- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 August 2014 16:22
- Hits: 2722
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1560 จุดซื้อ – ต่ำกว่าขายต่อ
SET ปรับตัวลดลงวานนี้ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค กอปรกับราคาน้ำมันทรงตัวลงลงต่ำกว่า US$103 แต่ราคาทองคำสปอตปรับตัวขึ้น และค่าเงิน US$ แข็งค่า อาจถึงทุนไหลออกจากตลาดทุน SET ปิดที่ 1559.05 จุด (-5.53 จุด, -0.35%), SETHD ลดลงมากสุด (-0.93%) แต่ MAI หรือหุ้นขนาดเล็กขึ้นสวนทางตลาด (+1.2%) มูลค่าซื้อขายทรงตัวที่ 44,240 ล้านบาท ต่างชาติและกองทุนสลับขายสุทธิ 127 ล้านบาท และ 295 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
อัตราการว่างงานฝรั่งเศสในเดือน ก.ค. เพิ่มสูงขึ้นจากเดือน มิ.ย. 0.8% หรือประมาณ 26,000 คน ทำให้จำนวนรวมผู้ว่างงานในประเทศขณะนี้สูงถึงเกือบ 3.5 ล้านคน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีเตรียมทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อคณะ รัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ในวันนี้ โดยจะตั้งรองนายกฯจำนวน 5 คน ซึ่งเป็นรองหัวหน้าคสช. 4 คนโดยยังไม่ได้มีการระบุบุคคลซึ่งจะทราบได้วันนี้
ฟิทช์ฯ รายงานธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยได้เพิ่มความสามารถในการรองรับความเสี่ยง (buffer) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทั้งในด้านของฐานะเงินกองทุนและระดับเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (reserve coverage) ซึ่งจะเพิ่มความสามารถรับมือกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับปรกติตามวัฏจักรเศรษฐกิจได้ แต่ยังมีแนวโน้มการเติบโตภายในประเทศที่ค่อนข้างจำกัดมากขึ้น เนื่องจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจการเงินต่างๆในระดับที่สูงมากแล้ว ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น BBL, SCB, KBANK, และ KTB ประสบความสำเร็จในการขยายเครือข่ายธุรกิจธนาคารแบบครบวงจร (universal bank franchises) ทั้งในด้านธุรกิจการบริหารจัดการกองทุน, ธุรกิจนาย หน้าซื้อขายหลักทรัพย์, วาณิชธนกิจ และธุรกิจประกันชีวิต และมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝากในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารพาณิชย์ทั้ง 4 แห่งมีขนาดของสินทรัพย์รวมกันประมาณ 59% ของสินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ
ตลาดปรับตัวลงด้วยแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มหลัก วันนี้เรายังเน้นไปในจังหวะขายทำกำไรสำหรับหุ้นรายตัวที่ปรับตัวสูง โดยมีกำหนดระดับความสำคัญที่ 1560 ซึ่งหากตลาดสามารถวกตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,560 จุดมีโอกาสที่จะเกิดแรงซื้อกลับและผลักดันตลาดขึ้นสั้นๆแนะนำซื้อหุ้นเก็งกำไร (เช่น TUF, DTAC, SVI และเล่นรีบาวด์ PTT) แต่ในกรณี SET ยังอยู่ที่ต่ำกว่า 1,560 จุด คาดว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาได้ต่อเนื่อง แนะนำขายหุ้น (เช่น STEC, BGH, ITD, PS) หรือรอดูการปรับฐานของราคา
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%
น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%
Accumulate : -- สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1560 จุด ต่ำกว่า รอจังหวะอ่อนตัว
เปรียบเทียบดัชนีกับ SET
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +13.3%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +13.9%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.2%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด