- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 August 2014 15:51
- Hits: 1788
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับฐาน 5.53 จุด ปิดที่ 1,559.05 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 44,240 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติกลับมาลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพียง 127 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4,642 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ แต่คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 800 ล้านบาท
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET ประเมิน SET INDEX แกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,550 – 1,565 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม SET INDEX อาจฟื้นตัวยืนเหนือ 1,560 จุดได้ หากเม็ดเงินใหม่จาก Trigger Funds ของ UOBAM วงเงิน 1.0 พันล้านบาท ที่ปิดขายวานนี้ เริ่มเข้าลงทุนในวันนี้
ปัจจัยสำคัญในวันนี้ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค. ธปท.จะรายงานในช่วงบ่ายวันนี้ MBKET เชื่อว่าการใช้จ่ายภาคเอกชน, รัฐบาล รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ติดตามการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี เพื่อขึ้นทูลเกล้า รวมถึงการประชุม ECB ในวันที่ 4 ก.ย.ที่อาจส่งสัญญาณพร้อมเพิ่มมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในอียูได้เช่นกัน นอกเหนือไปจากการคาดหวังเชิงบวกที่จะเห็นเม็ดเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย หลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus ในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “ถือพอร์ตส่วนที่เหลือ พร้อมสะสมหุ้นเป้าหมายที่เกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” TTA
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC
HOLD: SPALI/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK
Speculative buy: TTA
Action and Stock of the Day
SET INDEX ปิดต่ำกว่า 1,560 จุดเล็กน้อย
SET INDEX วันนี้ แกว่งกรอบแคบ แต่อาจปิดยืนเหนือ 1,560 จุด หากเงินทุนใหม่จาก Trigger Funds เริ่มลงทุน
ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค. บ่ายวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำนวนนักท่องเที่ยว
ดังนั้นกลยุทธ์ ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายที่ราคาหุ้นอาจเกิดย่อระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ปิดลบเป็นส่วนใหญ่ นำโดย PSE -0.83% เนื่องจากเป็นตลาดที่ซื้อขาย PER14 สูงสุดในเอเชีย
สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX ปรับฐานลงหลุดแนว 1,560 จุด ลงไปทดสอบ 1,550 จุด ก่อนเกิด Technical Rebound ในบริเวณดังกล่าว โดยแรงขายจาก PTT / PTTGC ด้วยความกังวลต่อกรณีท่อก๊าซ และ การกำหนดราคาก๊าซ LPG ที่อยู่ระหว่างการหารือแนวทางการปฎิรูปราคาพลังงาน ขณะที่หุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / ICT ทรงตัวได้ดี เช่น BBL / KBANK / ADVANC / TRUE เป็นต้น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,559.05 จุด ลบ 5.53 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 44,240 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดลบมากที่สุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่มกระดาษ -3.60%, กลุ่ม Profressional +1.79% และกลุ่มพลังงาน -1.18% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร -0.56%, กลุ่มอสังหาฯ -0.0% และ กลุ่ม ICT -0.16%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.25 น.) เช้านี้ Nikkei – Kospi เปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากญี่ปุ่นรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าคาด และ DJIA คืนวานนี้ปรับฐานลงเล็กน้อย
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” เป็นวันที่ 12 แม้ว่าวานนี้ SET INDEX จะเกิดการปรับฐานลงทดสอบแนวรับ 1,550 จุด ก่อนที่จะเกิด Technical Rebound กลับขึ้นมาปิดใกล้ระดับ 1,560 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง และการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ SET INDEX จึงมีแนวโน้มแกว่งออกด้านข้างอีกวัน ระหว่าง 1,550-1,565 จุด แต่ SET INDEX ก็ยังมีโอกาสที่จะปิดยืนเหนือ 1,560 จุดได้อีกครั้ง หาก
•เงินทุนใหม่จากกองทุน Trigger Funds ของ UOBAM ที่ปิดการขายวานนี้ วงเงิน 1.0 พันล้านบาท อาจเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ เป็นอย่างเร็ว หรือ ต้นสัปดาห์หน้า เป็นอย่างช้า
•เงินทุนต่างชาติ เริ่มทยอยสะสมหุ้นไทยที่น่าสนใจ หลังผ่านงาน Thailand Focus มาถึง 2 วัน อาจมีประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจบางส่วนและเริ่มทยอยลงทุน ก็มีความเป็นไปได้
และ MBKET คงมุมมองต่อ SET INDEX สัปดาห์หน้า มีโอกาสที่จะไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,580-1,600 จุด จากเม็ดเงินใหม่ของทั้งกองทุน Trigger funds และ เงินทุนต่างชาติ หลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus ในวันนี้
นอกจากนี้พัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานการลงทุนที่สำคัญ ต่อการผลักดัน SET INDEX ในระยะกลาง ได้แก่
•พัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศจากนี้ไป
oกรอบเวลาจากนี้ไป
วันที่ 25 ส.ค. โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันนี้ นายกฯ พล.เอก ประยุทธ์ อาจนำเสนอชื่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อขึ้นทูลเกล้าฯ หรือ ต้นสัปดาห์หน้า เป็นอย่างช้า
ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.ย. ครม.จะเข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ และเปิดประชุม ครม. นัดแรกได้ในกลางเดือนก.ย. พร้อมแถลงนโยบายการบริหารประเทศต่อ สนช. ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
กรอบเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับ กรอบเวลาที่ คสช. เคยชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทันต่อการเริ่มใช้งบประมาณประจำปี 2558 ในวันที่ 1 ต.ค. 2557
oร่างงบประมาณปี 2558 ได้ผ่านวาระที่ 1 วานนี้ ขั้นตอนถัดไปตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณา และนำเสนอต่อสนช. เพื่อพิจารณาวาระที่ 2-3 ตามลำดับ วันที่ 17-18 ก.ย. คาดว่าจะสามารถนำงบประมาณปี 2558 ใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้
oการยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งกองทุนบางประเภทถูกจำกัดการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นๆ คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.ย.
oแผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ต้องสรุปรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหล่งที่มาของเงินทุนที่ใช้สนับสนุนแผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อ คสช. คาดว่าจะมีการสรุปแผนในวันนี้
•มุมมองต่อเศรษฐกิจในปีนี้ และ ปีหน้า: ธปท. และ คสช. คาดเศรษฐกิจปีนี้ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q57 และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญใน 2H57 โดยประเมิน GDP ในปีนี้คาดเติบโต 1.5-2.0% ส่วนปีหน้า การเร่งการใช้จ่ายของรัฐบาล และการเรียกความเชื่อมั่น คาดเศรษฐกิจจะเติบโต 3.5-4.5% ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่น่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติได้ไม่น้อยเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุนถือพอร์ตการลงทุนส่วนที่เหลือ พร้อมทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หาก ราคาหุ้นเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย หุ้นหลักที่จะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณปี 2558 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร (KTB/BBL), กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TPIPL), กลุ่มงานวางระบบไอที (SAMTEL / AIT) รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก (AAV/ AOT)
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ติดตามการแต่งตั้งครม.ประยุทธ์ 1 คาดสัปดาห์หน้าอาจได้ข้อสรุป: กรอบเวลาที่ นายกรัฐมนตรี พล.เอก ประยุทธ์ กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ต่อการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีจะเกิดขึ้นภายในเดือนก.ย. แต่หากประเมินเงื่อนไขเวลาของการแต่งตั้ง คาดว่า
•รายชื่อ ครม. พล.เอก ประยุทธ์ 1 อาจเห็นการเสนอชื่อเพื่อทูลเกล้าฯ ในวันพรุ่งนี้ หรือ ต้นสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า
•คาดสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.ย. ครม. ภายใต้การนำของ พล.เอก ประยุทธ์ เข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ และเปิดประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนัดแรกได้ไม่เกิน กลางเดือนก.ย.
•คาดกลางเดือนก.ย. นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายการบริหารประเทศ ต่อ สนช.
•วันที่ 17-18 ก.ย. สนช. พิจารณาร่างงบประมาณปี 2558 วาระ 2-3
•การพิจารณายกเลิก กฎอัยการศึก คาดว่าจะเป็นในช่วงครึ่งหลังของเดือนก.ย.
2.ผลการปรับดัชนี MSCI รอบนี้ ณ ราคาปิดวันนี้: สำหรับ MSCI Thailand พบว่า
•เพิ่ม: ไม่มี
•ออก: GJS, GSTEL
ทั้งนี้มีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 29 ส.ค.
3.ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของไทยวันนี้: ธปท. รายงานในช่วงบ่ายวันนี้ MBKET คาดว่า ตัวเลขความเชื่อมั่นภาคเอกชน จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากเดือนมิ.ย. แม้ว่าผลบวกต่อการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีน และ ไต้หวัน เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. จะยังไม่เห็นผลก็ตาม
4.รวมถึงรายละเอียดโครงการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท วันนี้: คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ จะสรุปรายละเอียดเพิ่มเติมต่อแหล่งที่มาของเงินทุนที่จะนำไปสนับสนุน แผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อ คสช. เพื่อพิจารณาต่อไป
5.ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า มีความเด่นทั้งในและต่างประเทศ
•ติดตามการเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี เพื่อทูลเกล้าฯ
•การประชุมธนาคารกลางที่สำคัญ วันที่ 4 ก.ย.
