- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 December 2017 18:12
- Hits: 11036
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อเหนือ 1700 /หรือซื้อที่แนวรับ 1680+/-”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GFPT (จากถือเป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นเมื่อวันจันทร์แกว่งตัว ปิดตลาด -2.04 จุดที่ 1697.61 นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 965 ล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือขายสุทธิ
ปัจจัยวันนี้ – อุณหภูมิการเมืองในสหรัฐรุนแรงขึ้นหลังศาลสูงสุดมีคำสั่งห้ามพลเมือง 6 ชาติมุสลิมเข้าประเทศ รวมถึงพลเมืองเกาหลีเหนือและเจ้าหน้าที่บางรายของเวเนซูเอลาด้วย และวันนี้ทรัมป์ จูเนียร์ จะขึ้นให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ กรณีที่ปธน.ทรัมป์อาจพัวพันกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนปัจจัยที่ติดตาม คือ การรวมร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีฉบับสภาผู้แทนฯกับวุฒิสภาซึ่งมีความแตกต่างกันหลายประเด็น รวมถึงวันที่มีผลบังคับใช้ด้วย (ร่างสภาผู้แทนฯให้มีผลตั้งแต่ปี 61 ส่วนของวุฒิสภาเริ่มปี 62) และตัวเลขภาคแรงงาน (ทั้งการจ้างงานภาคเอกชนและการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ซึ่งตลาดประเมินว่าตัวเลขจะอ่อนลงจากเดือนต.ค. และอัตราการว่างงานจะขยับขึ้นเป็น 4.2% จาก 4.1% ในเดือนต.ค.)
ส่วนในประเทศ ตลาดยังมีความหวังกับแรงซื้อ LTF โค้งสุดท้ายของปีนี้ และการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ดีในปี 61 ซึ่งในวันนี้ทาง DBSVTH มีการออกรายงาน Sector Update กลุ่มธนาคารพาณิชย์และไฟแนนซ์ ซึ่งเรามีมุมมองที่เป็นบวกกับทั้งสองกลุ่ม โดยธนาคารเติบโตดีขึ้นจากความต้องการใช้สินเชื่อที่เพิ่มและการเติบโตของ Non-NII ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ส่วนไฟแนนซ์มาจากการขยายสาขาเพิ่มอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง หุ้น Top Picks ในกลุ่มแบงค์ คือ BBL และ TMB ส่วน Top Pick กลุ่มไฟแนนซ์เป็น MTLS นอกจากนั้นเรามีการ Upgrade คำแนะนำ GFPT เป็นซื้อ (เดิมถือ) เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงมาแล้ว 39% จากระดับสูงสุดของปีนี้ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ 4Q60 และ 1Q61 ที่อาจต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ไปแล้ว ขณะที่คาดว่ากำไรปี 61 จะยังแข็งแกร่งที่ 1.77 พันล้านบาทแม้จะอ่อนลง 4% จากปีนี้แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 17 บาท (มี Upside จากราคาปิดวันจันทร์ 15%)
กลยุทธ์ : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ เน้นซื้อเมื่อ SET ยืนเหนือ 1700/หรือที่แนวรับ 1680-1670 จุด สำหรับแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1700-1710,1720-1730 อ่อนตัวต่อมีแนวรับ 1680,1670 หุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA ทั้งนี้ Theme การลงทุนช่วงธ.ค.เป็น 1. LTF Play – แนะซื้อสะสมหุ้น Big Cap ที่ได้ประโยชน์จาก LTF โค้งสุดท้ายปีนี้ ซึ่งหุ้น Big Cap ใน DBSV Coverage ที่แนะนำซื้อ คือ AOT, BEM, BBL, KBANK, TMB, HMPRO, IVL, PTTGC, LH, MINT, MTLS และ 2. High Dividend Yield Play - เพราะอีกประมาณ 4 เดือนก็จะได้ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 60 แล้ว หุ้นปันผลเด่นของเรา เป็น KKP, KTB, LH, SENA, LALIN, DIF, TMT เป็นต้น
ปัจจัยต่างประเทศ
- การเมืองสหรัฐ : ศาลสูงสุดสั่งห้ามพลเมือง 6 ชาติมุสลิม เกาหลีเหนือ & จนท.บางรายเวเนซูเอลาเข้าสหรัฐด้วย
เมื่อวานนี้ศาลสูงสุดสหรัฐมีคำสั่งอนุญาตให้มีการบังคับใช้คำสั่งห้ามพลเมืองจาก 6 ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามเดินทางเข้าสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์เคยเสนอไว้ ทั้งนี้ก่อนหน้าศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นได้มีคำตัดสินอนุญาตให้พลเมืองจากประเทศเหล่านี้เดินทางเข้าสหรัฐได้ หากบุคคลเหล่านั้นมีญาติที่แท้จริงอาศัยอยู่ในสหรัฐ นอกจากนี้ คำสั่งแบนพลเมืองที่ปธน.ทรัมป์ เคยเสนอไว้ ยังรวมถึงพลเมืองเกาหลีเหนือและเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวเนซุเอลาบางรายด้วย
•/- การเมืองสหรัฐ : บุตรชายทรัมป์จะเข้าให้การกับกรรมาธิการข่าวกรองฯวันนี้
# จับตาทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของปธน.ทรัมป์ ที่จะเข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ กรณีที่ปธน.ทรัมป์อาจพัวพันกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
# ทางด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจในวันนี้เกี่ยวกับสถานะของกรุงเยรูซาเลมขณะที่ชาติอาหรับเตือนสหรัฐให้ตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงที่จะตามมา หากสหรัฐให้การยอมรับกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งจะกระทบต่อความรู้สึกของชาวมุสลิมทั้งโลก
-/• สหรัฐ : ดัชนีภาคบริการพ.ย.ลดลง, ขาดดุลการค้าต.ค.เพิ่มขึ้น และคำสั่งซื้อภาคโรงงานต.ค.อ่อนเล็กน้อย
# ดัชนีภาคบริการของ ISM ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.4 ในเดือนพ.ย. จาก 60.1 ในเดือนต.ค. ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐลดลงเป็น 54.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 55.3 ในเดือนต.ค.
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนต.ค.60 สู่ระดับ 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังขาดดุล 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.60
# คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 0.4% ในเดือนต.ค.
• สหรัฐ : ติดตามการรวมร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของสภาผู้แทนฯและวุฒิสภา
# เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 หลังจากนี้สภาคองเกรสสหรัฐจะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
# ความแตกต่างสำคัญระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในฉบับของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรคือ ร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดให้การปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า ในขณะที่ร่างของวุฒิสภาจะชะลอการปรับลดภาษีจนกว่าจะถึงปี 2562
+ จีน : ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.ขยับขึ้น
# ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.9 ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.2 ในเดือนต.ค. และยังทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ที่รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนพ.ย.ขยายตัวที่ระดับ 54.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.3 ในเดือนต.ค.
- ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ตลาดหุ้นร่วงเพราะวิตกการเมืองสหรัฐ
# ดัชนี DJIA ปิด 24,180.64 จุด -109.41 จุด หรือ -0.45% ดัชนี S&P500 ปิด 2,629.57 จุด -9.87 จุด หรือ -0.37% และ ดัชนี Nasdaq ปิด 6,762.21 จุด -13.15 จุด หรือ -0.19%
# นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มต่างๆ รวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสาร กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มอุตสาหกรรม หลังวิตกการเมืองในสหรัฐ
# ติดตามตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP และผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/60 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 188,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าเดือนต.ค.ที่เพิ่ม 261,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนพ.ย.จะขยับขึ้นเป็น 4.2% จากเดือนต.ค.ที่ 4.1%
• ภาวะตลาดน้ำมัน : แกว่งในกรอบแคบ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เมื่อคนนี้ปิดที่ 57.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 62.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
# นักลงทุนขายทำกำไรไปเมื่อคืนวันจันทร์หลังประเทศผู้ผลิตขยายเวลาลดการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีก 9 เดือนไปถึงสิ้นปี 61 และกังวลการผลิตน้ำมันจากหินดินดานเพิ่มของสหรัฐ...แต่เมื่อคืนนี้ขยับขึ้นเล็กน้อยเพราะโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน BRENT ในปี 61 เป็น 62 ดอลลาร์/บาร์เรล (เดิม 58 ดอลลาร์/บาร์เรล) และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ปีหน้าเป็น 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล (เดิม 55 ดอลลาร์/บาร์เรล)
- ภาวะตลาดทองคำ : ราคาร่วงลง 1% เมื่อคืนนี้
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 12.80 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ระดับ 1,264.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.60
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3216