครั้งเดียว จึงส่งผลกระทบจำกัด ii) คาด ECL เตรียมออกหุ้นกู้ในต้นปีหน้า เพื่อล๊อกต้นทุนดอกเบี้ยในอนาคต 3) PE ปี 2561 ตอนนี้เพียง 20 เท่า และมีโอกาสปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้น จากยอดสินเชื่อใหม่ที่โตกว่าคาดในปีนี้ (เราคาดกำไรปีหน้า 202 ล้านบาท +46% YoY) 4) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากที่เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรก่อนหน้าได้ โดยกำหนดกลยุทธ์ดังนี้ i) หากผ่านแนวต้าน 4.0 บาทได้ แนะนำ Follow buy ประเมินแนวต้านถัดไป 4.3 บาท ii) หากยังไม่ผ่านแนวต้าน 4.0 บาท แนะนำย่อสะสมแนวรับ 3.80 บาท (Stop loss 3.54 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่ม “ค้าปลีก” และ “สื่อ” เป็นโอกาส “ซื้อสะสม”
i) เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกตัวหลัก อย่าง CPALL*, ROBINS*, COM7* ถูกขายทำกำไรในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มพักฐาน เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง โดยเรายังคงประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะโตเด่น YoY และ QoQ ต่อเนื่องใน 4Q60 – 1Q61 เป็นอย่างน้อย และคาดปี 2561 กำไรโตเด่น YoY จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง
ii) หุ้นกลุ่มสื่อ ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ RS แนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มสื่อตัวเดียวที่ผลการดำเนินงาน 4Q60 มีกำไรสุทธิ (หนุนจากธุรกิจเครื่องสำอาง) และเราแนะนำ “เก็งกำไร” PLANB* ที่รูปแบบราคาเริ่มสร้างฐานได้ คาดมีโอกาสรีบาวด์
หุ้นกลุ่ม “ค้าปลีก” และ “สื่อ” เป็นโอกาส “ซื้อสะสม”
i) เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกตัวหลัก อย่าง CPALL*, ROBINS*, COM7* ถูกขายทำกำไรในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มพักฐาน เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง โดยเรายังคงประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะโตเด่น YoY และ QoQ ต่อเนื่องใน 4Q60 – 1Q61 เป็นอย่างน้อย และคาดปี 2561 กำไรโตเด่น YoY จากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวเด่นต่อเนื่อง
ii) หุ้นกลุ่มสื่อ ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ RS แนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มสื่อตัวเดียวที่ผลการดำเนินงาน 4Q60 มีกำไรสุทธิ (หนุนจากธุรกิจเครื่องสำอาง) และเราแนะนำ “เก็งกำไร” PLANB* ที่รูปแบบราคาเริ่มสร้างฐานได้ คาดมีโอกาสรีบาวด์
หุ้นมีข่าว
(+) กสทช.เทงบ 4.6 พันล.หนุนเน็ตชายขอบ (ไทยโพสต์) กสทช. เทงบ 4.6 พันล้าน หนุนบัตรสวัสดิการรัฐใช้เน็ต ชายขอบฟรี 3 ปี เริ่มให้บริการ 1 ส.ค.61 คาดสร้างเงินสะพัดในพื้นที่จากออนไลน์กว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี
(+) ALT จับมือedotcoจากมาเลย์ฯลุยให้บริการพื้นฐานโทรคมนาคม (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)เอแอลที เทเลคอม จดปากกาเซ็น MOU กับ edotco ยักษ์ใหญ่จากมาเลเซีย ลุยให้บริการด้านสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคม-ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์" มั่นใจช่วยเพิ่มสัดส่วนของโครงสร้างกำไรที่มาจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้ต่อเนื่องเป็น 50% ภายในปี 2563
(+ RS, PLANB*) โฆษณาร่วง'นิตยสาร'ปิดตัว (กรุงเทพธุรกิจ) เม็ดเงินโฆษณานิตยสารร่วงต่อเนื่อง ปีนี้ติดลบ 34% ค่ายดังทยอยลงแผง มีเดีย เอเยนซีแนะปรับตัวเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม มุ่งสื่อสารครบวงจร "ออฟไลน์-ออนไลน์-อีเวนท์" ลุ้นปีหน้าอุตสาหกรรมโฆษณา พลิกโต 10%
(+) ขีดเส้น 2 เดือนบูม'ท่องเที่ยว'เมืองรอง-ชุมชน (กรุงเทพธุรกิจ) "สมคิด" สั่งการบ้านกระทรวงท่องเที่ยวฯ-ททท.ระดมสมองบูมท่องเที่ยวเมืองรอง ขีดเส้น 2 เดือนต้องได้รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม แผนส่งเสริม หวังพัฒนาคู่การท่องเที่ยวชุมชน-ท้องถิ่น สร้างการเติบโตยั่งยืน "วีระศักดิ์" ชงคลังผุดมาตรการภาษีหนุนเที่ยวเมืองรองเข้าครม
(0) TKS ตั้งโต๊ะ ซื้อ TBSP 1,383 ล้าน (โพสต์ทูเดย์) TKS ประกาศใช้ 1,383 ล้าน เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ TBSP เดินหน้าเพิ่มทุนระดมเงิน 600 ล้าน ซื้อหุ้น-คืนหนี้ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จากทุน 360.21 ล้านบาท เป็น 420.21 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น เดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)
(+) กสทช.เทงบ 4.6 พันล.หนุนเน็ตชายขอบ (ไทยโพสต์) กสทช. เทงบ 4.6 พันล้าน หนุนบัตรสวัสดิการรัฐใช้เน็ต ชายขอบฟรี 3 ปี เริ่มให้บริการ 1 ส.ค.61 คาดสร้างเงินสะพัดในพื้นที่จากออนไลน์กว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี
(+) ALT จับมือedotcoจากมาเลย์ฯลุยให้บริการพื้นฐานโทรคมนาคม (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)เอแอลที เทเลคอม จดปากกาเซ็น MOU กับ edotco ยักษ์ใหญ่จากมาเลเซีย ลุยให้บริการด้านสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคมสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคม-ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์" มั่นใจช่วยเพิ่มสัดส่วนของโครงสร้างกำไรที่มาจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้ต่อเนื่องเป็น 50% ภายในปี 2563
(+ RS, PLANB*) โฆษณาร่วง'นิตยสาร'ปิดตัว (กรุงเทพธุรกิจ) เม็ดเงินโฆษณานิตยสารร่วงต่อเนื่อง ปีนี้ติดลบ 34% ค่ายดังทยอยลงแผง มีเดีย เอเยนซีแนะปรับตัวเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม มุ่งสื่อสารครบวงจร "ออฟไลน์-ออนไลน์-อีเวนท์" ลุ้นปีหน้าอุตสาหกรรมโฆษณา พลิกโต 10%
(+) ขีดเส้น 2 เดือนบูม'ท่องเที่ยว'เมืองรอง-ชุมชน (กรุงเทพธุรกิจ) "สมคิด" สั่งการบ้านกระทรวงท่องเที่ยวฯ-ททท.ระดมสมองบูมท่องเที่ยวเมืองรอง ขีดเส้น 2 เดือนต้องได้รายละเอียดแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม แผนส่งเสริม หวังพัฒนาคู่การท่องเที่ยวชุมชน-ท้องถิ่น สร้างการเติบโตยั่งยืน "วีระศักดิ์" ชงคลังผุดมาตรการภาษีหนุนเที่ยวเมืองรองเข้าครม
(0) TKS ตั้งโต๊ะ ซื้อ TBSP 1,383 ล้าน (โพสต์ทูเดย์) TKS ประกาศใช้ 1,383 ล้าน เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ TBSP เดินหน้าเพิ่มทุนระดมเงิน 600 ล้าน ซื้อหุ้น-คืนหนี้ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จากทุน 360.21 ล้านบาท เป็น 420.21 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น เดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 5.05 บาท / แนวต้าน 5.70 บาท (Stop loss 5.05 บาท)
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) ประเมินแนวรับ 224 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” แนวต้าน 240 บาท (Trailing stop 223 บาท)
SAPPE (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) ประเมินแนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 27 บาท (Stop loss 24 บาท)
EGCO* (เป้าพื้นฐาน 260 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 219 บาท / แนวต้าน 230 บาท
EASON (เป้า Consensus 4.5 บาท) พิจารณาแนวรับสำคัญ 3.84 หากปิดต่ำกว่าแนะนำ “ขายทำกำไร” หากยืนได้แนะนำ “ถือ” ประเมินรูปแบบราคา Bullish flag pattern รอสัญญาณซื้อต่อเนื่องหากผ่านแนวต้าน 4.0 บาทได้
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 5.05 บาท / แนวต้าน 5.70 บาท (Stop loss 5.05 บาท)
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) ประเมินแนวรับ 224 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” แนวต้าน 240 บาท (Trailing stop 223 บาท)
SAPPE (เป้าพื้นฐาน 27 บาท) ประเมินแนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 27 บาท (Stop loss 24 บาท)
EGCO* (เป้าพื้นฐาน 260 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 219 บาท / แนวต้าน 230 บาท
EASON (เป้า Consensus 4.5 บาท) พิจารณาแนวรับสำคัญ 3.84 หากปิดต่ำกว่าแนะนำ “ขายทำกำไร” หากยืนได้แนะนำ “ถือ” ประเมินรูปแบบราคา Bullish flag pattern รอสัญญาณซื้อต่อเนื่องหากผ่านแนวต้าน 4.0 บาทได้
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SQ แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิของ SQ ใน 4Q60 จะอยู่ที่ 23 ล้านบาท ลดลง 87% YoY แต่พลิกจากที่ขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาทใน 3Q60 อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯทำการปรับลดประมาณการกำไรปี 2560/61 ลง 21%/16% เนื่องจากโครงการเหมืองดีบุกเลื่อนเปิดดำเนินการจากกำหนดเดิมใน 3Q60 อีกหกเดือน และจนถึงขณะนี้การติดตั้งเครื่องลำเลียงใหม่ในโครงการแม่เมาะ 8 ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย
BH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 236 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q60 = 975 ล้านบาท (+18.3% YoY แต่ลดลง -7.6% QoQ)
SQ แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 6.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิของ SQ ใน 4Q60 จะอยู่ที่ 23 ล้านบาท ลดลง 87% YoY แต่พลิกจากที่ขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาทใน 3Q60 อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯทำการปรับลดประมาณการกำไรปี 2560/61 ลง 21%/16% เนื่องจากโครงการเหมืองดีบุกเลื่อนเปิดดำเนินการจากกำหนดเดิมใน 3Q60 อีกหกเดือน และจนถึงขณะนี้การติดตั้งเครื่องลำเลียงใหม่ในโครงการแม่เมาะ 8 ก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย
BH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 236 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 4Q60 = 975 ล้านบาท (+18.3% YoY แต่ลดลง -7.6% QoQ)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยเส้นแนวโน้มที่ต้าน 1707 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1707 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1707-1730 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1707 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1707-1696 จุด
แนวรับวันนี้: 1703/1697 แนวต้านวันนี้: 1707/1722
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO3571
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยเส้นแนวโน้มที่ต้าน 1707 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1707 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1707-1730 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1707 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1707-1696 จุด
แนวรับวันนี้: 1703/1697 แนวต้านวันนี้: 1707/1722
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO3571