- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 December 2017 16:26
- Hits: 7891
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1702.17 -4.35 (-0.25) // Vol. 52,256
แกว่งตัวออกข้าง รอเลือกทิศทาง
กรอบการเคลื่อนที่ 1698-1708
ดัชนีวานนี้กลับมาพักตัว โดยลงมาปิด Gap ที่เปิดไว้จากวันก่อนหน้าได้สนิท บวกกับมีความพยายามยืน 1700 จุด ถึงแม้จะหลุดลงมาทำ Low (1699) แต่ก็สามารถกลับขึ้นไปทำปิดได้ที่ 1702 จุด และยังยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย แต่กลุ่มกราฟแท่งเทียนที่แสดงในเชิงลบ จากภาพดังกล่าวจะเห็นว่ามีความขัดแย้ง ทำให้ดัชนีน่าจะยังคงมีทิศทางที่แกว่งตัวออกข้าง เพื่อรอเลือกทาง
แนวรับ 1695-1698
แนวต้าน 1708-1714
SET INDEX
1702.17 -4.35 (-0.25) // Vol. 52,256
แกว่งตัวออกข้าง รอเลือกทิศทาง
กรอบการเคลื่อนที่ 1698-1708
ดัชนีวานนี้กลับมาพักตัว โดยลงมาปิด Gap ที่เปิดไว้จากวันก่อนหน้าได้สนิท บวกกับมีความพยายามยืน 1700 จุด ถึงแม้จะหลุดลงมาทำ Low (1699) แต่ก็สามารถกลับขึ้นไปทำปิดได้ที่ 1702 จุด และยังยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย แต่กลุ่มกราฟแท่งเทียนที่แสดงในเชิงลบ จากภาพดังกล่าวจะเห็นว่ามีความขัดแย้ง ทำให้ดัชนีน่าจะยังคงมีทิศทางที่แกว่งตัวออกข้าง เพื่อรอเลือกทาง
แนวรับ 1695-1698
แนวต้าน 1708-1714
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" รอผลประชุม Fed & ฝรั่งขาย-ไทยซื้อ "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯในวันนี้จะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway รอการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ .... ภาพต่างประเทศ มองเป็นบวกจากประเด็นการคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะเสร็จสิ้นในคืนนี้ ซึ่งตามสถิติแล้วทุกครั้งที่มีการปรับตขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจะตอบรับในเชิงบวก ด้านปัจจัยในประเทศเป็นบวกเช่นกันจากการเสนอมาตรการพยุงสินค้าเกษตร, การเสนออนุมัติเซ็นสัญญารถไฟทางคู่, คาดการณ์อุตสาหกรรมโฆษณาที่เติบโต, และความสัมพันธ์ไทย-อียูที่มีการยกระดับ .... แม้ประเด็นทั้งในและต่างประเทศจะเป็นบวกในหลายๆปัจจัย อย่างไรก็ตามเรามองว่าดัชนีในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดจากการที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯและมาตรการปฎิรูปภาษีทรัมป์ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะเป็นขายสุทธิอยู่
กลยุทธ์การลงทุน : ภาพตลาดในวันนี้ยังมองเป็น sideway แต่คาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ .... กลยุทธ์ลงทุน จึงมองว่าหากตลาดมีการปรับตัวลง จะเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม การเข้าลงทุน (ซื้อ) ยังต้องเลือกเป็นรายตัว เน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว, หุ้นที่ได้รับผลบวกจากมาตรการพยุงสินค้าเกษตร, และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ HANA, THANI, SEAFCO, BBL, CPALL
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : SAT, SAWAD, TITLE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) BJC บริษัทในเครือไทยเบพ TBEV.SI เป็นตัวเต็งในการเข้าประมูลร่วมลงทุนในรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่สุดในเวียดนาม
" รอผลประชุม Fed & ฝรั่งขาย-ไทยซื้อ "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯในวันนี้จะเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway รอการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ .... ภาพต่างประเทศ มองเป็นบวกจากประเด็นการคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะเสร็จสิ้นในคืนนี้ ซึ่งตามสถิติแล้วทุกครั้งที่มีการปรับตขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจะตอบรับในเชิงบวก ด้านปัจจัยในประเทศเป็นบวกเช่นกันจากการเสนอมาตรการพยุงสินค้าเกษตร, การเสนออนุมัติเซ็นสัญญารถไฟทางคู่, คาดการณ์อุตสาหกรรมโฆษณาที่เติบโต, และความสัมพันธ์ไทย-อียูที่มีการยกระดับ .... แม้ประเด็นทั้งในและต่างประเทศจะเป็นบวกในหลายๆปัจจัย อย่างไรก็ตามเรามองว่าดัชนีในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดจากการที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯและมาตรการปฎิรูปภาษีทรัมป์ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะเป็นขายสุทธิอยู่
กลยุทธ์การลงทุน : ภาพตลาดในวันนี้ยังมองเป็น sideway แต่คาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ .... กลยุทธ์ลงทุน จึงมองว่าหากตลาดมีการปรับตัวลง จะเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม การเข้าลงทุน (ซื้อ) ยังต้องเลือกเป็นรายตัว เน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว, หุ้นที่ได้รับผลบวกจากมาตรการพยุงสินค้าเกษตร, และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ HANA, THANI, SEAFCO, BBL, CPALL
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : SAT, SAWAD, TITLE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) BJC บริษัทในเครือไทยเบพ TBEV.SI เป็นตัวเต็งในการเข้าประมูลร่วมลงทุนในรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่สุดในเวียดนาม
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,702.17 จุด ลดลง 4.35 จุด หรือ -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 52,256.34 ล้านบาท การปรับตัวของตลาดหุ้นมาจากการขายหุ้นในกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ในขณะที่ต่างชาติยังมีสถานะเป็นขายสุทธิที่ 706 ล้นบาท แต่คาดตลาดยังได้แรงซื้อจาก LTF-RMF หนุนตลาดไว้อยู่
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,504.80 จุด พุ่งขึ้น 118.77 จุด หรือ +0.49% จากการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นโบอิ้งหลังมีการเพิ่มการจ่ายเงินปันผล อีกทั้งนักลงทุนบางส่วนทำการเก็งกำไรก่อนการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ .... แต่ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.66% ปิดที่ 391.63 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 85 เซนต์ หรือ -1.5% ปิดที่ 57.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มองเป็นการขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ ติดตามรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดจะลดลงราว 3.8 ล้านบาร์เรล
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,702.17 จุด ลดลง 4.35 จุด หรือ -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 52,256.34 ล้านบาท การปรับตัวของตลาดหุ้นมาจากการขายหุ้นในกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ในขณะที่ต่างชาติยังมีสถานะเป็นขายสุทธิที่ 706 ล้นบาท แต่คาดตลาดยังได้แรงซื้อจาก LTF-RMF หนุนตลาดไว้อยู่
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,504.80 จุด พุ่งขึ้น 118.77 จุด หรือ +0.49% จากการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นโบอิ้งหลังมีการเพิ่มการจ่ายเงินปันผล อีกทั้งนักลงทุนบางส่วนทำการเก็งกำไรก่อนการประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ .... แต่ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.66% ปิดที่ 391.63 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 85 เซนต์ หรือ -1.5% ปิดที่ 57.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มองเป็นการขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ ติดตามรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดจะลดลงราว 3.8 ล้านบาร์เรล
