- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 December 2017 16:47
- Hits: 8534
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวันกลยุทธ์วันนี้
Selective Buy
Smart Pick
1. สะสม TCJ : ราคาปิด 10.80 บาท ราคาเหมาะสม 15.30 บาท
a) คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากบริษัทจะให้ข้อมูลในงาน Opportunity Day วันที่ 12 ธ.ค. และเชื่อว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เพิ่มขึ้นจากพัฒนาการเชิงบวกของบริษัทที่เห็นชัดเจนจากกำไร 9M60 ที่เติบโต +322% YoY เป็น 41 ล้านบาท
b) ทิศทางกำไร 4Q60 ทรงตัวในระดับสูงที่ 16-20 ล้านบาท และจะเห็นอานิสงค์จากการรับรู้รายได้งานภาครัฐฯอย่างชัดเจนตั้งแต่ 1Q61 เป็นต้นไป และต่อเนื่องไปอีก 3-5 ปีข้างหน้า
c) Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ PER2561 เพียง 11.7 เท่า และยังซื้อขายต่ำกว่า BV ที่ 14.5 บาท
2. สะสม TCMC : ราคาปิด 3.44 บาท ราคาเหมาะสม 5.90 บาท
a) Yuanta คาดว่าราคาหุ้นได้ผ่านพ้น Sentiment ลบเชิงจิตวิทยาแล้ว หลังลูกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 254.39 ล้านหุ้น ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 3.00 บาท ได้เข้าซื้อขายแล้วในวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 จะเติบโตสูง YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะเริ่มรวมงบการเงินของ Tai Ping เข้าสู่งบการเงินรวม
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 ที่จะรวมงบการเงินของ Tai Ping แบบเต็มปี นอกจากนั้น การใช้โรงงานผลิตร่วมกันจะส่งผลบวกให้เกิด Economy of Scale และผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2561 เติบโตสูงถึง +104% YoY เป็น 429 ล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ระดับ PER2561 เพียง 8.2 เท่า รวมทั้งให้ Dividend Yield 4% ต่อปี
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 8.98 จุด ปิดที่ 1703.37 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท ได้รับแรงหนุนจาก AOT +2.44%, IVL +3.98%, BJC +2.6% และ CBG +5.06% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันรวมกว่า 8.4 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องราว 902 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันรวมราว 7.6 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 8.9 พันสัญญา รวมกว่า 1.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 5 พันสัญญา รวมกว่า 7.7 พันสัญญา
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 8.98 จุด ปิดที่ 1703.37 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท ได้รับแรงหนุนจาก AOT +2.44%, IVL +3.98%, BJC +2.6% และ CBG +5.06% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันรวมกว่า 8.4 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องราว 902 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันรวมราว 7.6 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 8.9 พันสัญญา รวมกว่า 1.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 5 พันสัญญา รวมกว่า 7.7 พันสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
เข้าสู่วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนหยุดยาว ประเมินทิศทาง SET INDEX แกว่งทรงตัวในกรอบ 1695-1710 จุด แนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1685-1690 จุดทำงานได้ดี ขณะที่แรงซื้อจากกลุ่มสถาบันในประเทศ ช่วยประคับประคอง SET INDEX ในสัปดาห์นี้เช่นกัน ด้วยการซื้อสุทธิ 4 วันติดต่อกันรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท แม้ว่า ต่างชาติจะขายสุทธิออกมา 6 วันติดต่อกัน แต่ SET INDEX ยังสามารถทรงตัวอยู่ได้
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบมาตรการชั่วคราว เพื่อให้รัฐบาลสามารถเบิกใช้งบประมาณรายจ่ายได้ถึงวันที่ 22 ธ.ค. อีกนัยหนึ่ง คือ การแก้ปัญหาเพดานหนี้ชั่วคราว ราว 2 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาในการเจรจาหาข้อตกลงในระยะยาวอีกครั้ง
ค่ำคืนนี้ ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานเดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.95 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวจาก 2.61 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า และอัตราการว่างงาน ตลาดคาดทรงตัว 4.1% เท่ากับเดือนก่อน หากไม่ได้ออกมาผิดจากตลาดคาดอย่างมีนัยยะสำคัญ เราเชื่อว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุมสัปดาห์หน้า (12-13 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่ราคาพักตัวลงมา แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง
เข้าสู่วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนหยุดยาว ประเมินทิศทาง SET INDEX แกว่งทรงตัวในกรอบ 1695-1710 จุด แนวรับทางเทคนิคบริเวณ 1685-1690 จุดทำงานได้ดี ขณะที่แรงซื้อจากกลุ่มสถาบันในประเทศ ช่วยประคับประคอง SET INDEX ในสัปดาห์นี้เช่นกัน ด้วยการซื้อสุทธิ 4 วันติดต่อกันรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท แม้ว่า ต่างชาติจะขายสุทธิออกมา 6 วันติดต่อกัน แต่ SET INDEX ยังสามารถทรงตัวอยู่ได้
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบมาตรการชั่วคราว เพื่อให้รัฐบาลสามารถเบิกใช้งบประมาณรายจ่ายได้ถึงวันที่ 22 ธ.ค. อีกนัยหนึ่ง คือ การแก้ปัญหาเพดานหนี้ชั่วคราว ราว 2 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาในการเจรจาหาข้อตกลงในระยะยาวอีกครั้ง
ค่ำคืนนี้ ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานเดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.95 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวจาก 2.61 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า และอัตราการว่างงาน ตลาดคาดทรงตัว 4.1% เท่ากับเดือนก่อน หากไม่ได้ออกมาผิดจากตลาดคาดอย่างมีนัยยะสำคัญ เราเชื่อว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุมสัปดาห์หน้า (12-13 ธ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่ราคาพักตัวลงมา แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สภาผู้แทนสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 22 ธ.ค. จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค.
การสรรหากรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายชื่อครบทั้ง 7 ท่านแล้ว โดยในขั้นตอนต่อไปคือ สนช. จะพิจารณา และหารือถึงโรดแมพการเลือกตั้ง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือน พ.ย. ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 78 จุด นับเป็นการขยายตัวเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 33 เดือน
ติดตามการรายงานการส่งออกจีน คาดส่งออกขยายตัว 5% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.9% YoY และการรายงานตลาดแรงงานสหรัฐฯ วันที่ 8 ธ.ค.
สภาผู้แทนสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 22 ธ.ค. จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค.
การสรรหากรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายชื่อครบทั้ง 7 ท่านแล้ว โดยในขั้นตอนต่อไปคือ สนช. จะพิจารณา และหารือถึงโรดแมพการเลือกตั้ง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เดือน พ.ย. ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 78 จุด นับเป็นการขยายตัวเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 33 เดือน
ติดตามการรายงานการส่งออกจีน คาดส่งออกขยายตัว 5% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.9% YoY และการรายงานตลาดแรงงานสหรัฐฯ วันที่ 8 ธ.ค.
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการประชุม Fed ในวันที่ 12-13 ธ.ค. ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 25 bps
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯวันที่ 13 ธ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.2% YoY
ติดตามการประชุม ECB และ BOE ในวันที่ 14 ธ.ค.
ติดตามการประชุม Fed ในวันที่ 12-13 ธ.ค. ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 25 bps
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯวันที่ 13 ธ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 2.2% YoY
ติดตามการประชุม ECB และ BOE ในวันที่ 14 ธ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO3304