i.ECB: ตลาดคาดการณ์ ECB อาจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง
ii.BoE: นักลงทุนควรติดตาม ความเห็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE หลังเริ่มมีกรรมการบางท่าน เสนอให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุมครั้งก่อน
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 15.75 13.60 15.87 13.70
PSE 20.03 17.31 20.19 17.46
JSE 16.81 14.32 16.75 14.27
KOSPI 10.53 9.17 10.61 9.63
TAIEX 15.47 14.34 15.31 14.22
Straits Time 14.70 13.53 14.75 13.58
SHCOMP 8.70 7.70 8.74 7.74
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.TTA : ราคาปิด 22.20 บาท ราคาเหมาะสม 31.00 บาท
a)ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวกจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI ที่เพิ่มขึ้น 56 จุด เป็น 1,119 จุดวานนี้ และคาดว่า BDI จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจตั้งแต่ปลาย 3Q ถึง 4Q
b)คาดผลประกอบการ 4Q56/57 (ก.ค. – ก.ย. 57) จะเร่งตัวขึ้น qoq จาก 3Q56/57 ที่มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท จากการปรับตัวขึ้นของรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ เรือเทกอง, เรือขุดเจาะ และปุ๋ย โดย PMTA
c)และส่งผลให้ผลประกอบการปี 56/57 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 988 ล้านบาท จากปี 55/56 ที่ขาดทุนสุทธิ 5,080 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิปี 57/58 จะเพิ่มขึ้น +120.4% yoy เป็น 2,178 ล้านบาท จาก Demand – Supply ของธุรกิจเรือเทกองที่มีความสมดุลมากขึ้นในปีหน้า และส่งผลให้ค่าระวางเรือเฉลี่ยปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องในปีหน้า
d)มี Catalyst รออยู่ คือการนำ PMTA เข้าจดทะเบียนในตลท. โดยคาดว่ากลต.จะอนุมัติได้ภายในเดือน ต.ค. และ TTA มีแผนจะให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีสิทธิ์ในการจองซื้อหุ้น IPO ของ PMTA ในลักษณะ Preemptive Right
e)แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 31.00 บาท และให้เป็น Top pick ของกลุ่มเรือเทกอง
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ รายได้ – รายจ่ายส่วนบุคคล, ดัชนี Consumer sentiment
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิ US$158 ล้าน ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$461 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 129.7 393.5 12,833.5 9,188.0
KOSPI n.a 10.3 8,479.5 4,875.1
JSE 17.0 22.9 4,907.0 -1,806.4
PSE 15.8 27.3 1,169.0 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม -0.7 -6.3 220.1 263.2
SET INDEX -4.0 13.1 -744.1 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติเริ่มปิดความเสี่ยงบางส่วน
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) -127 +419
SET50 Index Futures (สัญญา) -4,642 +6,822
SSF (สัญญา) +364 +666
Metal Futures (สัญญา) +1,287 -75
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +800 +288
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่ก็เพียง 127 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 561 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 24,931 ล้านบาท
ด้านนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการเช่นกัน จำนวน 4,642 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,681 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 4.90 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 3.21 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 12 วันทำการ 1,287 สัญญา เทียบกับ 11 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 5,518 สัญญา คาดเป็นการเริ่มปิดสถานะ Short ใน Metal Futures เป็นครั้งแรกในรอบ 12 วันทำการ เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกเริ่มแกว่งในกรอบแคบ และทรงตัวบริเวณ US$1,280/ounce ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มทยอยปิดสถานะ Short เพื่อรับรู้กำไร
ด้านตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 800 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 5,795 ล้านบาท คาดเป็นการเข้าซื้อในพันธบัตรระยะยาว อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลง 0.48bps ปิดที่ 3.575%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 527 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 742 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
PTT 98.11 4.45% 323.91
TRUE 82.23 7.21% 10.69
BBL 66.06 4.82% 207.21
BGH 29.03 3.75% 19.35
AOT 26.92 4.09% 233.71
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่มธนาคาร และ พลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 636 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 1,015 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน พร้อมกันอีกครั้ง สรุปภาพการลงทุนได้ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 263 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,035 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 241 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 143 ล้านบาท และกลุ่มไฟแนนซ์ ซื้อสุทธิ 52 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 82 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 64 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 142 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
BBL 273.33 40.14 KTB -161.38 21.30
PTT 190.73 10.95 PTTGC -73.21 8.62
TRUE 102.70 11.32 INTUCH -57.55 13.68
ADVANC 73.46 16.29 AOT -39.90 8.42
KBANK 69.53 19.95 BLA -38.58 25.87
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong