- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 December 2017 17:12
- Hits: 5420
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
มีความเสี่ยงหลุดกรอบสามเหลี่ยม ลุ้นยืน 1690 จุด
กรอบการเคลื่อนที่ 1690-1705
ดัชนีวันจันทร์ที่ผ่านมามีทิศทางแกว่งตัวในกรอบเดิมที่ยังไม่สามารถยืน 1700 จุดได้ ทำได้ดีสุดที่ 1706 จุด ส่วนใหญ่แกว่งตัวอยู่ในแดนลบ มี Low 1692 จุด ก่อนทำปิดที่ 1697 จุด จากภาพดังกล่าวถึงแม้จะเป็นการแกว่งตัว Sideway แต่ทำปิดกราฟแท่งเทียนที่เตือนในเชิงลบ มาตลอด 4 วันทำการ และสัญญาณจาก MACD ที่กำลังตัด Zero Line ลงมา ทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะหลุดกรอบการเคลื่อนที่เป็นสามเหลี่ยม ลุ้นยืน 1690 จุดให้อยู่
แนวรับ 1685-1690
แนวต้าน 1705-1712
SET INDEX
มีความเสี่ยงหลุดกรอบสามเหลี่ยม ลุ้นยืน 1690 จุด
กรอบการเคลื่อนที่ 1690-1705
ดัชนีวันจันทร์ที่ผ่านมามีทิศทางแกว่งตัวในกรอบเดิมที่ยังไม่สามารถยืน 1700 จุดได้ ทำได้ดีสุดที่ 1706 จุด ส่วนใหญ่แกว่งตัวอยู่ในแดนลบ มี Low 1692 จุด ก่อนทำปิดที่ 1697 จุด จากภาพดังกล่าวถึงแม้จะเป็นการแกว่งตัว Sideway แต่ทำปิดกราฟแท่งเทียนที่เตือนในเชิงลบ มาตลอด 4 วันทำการ และสัญญาณจาก MACD ที่กำลังตัด Zero Line ลงมา ทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะหลุดกรอบการเคลื่อนที่เป็นสามเหลี่ยม ลุ้นยืน 1690 จุดให้อยู่
แนวรับ 1685-1690
แนวต้าน 1705-1712
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannap.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" ตลาดขาดปัจจัยหนุน ฝรั่งยังขายหุ้น "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คคาดดัชนีฯยังมีแนวโน้มผันผวนและอ่อนตัวลง .... เนื่องด้วยตลาดยังคงขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรในหุ้นที่ขึ้นมามาก ...... ต่างประเทศ ประเด็นสำคัญจะเป็นเรื่องของการเมืองสหรัฐฯทั้งเรื่องการตรวจสอบตัวประธานาธิบดีเอง และนักลงทุนเฝ้ารอดูการสรุปแผนปฎิรูปภาษีที่ผ่านสองสภาฯมาแล้วแต่ยังต้องนำมาแก้ไขและตกลงในส่วนที่มีความแตกต่างกัน อีกทั้งนักลงทุนยังคงรอดูการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ (ผลสำรวจ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 แสนตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 2.61 แสนตำแหน่งในเดือนก่อน) ........ ปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม. (4 ธ.ค.) เป็นการแจกงานใหม่ให้รัฐมนตรี เราน่าจะทราบว่าแต่ละท่านจะเดินงานด้านใดบ้างในเร็วๆนี้ ซึ่งน่าจะออกมาเป็นบวกมากกว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่มีการอนุมัติโครงการใหม่ แต่ข่าวที่ออกมา คือเตรียมการที่จะนำมาตรการไปใช้ปีหน้า อาทิ เพิ่มเงินลดหย่อนภาษีบุตร มาตรการสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยเฟสที่ 2 และมาตรการช่วยเหลือ SMEs วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เป็นต้น ขณะที่การเข้ามาซื้อขายหุ้น GULF วันนี้ (IPO 533 ล้านหุ้น ; ราคาจอง @45 ; Market Cap. ณ ราคาจอง 9.6 หมื่นล้านบาท) จะทำให้การซื้อขายไปกระจุกตัวที่หุ้นตัวนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดอยู่ในช่วงของการปรับฐาน และเล่นในกรอบที่แคบลงตามลำดับ (ส่วนหนึ่งมาจากขายไปมากและชะลอการลงทุน) .... กลยุทธ์ลงทุน ยังแนะนำให้ทำทั้งฝั่งขายหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก (เทียบกับราคาที่เหมาะสมของหุ้น โดยเลือกขายหุ้นที่มี upside เหลือน้อย) ด้านฝั่งซื้อ ควรเลือกเป็นรายตัว เน้นเก้งกำไรช่วงสั้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะเล่นในลักษณะ stock rotation คือหมุนวนหุ้นเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด วันนี้ หุ้นที่ถูกนำเข้าเก็งคำนวณดัชนีฯ FTSE ของไทย อาจถูกเข้ามาเก็งกำไรกัน โดยหุ้นที่เข้าคำนวณใหม่ ประกอบด้วย EA , BGRIM , ORI , PRM , RATCH , RS และTOA นอกจากนี้ หุ้นที่มีนำเสนอข้อมูล Op. Day ก็จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนด้วยเช่นกัน
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TKN, PTTGC*, BH, THANI
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : THANI, VTE, TITLE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
" ตลาดขาดปัจจัยหนุน ฝรั่งยังขายหุ้น "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คคาดดัชนีฯยังมีแนวโน้มผันผวนและอ่อนตัวลง .... เนื่องด้วยตลาดยังคงขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรในหุ้นที่ขึ้นมามาก ...... ต่างประเทศ ประเด็นสำคัญจะเป็นเรื่องของการเมืองสหรัฐฯทั้งเรื่องการตรวจสอบตัวประธานาธิบดีเอง และนักลงทุนเฝ้ารอดูการสรุปแผนปฎิรูปภาษีที่ผ่านสองสภาฯมาแล้วแต่ยังต้องนำมาแก้ไขและตกลงในส่วนที่มีความแตกต่างกัน อีกทั้งนักลงทุนยังคงรอดูการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ (ผลสำรวจ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 แสนตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 2.61 แสนตำแหน่งในเดือนก่อน) ........ ปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม. (4 ธ.ค.) เป็นการแจกงานใหม่ให้รัฐมนตรี เราน่าจะทราบว่าแต่ละท่านจะเดินงานด้านใดบ้างในเร็วๆนี้ ซึ่งน่าจะออกมาเป็นบวกมากกว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่มีการอนุมัติโครงการใหม่ แต่ข่าวที่ออกมา คือเตรียมการที่จะนำมาตรการไปใช้ปีหน้า อาทิ เพิ่มเงินลดหย่อนภาษีบุตร มาตรการสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยเฟสที่ 2 และมาตรการช่วยเหลือ SMEs วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เป็นต้น ขณะที่การเข้ามาซื้อขายหุ้น GULF วันนี้ (IPO 533 ล้านหุ้น ; ราคาจอง @45 ; Market Cap. ณ ราคาจอง 9.6 หมื่นล้านบาท) จะทำให้การซื้อขายไปกระจุกตัวที่หุ้นตัวนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดอยู่ในช่วงของการปรับฐาน และเล่นในกรอบที่แคบลงตามลำดับ (ส่วนหนึ่งมาจากขายไปมากและชะลอการลงทุน) .... กลยุทธ์ลงทุน ยังแนะนำให้ทำทั้งฝั่งขายหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก (เทียบกับราคาที่เหมาะสมของหุ้น โดยเลือกขายหุ้นที่มี upside เหลือน้อย) ด้านฝั่งซื้อ ควรเลือกเป็นรายตัว เน้นเก้งกำไรช่วงสั้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะเล่นในลักษณะ stock rotation คือหมุนวนหุ้นเล่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด วันนี้ หุ้นที่ถูกนำเข้าเก็งคำนวณดัชนีฯ FTSE ของไทย อาจถูกเข้ามาเก็งกำไรกัน โดยหุ้นที่เข้าคำนวณใหม่ ประกอบด้วย EA , BGRIM , ORI , PRM , RATCH , RS และTOA นอกจากนี้ หุ้นที่มีนำเสนอข้อมูล Op. Day ก็จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนด้วยเช่นกัน
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TKN, PTTGC*, BH, THANI
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : THANI, VTE, TITLE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,697.61 จุด ลดลง 2.04 จุด หรือ -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 39,692.39 ล้านบาท แม้จะมีแรงหนุนจากสถานการณ์ต่างประเทศที่เริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยขึ้นมาอยู่ระดับสูง จึงเกิดการขายทำกำไรเป็นระยะๆ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,180.64 จุด ร่วงลง 109.41 จุด หรือ -0.45% ตลาดปรับตัวลงจากตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาด .... แต่ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.19% ปิดที่ 386.74 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นได้ตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จากทั้งปัจจัยบวกต่อเนื่องจากการประชุม OPEC ที่มีมติเห็นพ้องในการขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า อีกทั้งนักวิเคราะห์ได้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีหน้า
ปัจจัยต่างประเทศ เป็นลบจากประเด็นการเมืองและตัวเลขทางเศรษฐกิจ - ปัจจัยต่างประเทศเป็นไปทางลบมากขึ้นจาก 2 ประเด็น ได้แก่ 1) ความกังวลด้านการเมือง หลังการรายงานว่าปธน.ทรัมป์อาจพัวพันกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งในวันนี้ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจในวันนี้เกี่ยวกับสถานะของกรุงเยรูซาเลม ท่ามกลางความกังวลของประเทศในกลุ่มชาติอาหรับ …. 2) ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาไม่ดีนัก โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากที่ขาดดุล 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย
ปัจจัยในประเทศ : สัญญาณคอนโดล้นตลาด, มอเตอร์เอ็กซ์โปได้ผลตอบรับดี, สหรัฐฯสั่งกักกันสินค้าไทย - ธนาคารกรุงเทพเปิดเผยว่าได้มีการชะลอการปล่อยให้กู้คอนโดหลังเห็นสัญญาณของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมีกำลังซื้อที่อ่อนแอ ส่งผลให้คอนโดมิเนียมราคาถูกมีกำลังซื้อที่อ่อนตัวลง (กรุงเทพธุรกิจ, 06/12/2017) .... อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในเดือน พ.ย.ธ.ค.นี้ คาดว่าจะเก็บได้สูงกว่าภาพรวมที่เก็บได้เฉลี่ยเดือนละ 8,000-9,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลดีจากการ จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่ช่วยเร่งยอดขายรถได้สูงขึ้น (โพสต์ทูเดย์, 06/12/2017) …. มีรายงานว่าสหรัฐฯสั่งกักกันสินค้าไทย ซึ่งประกอบไปด้วย อาหารทะเล, เครื่องดื่ม, ภาชนะบรรจุอาหาร, ถุงมือแพทย์, สิค้าเกษตรยังไม่แปรรูป, สินค้ายา
SET ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 18 ธ.ค. 2560 หุ้นเข้าใหม่ในดัชนี FTSE SET Large Cap Index ได้แก่ EA ส่วนหุ้นเข้าใหม่ ในดัชนี FTSE SET Mid Cap Index ได้แก่ BGRIM , ORI , PRM , RATCH , RS และTOA
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ KTIS, SENA, TPCH, MBKET, COMAN, DRT, BTW, PPM, AIT, TKT, GOLD, CHEWA, BIZ, ALLA, TBSP
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
TKN(ราคาปิด 21.30) เรามองว่าปัญหาเรื่องโรงงานใหม่ที่มีปัญหาในด้าน operation จะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว อีกทั้งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศยังส่งผลบวกต่อ TKN .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 664 ล้านบาท (-15% YoY) จากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายจากโรงงานใหม่ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของบริษัท และจะสามารถเติบโตได้ในปี 2018 ที่ 949 ล้านบาท (+43% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 28.00 บาท)
PTTGC*(ราคาปิด 79.75) เรามองว่า PTTGC มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ จากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่มองว่า Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี ราคา Ethylene และ HDPE สัปดาห์ล่าสุด ปรับขึ้น 0.4% และ 1.6% ตามลำดับ อีกทั้ง ค่าการกลั่นน้ำมันลดลง แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับ 3Q-17…….. PTTGC มีแผนการขยายกำลังการผลิตในอนาคตอีกด้วย .... Bloomberg คาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 34,997 ล้านบาท (+37% YoY) และปี 2018 ที่ 34,799 ล้านบาท (-1% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 89.26 บาท)
BH(ราคาปิด 200.00) เรามองว่า BH จะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยจากต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยว Middle East เริ่มกลับมา อีกทั้ง BH อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวอาคารโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น .... KTBST คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,011 ล้านบาท (+11% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,302 ล้านบาท (+7% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 223.50 บาท)
THANI(ราคาปิด 9.30) เรามองว่ามาตรการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะมีมากขึ้นและการขยายตัวด้านธุรกิจขนส่งในอนาคตจะช่วยส่งผลบวกให้ยอดสินเชื่อรถบรรทุก.ซึ่ง THANI มีสัดส่วนรายได้สูงที่ 70% ได้รับผลบวก .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 1,119 ล้านบาท (+27% YoY) และปี 2018 ที่ 1,401 ล้านบาท (+24% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 11.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) Tourism ภูเขาไฟอินโดนีเซียปะทุไร้คลี่คลาย กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติหนีเกาะบาหลีจองห้องพักท่องเที่ยวภูเก็ต พัทยา เกาะช้าง ยาวถึงต้นปีหน้า โดยนายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตช่วงไฮซีซั่นนี้ ในส่วนของอัตราเข้าพักโรงแรมต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 30% ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ถึงกลางเดือน ธ.ค.และต่อเนื่องคริสต์มาส กลุ่มนักท่องเที่ยวทยอยจองห้องพักเข้ามาแล้วเกือบ 90% ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าได้รับอานิสงส์จากเหตุภูเขาไฟของอินโดนีเซียระเบิดทำให้นักท่องเที่ยวหันมาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามันแทนเพื่อความปลอดภัย
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากที่ภูเขาไฟอากุงของประเทศอินโดนีเซียยังคงปะทุขึ้นต่อเนื่อง โดยจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวออสเตรเลียและจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักของบาหลีเข้ามาเที่ยวในแถบภาคใต้ของไทยมากขึ้น โดยเราคาดว่า จะเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกับบาหลี ซึ่งในจังหวัดภูเก็ต CENTEL มีจำนวนโรงแรมที่มากที่สุด โดยเรายังคงให้น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" ในกลุ่มท่องเที่ยว และชอบ CENTEL และ ERW มูลค่าเหมาะสมที่ 57 และ 9.50 บาท ตามลำดับ
(0) SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจพลังงานทดแทนรายใหญ่ที่สุดของไทยอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะพลังงานลมที่ธนาคารประเมินว่ายังมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด SCB ปล่อยเงินกู้จำนวน 3.7 หมื่นล้านบาทให้กับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด(WEH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ KPN Group เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 5 โครงการ จำนวนรวม 450 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนคร ราชสีมาและชัยภูมิ คาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างไตรมาส 2 ปี 2561 และไตรมาส 1 ปี 2562 ทำให้กำลังการผลิตรวมของ WEH เพิ่มเป็น 720 เมกะวัตต์ มากที่สุดในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการปล่อยกู้ของ SCB ให้แก่ WEH จำนวนสูงถึง 3.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก SCB เป็นผู้ให้กู้เพียงรายเดียว ซึ่งเรามองว่า มีความเสี่ยงหาก WEH ไม่สามารถคืนหนี้ได้ตามกำหนด แต่อย่างไรก็ดี ในแง่ของการเติบโตของสินเชื่อจะมีการเติบโตได้ดีอีกราว 2% จากประมาณการเดิมที่ 5% โดยเรายังแนะนำ "ถือ" สำหรับ SCB มูลค่าเหมาะสมที่ 168 บาท
Source: KTBST Research
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (4 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,697.61 จุด ลดลง 2.04 จุด หรือ -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 39,692.39 ล้านบาท แม้จะมีแรงหนุนจากสถานการณ์ต่างประเทศที่เริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดหุ้นไทยขึ้นมาอยู่ระดับสูง จึงเกิดการขายทำกำไรเป็นระยะๆ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,180.64 จุด ร่วงลง 109.41 จุด หรือ -0.45% ตลาดปรับตัวลงจากตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาด .... แต่ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.19% ปิดที่ 386.74 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นได้ตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จากทั้งปัจจัยบวกต่อเนื่องจากการประชุม OPEC ที่มีมติเห็นพ้องในการขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า อีกทั้งนักวิเคราะห์ได้มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีหน้า
ปัจจัยต่างประเทศ เป็นลบจากประเด็นการเมืองและตัวเลขทางเศรษฐกิจ - ปัจจัยต่างประเทศเป็นไปทางลบมากขึ้นจาก 2 ประเด็น ได้แก่ 1) ความกังวลด้านการเมือง หลังการรายงานว่าปธน.ทรัมป์อาจพัวพันกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งในวันนี้ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจในวันนี้เกี่ยวกับสถานะของกรุงเยรูซาเลม ท่ามกลางความกังวลของประเทศในกลุ่มชาติอาหรับ …. 2) ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาไม่ดีนัก โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 8.6% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากที่ขาดดุล 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย
ปัจจัยในประเทศ : สัญญาณคอนโดล้นตลาด, มอเตอร์เอ็กซ์โปได้ผลตอบรับดี, สหรัฐฯสั่งกักกันสินค้าไทย - ธนาคารกรุงเทพเปิดเผยว่าได้มีการชะลอการปล่อยให้กู้คอนโดหลังเห็นสัญญาณของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมีกำลังซื้อที่อ่อนแอ ส่งผลให้คอนโดมิเนียมราคาถูกมีกำลังซื้อที่อ่อนตัวลง (กรุงเทพธุรกิจ, 06/12/2017) .... อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในเดือน พ.ย.ธ.ค.นี้ คาดว่าจะเก็บได้สูงกว่าภาพรวมที่เก็บได้เฉลี่ยเดือนละ 8,000-9,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลดีจากการ จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่ช่วยเร่งยอดขายรถได้สูงขึ้น (โพสต์ทูเดย์, 06/12/2017) …. มีรายงานว่าสหรัฐฯสั่งกักกันสินค้าไทย ซึ่งประกอบไปด้วย อาหารทะเล, เครื่องดื่ม, ภาชนะบรรจุอาหาร, ถุงมือแพทย์, สิค้าเกษตรยังไม่แปรรูป, สินค้ายา
SET ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 18 ธ.ค. 2560 หุ้นเข้าใหม่ในดัชนี FTSE SET Large Cap Index ได้แก่ EA ส่วนหุ้นเข้าใหม่ ในดัชนี FTSE SET Mid Cap Index ได้แก่ BGRIM , ORI , PRM , RATCH , RS และTOA
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ KTIS, SENA, TPCH, MBKET, COMAN, DRT, BTW, PPM, AIT, TKT, GOLD, CHEWA, BIZ, ALLA, TBSP
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
TKN(ราคาปิด 21.30) เรามองว่าปัญหาเรื่องโรงงานใหม่ที่มีปัญหาในด้าน operation จะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว อีกทั้งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศยังส่งผลบวกต่อ TKN .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 664 ล้านบาท (-15% YoY) จากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายจากโรงงานใหม่ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของบริษัท และจะสามารถเติบโตได้ในปี 2018 ที่ 949 ล้านบาท (+43% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 28.00 บาท)
PTTGC*(ราคาปิด 79.75) เรามองว่า PTTGC มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ จากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่มองว่า Spread ปิโตรเคมียังอยู่แนวโน้มที่ดี ราคา Ethylene และ HDPE สัปดาห์ล่าสุด ปรับขึ้น 0.4% และ 1.6% ตามลำดับ อีกทั้ง ค่าการกลั่นน้ำมันลดลง แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับ 3Q-17…….. PTTGC มีแผนการขยายกำลังการผลิตในอนาคตอีกด้วย .... Bloomberg คาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 34,997 ล้านบาท (+37% YoY) และปี 2018 ที่ 34,799 ล้านบาท (-1% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 89.26 บาท)
BH(ราคาปิด 200.00) เรามองว่า BH จะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยจากต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยว Middle East เริ่มกลับมา อีกทั้ง BH อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวอาคารโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น .... KTBST คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,011 ล้านบาท (+11% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,302 ล้านบาท (+7% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 223.50 บาท)
THANI(ราคาปิด 9.30) เรามองว่ามาตรการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะมีมากขึ้นและการขยายตัวด้านธุรกิจขนส่งในอนาคตจะช่วยส่งผลบวกให้ยอดสินเชื่อรถบรรทุก.ซึ่ง THANI มีสัดส่วนรายได้สูงที่ 70% ได้รับผลบวก .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 1,119 ล้านบาท (+27% YoY) และปี 2018 ที่ 1,401 ล้านบาท (+24% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 11.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) Tourism ภูเขาไฟอินโดนีเซียปะทุไร้คลี่คลาย กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติหนีเกาะบาหลีจองห้องพักท่องเที่ยวภูเก็ต พัทยา เกาะช้าง ยาวถึงต้นปีหน้า โดยนายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตช่วงไฮซีซั่นนี้ ในส่วนของอัตราเข้าพักโรงแรมต่างๆ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 30% ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ถึงกลางเดือน ธ.ค.และต่อเนื่องคริสต์มาส กลุ่มนักท่องเที่ยวทยอยจองห้องพักเข้ามาแล้วเกือบ 90% ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าได้รับอานิสงส์จากเหตุภูเขาไฟของอินโดนีเซียระเบิดทำให้นักท่องเที่ยวหันมาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามันแทนเพื่อความปลอดภัย
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากที่ภูเขาไฟอากุงของประเทศอินโดนีเซียยังคงปะทุขึ้นต่อเนื่อง โดยจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวออสเตรเลียและจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักของบาหลีเข้ามาเที่ยวในแถบภาคใต้ของไทยมากขึ้น โดยเราคาดว่า จะเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเป็นหลัก เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกับบาหลี ซึ่งในจังหวัดภูเก็ต CENTEL มีจำนวนโรงแรมที่มากที่สุด โดยเรายังคงให้น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาด" ในกลุ่มท่องเที่ยว และชอบ CENTEL และ ERW มูลค่าเหมาะสมที่ 57 และ 9.50 บาท ตามลำดับ
(0) SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจพลังงานทดแทนรายใหญ่ที่สุดของไทยอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะพลังงานลมที่ธนาคารประเมินว่ายังมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด SCB ปล่อยเงินกู้จำนวน 3.7 หมื่นล้านบาทให้กับบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด(WEH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ KPN Group เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 5 โครงการ จำนวนรวม 450 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนคร ราชสีมาและชัยภูมิ คาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างไตรมาส 2 ปี 2561 และไตรมาส 1 ปี 2562 ทำให้กำลังการผลิตรวมของ WEH เพิ่มเป็น 720 เมกะวัตต์ มากที่สุดในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการปล่อยกู้ของ SCB ให้แก่ WEH จำนวนสูงถึง 3.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก SCB เป็นผู้ให้กู้เพียงรายเดียว ซึ่งเรามองว่า มีความเสี่ยงหาก WEH ไม่สามารถคืนหนี้ได้ตามกำหนด แต่อย่างไรก็ดี ในแง่ของการเติบโตของสินเชื่อจะมีการเติบโตได้ดีอีกราว 2% จากประมาณการเดิมที่ 5% โดยเรายังแนะนำ "ถือ" สำหรับ SCB มูลค่าเหมาะสมที่ 168 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO3206