ปัจจัยต่างประเทศ :
(+) ติดตามผลการประชุม FOMC ในวันนี้ - การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯมีขึ้นในช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค.ตลาดคาดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ 0.25% สถิติที่ผ่านมาพบว่า เวลา Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นในแดนบวก ติดตามการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ตลาดคาดไว้ที่ประมาณ 3 ครั้ง
(+) ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 3 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.3%
(+) ติดตามผลการประชุม FOMC ในวันนี้ - การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯมีขึ้นในช่วงวันที่ 12-13 ธ.ค.ตลาดคาดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ 0.25% สถิติที่ผ่านมาพบว่า เวลา Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นในแดนบวก ติดตามการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ตลาดคาดไว้ที่ประมาณ 3 ครั้ง
(+) ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 3 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.3%
ปัจจัยในประเทศ :
(+) ครม.เสนอมาตรการพยุงราคายาง, อนุมัติรถไฟทางคู่ ครม. วานนี้ไม่มีการอนุมัติมาตรการที่มีนัยสำคัญต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า คาดจะมีมาตรการช่วยพยุงราคายางพาราที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ไม่ให้เกษตรกรขาดทุน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ และ รมว.คมนาคม คาดว่าจะเสนอโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางซึ่งแบ่ง 13 สัญญา ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะลงนามในสัญญากับผู้รับเหมา 9 สัญญาได้ภายในเดือนธ.ค.นี้
(+) ความสัมพันธ์ไทย-อียู - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่คณะมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) มีมติฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศไทยในทุกระดับ (โพสต์ทูเดย์, 13/12/2017)
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ BM, PJW, PLANB, TM, UBIS, AMANAH, A, ETE, KIAT, GCAP, SIS, ANAN, RJH, NWR. PORT
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
นักลงทุนต่างประเทศ ยังขายหุ้นต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน กองทุนฯในประเทศเป็นฝ่ายซื้อส่งท้าย จากเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF ตลาดหุ้นจึงค่อยๆเดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังมีความผันผวนจากแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนสองกลุ่มนี้ในแต่ละวัน .... เรามองว่า หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซื้อของกองทุนฯ จะไปอยู่ที่หุ้นขนาดใหญ่ มี upside ในแต่ละกลุ่ม เช้า BBL , PTT, CPALL แต่หุ้นที่กลาง-เล็ก อาจมีแรงเข้ามาเก็งกำไรลดลง ทั้งจากเม็ดเงินที่ไหลไปหาหุ้นใหญ่ และข่าวที่ว่า บลจ.) กสิกรไทยฯ และบลจ.กรุงศรี ประกาศปิดรับคำสั่งซื้อและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้ากองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กในไทยชั่วคราว
วันนี้ จับตาการแถลงนโยบายด้านการท่องเที่ยวของ ดร.สมคิด ที่เข้ารับหน้าที่ดูแลการท่องเที่ยว ที่เราคาดหวังว่า จะกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หลัง มาตรการลดหย่อนภาษี 15000 ใช้ปีหน้า ออกมาเป็นลำดับแรก หุ้นที่เป็น top pick สำหรับการท่องเที่ยวของเรา คือ AOT และ ERW
