- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 December 2017 16:37
- Hits: 1186
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงขายระหว่างวันกดดันดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1690 โดยมีแรงกดดันหลักในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS), อสังหาฯ (CPN, SIRI, QH) และ FOOD (CBG, M) แต่อย่างไรก็ดีแรงซื้อในกลุ่ม PETRO (IVL), ENERG (PTT, TOP), ICT (ADVANC, DTAC) ยังคงช่วยหนุน SET สามารถกลับมาปิดยืนเหนือ 1690 ได้อีกครั้ง โดยปิดที่ 1,694 จุด (-3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นลบ.(คิดรวมมูลค่าการซื้อขายของ IPO GULF 1.3 หมื่นลบ.) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 3,325 ล้านบาท แต่พลิกกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 9,411 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงขายระหว่างวันกดดันดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1690 โดยมีแรงกดดันหลักในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS), อสังหาฯ (CPN, SIRI, QH) และ FOOD (CBG, M) แต่อย่างไรก็ดีแรงซื้อในกลุ่ม PETRO (IVL), ENERG (PTT, TOP), ICT (ADVANC, DTAC) ยังคงช่วยหนุน SET สามารถกลับมาปิดยืนเหนือ 1690 ได้อีกครั้ง โดยปิดที่ 1,694 จุด (-3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นลบ.(คิดรวมมูลค่าการซื้อขายของ IPO GULF 1.3 หมื่นลบ.) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 3,325 ล้านบาท แต่พลิกกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 9,411 สัญญา
Investment theme
แรงซื้อหุ้น Big cap. ยังพยุง SET ปิดเหนือ 1690 แนวโน้มการลงทุนระยะสั้น SET ยังคงแกว่งตัว Sideway โดยเรายังคงประเมินแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1690 จุด เป็นจุดที่ SET มีโอกาสดีดกลับ ซึ่งวานนี้หุ้น Big Caps. ในกลุ่มหลัก โดยเฉพาะ กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และ ธนาคารพาณิชย์ ช่วยพยุง SET ปิดกลับมายืนเหนือ 1690 ได้ค่อนข้างดี โดยสำหรับปัจจัยในประเทศที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดในช่วงถัดไป คงต้องจับตาเม็ดเงินจาก LTF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี รวมถึง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือน พย. จะสามารถเร่งตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันได้หรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขออกมาดี จะถือเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของภาคบริโภค ส่งผลดีต่อแรงเก็งกลุ่มค้าปลีกเพิ่มเติม หลังจากมีแรงขายออกมาจากการสิ้นสุดมาตรการช๊อปช่วยชาติ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ที่ต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน (คืนวันที่ 8 ธค.) ซึ่งอาจเป็นแรงกระตุ้นการเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติมหากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดียังคงต้องจับตาประเด็นการเมืองสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเด็นที่มีผู้กล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการเลือกตั้งจากรัสเซีย
Investment theme: คาด SET แกว่งในกรอบ 1,680-1,720 โดยกลยุทธ์ระยะสั้นเน้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนะกลุ่ม Logistic (PSL, WICE, PORT) รวมถึงทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL) และกลุ่มอสังหา (LPN, AP) แต่ในกรณีที่ SET หลุด 1680 จุด แนะนำลดน้ำหนักการลงทุน
แรงซื้อหุ้น Big cap. ยังพยุง SET ปิดเหนือ 1690 แนวโน้มการลงทุนระยะสั้น SET ยังคงแกว่งตัว Sideway โดยเรายังคงประเมินแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1690 จุด เป็นจุดที่ SET มีโอกาสดีดกลับ ซึ่งวานนี้หุ้น Big Caps. ในกลุ่มหลัก โดยเฉพาะ กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และ ธนาคารพาณิชย์ ช่วยพยุง SET ปิดกลับมายืนเหนือ 1690 ได้ค่อนข้างดี โดยสำหรับปัจจัยในประเทศที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดในช่วงถัดไป คงต้องจับตาเม็ดเงินจาก LTF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี รวมถึง ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประจำเดือน พย. จะสามารถเร่งตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันได้หรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขออกมาดี จะถือเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของภาคบริโภค ส่งผลดีต่อแรงเก็งกลุ่มค้าปลีกเพิ่มเติม หลังจากมีแรงขายออกมาจากการสิ้นสุดมาตรการช๊อปช่วยชาติ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ที่ต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน (คืนวันที่ 8 ธค.) ซึ่งอาจเป็นแรงกระตุ้นการเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติมหากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดียังคงต้องจับตาประเด็นการเมืองสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเด็นที่มีผู้กล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการเลือกตั้งจากรัสเซีย
Investment theme: คาด SET แกว่งในกรอบ 1,680-1,720 โดยกลยุทธ์ระยะสั้นเน้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนะกลุ่ม Logistic (PSL, WICE, PORT) รวมถึงทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL) และกลุ่มอสังหา (LPN, AP) แต่ในกรณีที่ SET หลุด 1680 จุด แนะนำลดน้ำหนักการลงทุน
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา การจ้างงาน US ภาคเอกชนจาก ADP เพิ่มขึ้น 1.9 แสนตำแหน่ง จากคาด แต่ต่ำกว่าเดือน ตค.ที่ 2.35 แสน / Brent ปรับตัวลงสู่ 61.22 (-2.6%) จากสต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 6.7 ล้าน มากกว่าที่คาดเพียง +1.9 ล้าน / BDI ปรับขึ้นอีก 4 จุด เป็น 1,670 บวก 14 วันติดต่อกัน
CPN (BUY, TP89) เติบโตโดดเด่นตามแผน
AH (HOLD, TP35) แนวโน้มจะเติบโต แต่หุ้นขึ้นรับแล้ว
THG (IPO) : 10 เรื่องต้องรู้
เมื่อคืนที่ผ่านมา การจ้างงาน US ภาคเอกชนจาก ADP เพิ่มขึ้น 1.9 แสนตำแหน่ง จากคาด แต่ต่ำกว่าเดือน ตค.ที่ 2.35 แสน / Brent ปรับตัวลงสู่ 61.22 (-2.6%) จากสต๊อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 6.7 ล้าน มากกว่าที่คาดเพียง +1.9 ล้าน / BDI ปรับขึ้นอีก 4 จุด เป็น 1,670 บวก 14 วันติดต่อกัน
CPN (BUY, TP89) เติบโตโดดเด่นตามแผน
AH (HOLD, TP35) แนวโน้มจะเติบโต แต่หุ้นขึ้นรับแล้ว
THG (IPO) : 10 เรื่องต้องรู้
Stock pick : CPN
CPN : ซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 89.00 บาท
ศูนย์การค้าใหม่ (โคราช, มหาชัย) ที่เพิ่งเปิดในเดือน พ.ย. มีอัตราการเช่า 80-85% และคาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การเปิดจองคอนโดได้รับการตอบรับดี (เชียงรายและเชียงใหม่)
การให้ CPNREIT เช่าศูนย์การค้าพัทยาบีช และโรงแรมฮิลตัน พัทยา เสร็จสิ้นตามแผน ซึ่งคาดจะส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงและ CPN อาจจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
Trading idea – เก็งกำไร KCE ราคาทองแดงโลกลดลงกว่า -4.1% / BJC @ 68.0 บาท / ทยอยสะสม WICE @ 6.10 และ PSL @ 13.70
CPN : ซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 89.00 บาท
ศูนย์การค้าใหม่ (โคราช, มหาชัย) ที่เพิ่งเปิดในเดือน พ.ย. มีอัตราการเช่า 80-85% และคาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การเปิดจองคอนโดได้รับการตอบรับดี (เชียงรายและเชียงใหม่)
การให้ CPNREIT เช่าศูนย์การค้าพัทยาบีช และโรงแรมฮิลตัน พัทยา เสร็จสิ้นตามแผน ซึ่งคาดจะส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงและ CPN อาจจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
Trading idea – เก็งกำไร KCE ราคาทองแดงโลกลดลงกว่า -4.1% / BJC @ 68.0 บาท / ทยอยสะสม WICE @ 6.10 และ PSL @ 13.70
Technical View
Hammer หางยาวที่แนวรับกรอบสามเหลี่ยม : ดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับกรอบสามเหลี่ยม Symmetry Triangle ซึ่งที่แนวรับมีแรงซื้อกลับได้ทันที และยังคงสามารถปิดยืนเหนือแนวรับ 1690 ส่งผลให้เกิดแท่งเทียนแบบ Hammer หางยาว ระยะสั้นมองว่ามีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ มองแนวต้านที่ 1700, 1706 หากยืนเหนืแนวต้านดังกล่าวได้ มองว่าระยะสั้น Sentiment เชิงบวกจะมีมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) หากดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1688-1690 มองเป็นโอกาสเล่น Rebound
แนวรับ : 1690, 1686 แนวต้าน : 1700, 1706
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) หากดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1688-1690 มองเป็นโอกาสเล่น Rebound
แนวรับ : 1690, 1686 แนวต้าน : 1700, 1706
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 ธค. ติดตามการรายงานดัชนีการจ้างงานนอกภาคเกษตร / จับตาปัญหาการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐและจีน
ปัจจัยในประเทศ : วันนี้ THG เข้าเทรดป็นวันแรก / 7 ธค. จับตาดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือน พย / เตรียมชง ครม. อุ้มคนจนเฟส2หุ้นเทคนิค:
IVL (B 49.50, Tp 52.00//54.00, Cut 48.75)
KBANK (B 225.00, Tp 234.00, Cut 222.00)
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 ธค. ติดตามการรายงานดัชนีการจ้างงานนอกภาคเกษตร / จับตาปัญหาการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐและจีน
ปัจจัยในประเทศ : วันนี้ THG เข้าเทรดป็นวันแรก / 7 ธค. จับตาดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย เดือน พย / เตรียมชง ครม. อุ้มคนจนเฟส2หุ้นเทคนิค:
IVL (B 49.50, Tp 52.00//54.00, Cut 48.75)
KBANK (B 225.00, Tp 234.00, Cut 222.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3258
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3258