เก็งงบ 4Q เราสนใจหุ้นสองกลุ่มหลัก คือ ธนาคาร โดยหุ้นที่เราประเมินว่ากำไรจะออกมาดีทั้ง YoY และ QoQ ได้แก่ TCAP, TMB, BBL และหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี แต่เลือกใน segment ของ โรงกลั่นน้ำมัน ที่ค่าการกลับยังอยู่ในระดับสูง $6-7 เหรียญ และได้ประโยชน์จากกำไร stock น้ำมัน ตัวหลักๆ คือ TOP และ spread ของ ปิโตรเคมี ที่ยังดีหุ้น PTTGC ได้อานิสงค์จาก ราคา Ethylene และ HDPE ที่ปรับตัวขึ้น
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จากนี้จะไปพูดถึงของปีหน้า ที่เป็น highlight จะไปเป็นบวกต่อหุ้นสองกลุ่ม คือ ลงทุนเอกชน (WHA, THANI , TCAP) , หุ้นที่มีฐานรายได้ในเชตภูมิภาค (SINGER , TK, THANI ) และหุ้นอิงราคาสินค้าเกษตรจากความเข้าพยุงราคาไว้ (STA, LST)
หอการค้า เปิด 10 ธุรกิจดาวเด่น ธุรกิจไอทีสื่อสาร อุปกรณ์อินเทอร์เน็ต ขึ้นแท่นล้มแชมป์การแพทย์และความงาม เปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัลเต็มตัว เผย 10 ธุรกิจร่วง มีสิทธิหลุดวงจรตลาด นิตยสาร สิ่งพิมพ์ ผลิต DVD/CD เคเบิลทีวี โทรศัพท์บ้าน ส่วนหัตถกรรมและสินค้าเกษตร ต้องมีดีไซน์ มุ่งเกษตรอินทรีย์ จึงรอด ขณะที่ข่าว อุตสาหกรรมโฆษณา ปี 2561 แนวโน้มฟื้น "กรุ๊ปเอ็ม" ประเมินมูลค่ากลับมาแตะ 1 แสนล้าน โต 10% หลังชะลอตัว 2ปีซ้อน เม็ดเงิน "ดิจิทัล- สื่อนอกบ้าน" โตสูง "กันตาร์"ชี้เทรนด์ ชอปปิงออนไลน์กลุ่มอุปโภคบริโภคยอดพุ่ง ....... เรามองว่า การที่ผู้บริโภคเปลี่ยนความสนใจมาที่สื่อใหม่ๆ เช่น ดิจิตอล หรือ outdoor มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเดิม เช่น นสพ.และนิตยสาร มีรายได้ที่ลดลง ขณะที่สื่อที่เป็น new media อย่างเช่น สื่อดิจิตอล (ในตลาดหุ้นยังไม่มีใครทำอย่างจริงจัง) และสื่อ outdoor จะขยายตัวดี บวกต่อ PLANB , VGI, MACO
ครม.รับทราบมาตรการแก้ไขราคายางพาราตกต่ำ 3 มาตรการ "กฤษฎา" หวังราคาไม่ต่ำกว่าทุน เตรียมชงเข้ากนย.พิจารณาก่อนเสนอเข้าครม.สัปดาห์หน้า เล็งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในหน่วยราชการ ดันสินเชื่อ 3%หนุนชะลอส่งออก คาดทั้งปีดูดซับยางกว่า 3.5 แสนตัน ชะลอกรีดยาง ม.ค. - มี.ค. และไฟเขียวเพิ่มวงเงิน 1.6 พันล้านหนุนเกษตรกรลดปลูกข้าวนาปรังอีก 9 แสนไร่ ..... ด้านปาล์มน้ำมัน คาดว่าจะมีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน โดยจะเพิ่มเป้าหมายการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบจากปัจจุบันส่งออกประมาณเดือนละ 6 หมื่นตัน เพิ่มเป็น 1 แสนตัน ..... เรามองว่า การเข้ามาดูแลราคาสินค้าเกษตรทั้ง 3 ตัว หากทำได้จริง จะทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรสูงขึ้น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าเหล่านี้ อาทิ STA, TRUBB, TNR, LST, CPI, PTG, UAC
บอร์ด "ขสมก." ประชุมวันนี้ เคาะผลประมูลจัดซื้อรถโดยสาร NGV 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท "ณัฐชาติ" เผย SCN-CHO ยืนยันราคาแล้ว สูงกว่าราคากลางไม่เกิน 10% หากบอร์ดไฟเขียวพร้อมเซ็นสัญญาภายใน ธ.ค.นี้ทันที
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BBL(ราคาปิด 206.00) เรายังคงชอบกลุ่มแบงก์ ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มที่จะสามารถเคลื่อนไหวไปตามสภาวะตลาด โดยเรามองว่า BBL จะได้รับผลบวกจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น …. นอกจากนี้เรายังมองว่าภาพรวมสินเชื่อใน 4Q17 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงของการเบิกจ่ายของสินเชื่อรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการภาครัฐ …. KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 33,140 ล้านบาท (+4% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 36,743 ล้านบาท (+11% YoY) นอกจากนี้ BBL ยังได้ผลบวกจากการเป็นพันธมิตรกับ AIA ขายประกันผ่าน 1,200 สาขา ซึ่งจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์แรกในช่วงกลางปี 2018 …. (ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 222.00 บาท)
CPALL(ราคาปิด 75.00) CPALL เป็นหุ้นที่น่าสนใจทั้งจากคาดการณ์ยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น .... เราคาดว่า CPALL จะสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่องในช่วง 4Q17 จากการที่ภาคบริโภคอยู่ในระดับสูงตามเทศกาล และมาตรการการจากภาครัฐมีส่วนในการกระตุ้นสนับสนุน เช่น ช็อปช่วยชาติ …. KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 19,467 ล้านบาท (+17% YoY) และปี 2018 ที่ 22,388 ล้านบาท (+15% YoY) โดยเราคาดว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างต่ำปีละ 700 สาขา และจะสามารถถึงเป้าหมาย 13,000 สาขาได้ในปี 2021 .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 84.00 บาท)
HANA(ราคาปิด 48.75) เราคาดว่า HANA ที่เป็นหุ้นในกลุ่มส่งออกจะได้ผลบวกจากการคาดการณ์ส่งออกไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้สูงกว่าเป้า อีกทั้งแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯสามารถผ่านมติได้ .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 2,637 ล้านบาท (+30% YoY) และปี 2018 ที่ 2,661 ล้านบาท (+1% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.50 บาท)
THANI(ราคาปิด 9.70) เรามองว่ามาตรการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะมีมากขึ้นและการขยายตัวด้านธุรกิจขนส่งในอนาคตจะช่วยส่งผลบวกให้ยอดสินเชื่อรถบรรทุก.ซึ่ง THANI มีสัดส่วนรายได้สูงที่ 70% ได้รับผลบวก .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 1,119 ล้านบาท (+27% YoY) และปี 2018 ที่ 1,401 ล้านบาท (+24% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 11.00 บาท)
SEAFCO*(ราคาปิด 8.95) เราคาดว่าช่วงท้ายปีจะมีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานและ SEAFCO เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวและมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ .... backlog ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3,014 ล้านบาท รองรับรายได้กว่า 2 ปี ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมากสำหรับหุ้นกลุ่มงานฐานราก .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 207 ล้านบาท (+32% YoY) และปี 2018 ที่ 272 ล้านบาท (+32% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 9.60 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3532
(+) ครม.เสนอมาตรการพยุงราคายาง, อนุมัติรถไฟทางคู่ ครม. วานนี้ไม่มีการอนุมัติมาตรการที่มีนัยสำคัญต่อตลาด อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า คาดจะมีมาตรการช่วยพยุงราคายางพาราที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ไม่ให้เกษตรกรขาดทุน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ และ รมว.คมนาคม คาดว่าจะเสนอโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางซึ่งแบ่ง 13 สัญญา ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะลงนามในสัญญากับผู้รับเหมา 9 สัญญาได้ภายในเดือนธ.ค.นี้
(+) ความสัมพันธ์ไทย-อียู - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การที่คณะมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) มีมติฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศไทยในทุกระดับ (โพสต์ทูเดย์, 13/12/2017)
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ BM, PJW, PLANB, TM, UBIS, AMANAH, A, ETE, KIAT, GCAP, SIS, ANAN, RJH, NWR. PORT
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
นักลงทุนต่างประเทศ ยังขายหุ้นต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน กองทุนฯในประเทศเป็นฝ่ายซื้อส่งท้าย จากเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF ตลาดหุ้นจึงค่อยๆเดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังมีความผันผวนจากแรงซื้อ-ขายของนักลงทุนสองกลุ่มนี้ในแต่ละวัน .... เรามองว่า หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซื้อของกองทุนฯ จะไปอยู่ที่หุ้นขนาดใหญ่ มี upside ในแต่ละกลุ่ม เช้า BBL , PTT, CPALL แต่หุ้นที่กลาง-เล็ก อาจมีแรงเข้ามาเก็งกำไรลดลง ทั้งจากเม็ดเงินที่ไหลไปหาหุ้นใหญ่ และข่าวที่ว่า บลจ.) กสิกรไทยฯ และบลจ.กรุงศรี ประกาศปิดรับคำสั่งซื้อและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้ากองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กในไทยชั่วคราว
วันนี้ จับตาการแถลงนโยบายด้านการท่องเที่ยวของ ดร.สมคิด ที่เข้ารับหน้าที่ดูแลการท่องเที่ยว ที่เราคาดหวังว่า จะกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หลัง มาตรการลดหย่อนภาษี 15000 ใช้ปีหน้า ออกมาเป็นลำดับแรก หุ้นที่เป็น top pick สำหรับการท่องเที่ยวของเรา คือ AOT และ ERW
เก็งงบ 4Q เราสนใจหุ้นสองกลุ่มหลัก คือ ธนาคาร โดยหุ้นที่เราประเมินว่ากำไรจะออกมาดีทั้ง YoY และ QoQ ได้แก่ TCAP, TMB, BBL และหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี แต่เลือกใน segment ของ โรงกลั่นน้ำมัน ที่ค่าการกลับยังอยู่ในระดับสูง $6-7 เหรียญ และได้ประโยชน์จากกำไร stock น้ำมัน ตัวหลักๆ คือ TOP และ spread ของ ปิโตรเคมี ที่ยังดีหุ้น PTTGC ได้อานิสงค์จาก ราคา Ethylene และ HDPE ที่ปรับตัวขึ้น
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จากนี้จะไปพูดถึงของปีหน้า ที่เป็น highlight จะไปเป็นบวกต่อหุ้นสองกลุ่ม คือ ลงทุนเอกชน (WHA, THANI , TCAP) , หุ้นที่มีฐานรายได้ในเชตภูมิภาค (SINGER , TK, THANI ) และหุ้นอิงราคาสินค้าเกษตรจากความเข้าพยุงราคาไว้ (STA, LST)
หอการค้า เปิด 10 ธุรกิจดาวเด่น ธุรกิจไอทีสื่อสาร อุปกรณ์อินเทอร์เน็ต ขึ้นแท่นล้มแชมป์การแพทย์และความงาม เปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัลเต็มตัว เผย 10 ธุรกิจร่วง มีสิทธิหลุดวงจรตลาด นิตยสาร สิ่งพิมพ์ ผลิต DVD/CD เคเบิลทีวี โทรศัพท์บ้าน ส่วนหัตถกรรมและสินค้าเกษตร ต้องมีดีไซน์ มุ่งเกษตรอินทรีย์ จึงรอด ขณะที่ข่าว อุตสาหกรรมโฆษณา ปี 2561 แนวโน้มฟื้น "กรุ๊ปเอ็ม" ประเมินมูลค่ากลับมาแตะ 1 แสนล้าน โต 10% หลังชะลอตัว 2ปีซ้อน เม็ดเงิน "ดิจิทัล- สื่อนอกบ้าน" โตสูง "กันตาร์"ชี้เทรนด์ ชอปปิงออนไลน์กลุ่มอุปโภคบริโภคยอดพุ่ง ....... เรามองว่า การที่ผู้บริโภคเปลี่ยนความสนใจมาที่สื่อใหม่ๆ เช่น ดิจิตอล หรือ outdoor มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเดิม เช่น นสพ.และนิตยสาร มีรายได้ที่ลดลง ขณะที่สื่อที่เป็น new media อย่างเช่น สื่อดิจิตอล (ในตลาดหุ้นยังไม่มีใครทำอย่างจริงจัง) และสื่อ outdoor จะขยายตัวดี บวกต่อ PLANB , VGI, MACO
ครม.รับทราบมาตรการแก้ไขราคายางพาราตกต่ำ 3 มาตรการ "กฤษฎา" หวังราคาไม่ต่ำกว่าทุน เตรียมชงเข้ากนย.พิจารณาก่อนเสนอเข้าครม.สัปดาห์หน้า เล็งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในหน่วยราชการ ดันสินเชื่อ 3%หนุนชะลอส่งออก คาดทั้งปีดูดซับยางกว่า 3.5 แสนตัน ชะลอกรีดยาง ม.ค. - มี.ค. และไฟเขียวเพิ่มวงเงิน 1.6 พันล้านหนุนเกษตรกรลดปลูกข้าวนาปรังอีก 9 แสนไร่ ..... ด้านปาล์มน้ำมัน คาดว่าจะมีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน โดยจะเพิ่มเป้าหมายการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบจากปัจจุบันส่งออกประมาณเดือนละ 6 หมื่นตัน เพิ่มเป็น 1 แสนตัน ..... เรามองว่า การเข้ามาดูแลราคาสินค้าเกษตรทั้ง 3 ตัว หากทำได้จริง จะทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรสูงขึ้น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าเหล่านี้ อาทิ STA, TRUBB, TNR, LST, CPI, PTG, UAC
บอร์ด "ขสมก." ประชุมวันนี้ เคาะผลประมูลจัดซื้อรถโดยสาร NGV 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท "ณัฐชาติ" เผย SCN-CHO ยืนยันราคาแล้ว สูงกว่าราคากลางไม่เกิน 10% หากบอร์ดไฟเขียวพร้อมเซ็นสัญญาภายใน ธ.ค.นี้ทันที
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BBL(ราคาปิด 206.00) เรายังคงชอบกลุ่มแบงก์ ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มที่จะสามารถเคลื่อนไหวไปตามสภาวะตลาด โดยเรามองว่า BBL จะได้รับผลบวกจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น …. นอกจากนี้เรายังมองว่าภาพรวมสินเชื่อใน 4Q17 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงของการเบิกจ่ายของสินเชื่อรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการภาครัฐ …. KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 33,140 ล้านบาท (+4% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 36,743 ล้านบาท (+11% YoY) นอกจากนี้ BBL ยังได้ผลบวกจากการเป็นพันธมิตรกับ AIA ขายประกันผ่าน 1,200 สาขา ซึ่งจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์แรกในช่วงกลางปี 2018 …. (ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 222.00 บาท)
CPALL(ราคาปิด 75.00) CPALL เป็นหุ้นที่น่าสนใจทั้งจากคาดการณ์ยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และได้รับผลบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น .... เราคาดว่า CPALL จะสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่องในช่วง 4Q17 จากการที่ภาคบริโภคอยู่ในระดับสูงตามเทศกาล และมาตรการการจากภาครัฐมีส่วนในการกระตุ้นสนับสนุน เช่น ช็อปช่วยชาติ …. KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 19,467 ล้านบาท (+17% YoY) และปี 2018 ที่ 22,388 ล้านบาท (+15% YoY) โดยเราคาดว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างต่ำปีละ 700 สาขา และจะสามารถถึงเป้าหมาย 13,000 สาขาได้ในปี 2021 .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 84.00 บาท)
HANA(ราคาปิด 48.75) เราคาดว่า HANA ที่เป็นหุ้นในกลุ่มส่งออกจะได้ผลบวกจากการคาดการณ์ส่งออกไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้สูงกว่าเป้า อีกทั้งแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯสามารถผ่านมติได้ .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 2,637 ล้านบาท (+30% YoY) และปี 2018 ที่ 2,661 ล้านบาท (+1% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.50 บาท)
THANI(ราคาปิด 9.70) เรามองว่ามาตรการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะมีมากขึ้นและการขยายตัวด้านธุรกิจขนส่งในอนาคตจะช่วยส่งผลบวกให้ยอดสินเชื่อรถบรรทุก.ซึ่ง THANI มีสัดส่วนรายได้สูงที่ 70% ได้รับผลบวก .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 1,119 ล้านบาท (+27% YoY) และปี 2018 ที่ 1,401 ล้านบาท (+24% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 11.00 บาท)
SEAFCO*(ราคาปิด 8.95) เราคาดว่าช่วงท้ายปีจะมีการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานและ SEAFCO เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวและมีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ .... backlog ปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3,014 ล้านบาท รองรับรายได้กว่า 2 ปี ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมากสำหรับหุ้นกลุ่มงานฐานราก .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 207 ล้านบาท (+32% YoY) และปี 2018 ที่ 272 ล้านบาท (+32% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 9.60 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3532