- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 November 2017 17:01
- Hits: 1598
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1690 แนวต้าน 1703-1705
SET Index: 1698.58 ปรับตัวลดลงเกิดสัญาณขายทางเทคนิค หลุดระดับ 1705และ 1700 จุดลงไป แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และมีแนวรับสำคัญสำหรับการปรับฐานที่ 1690 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1680 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 และ 1730 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 1780 จุด
แนวต้าน : 1703 และ 1705
แนวรับ : 1698 และ 1695
SCB = 152/153**, AOT = 61.00/62.00, KBANK = 208/210, CPF = 23.80/24.50, UV = 9.70/10.00
Bangkok Bank (BBL TB; THB 201.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 206 และ 208 / แนวต้านสำคัญ 214
แนวรับ : 201 และ 200
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้เนหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 201 และ 200 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 206 และ 208 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 197 ลงไป
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 3.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.30 และ 3.36 / แนวต้านสำคัญ 3.50
แนวรับ : 3.00 และ 2.96
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ล่าสุด ราคาหุ้นสามารถทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ ETE โดยมีแนวรับที่ 3.00 และ 2.96 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.30 และ 3.36 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.80 ลงไป
SET Index: แนวรับสำคัญ 1690 แนวต้าน 1703-1705
SET Index: 1698.58 ปรับตัวลดลงเกิดสัญาณขายทางเทคนิค หลุดระดับ 1705และ 1700 จุดลงไป แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และมีแนวรับสำคัญสำหรับการปรับฐานที่ 1690 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1680 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 และ 1730 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 1780 จุด
แนวต้าน : 1703 และ 1705
แนวรับ : 1698 และ 1695
SCB = 152/153**, AOT = 61.00/62.00, KBANK = 208/210, CPF = 23.80/24.50, UV = 9.70/10.00
Bangkok Bank (BBL TB; THB 201.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 206 และ 208 / แนวต้านสำคัญ 214
แนวรับ : 201 และ 200
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้เนหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 201 และ 200 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 206 และ 208 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 197 ลงไป
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 3.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.30 และ 3.36 / แนวต้านสำคัญ 3.50
แนวรับ : 3.00 และ 2.96
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ล่าสุด ราคาหุ้นสามารถทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้แล้ว ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ ETE โดยมีแนวรับที่ 3.00 และ 2.96 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.30 และ 3.36 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.80 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…รอข่าวหนุน
ทิศทางดัชนี SET ยังคงแกว่งในบริเวณ 1700+/- จุด จากแรงหนุนทางจิตวิทยาของตลาดหุ้นต่างประเทศ หากจะให้ยืนเหนือ 1700 จุดแล้วไปต่อต้องมีปัจจัยหนุน อย่าง แรงซื้อคืนของต่างชาติ งบ Q4/17 ออกมาดีหรือการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจภายใน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนประเด็นที่เคยกังวลอย่างการผ่านร่างกฏหมายปฎิรูปภาษีของสหรัฐ น่าจะผ่านไปด้วยดี แต่ตลาดหุ้นสหรัฐจะรับข่าวแล้วขายหรือไม่ ยังต้องติดตาม โดยส่วนใหญ่มองรับข่าวไปบางส่วน นั่นก็หมายถึงยังมีช่องให้ขึ้นได้อีก ส่วนแรงซื้อของต่างชาติ น่าจะกลับมาในช่วงต้นปี หลังประเมินการเติบโตของกำไรและเศรษฐกิจในปี 2018 ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
การประชุม OPEC ในวันนี้ต่างคาดกันว่าที่ประชุมน่าจะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หากเป็นตามคาด ราคาน้ำมันอาจไม่ไปไหน แต่หากผิดคาด คือขยายเวลาต่ำกว่าคาด ราคาน้ำมันมีสิทธิปรับตัวลง แต่คงไม่แรง ดังนั้นทิศทางหุ้นพลังงานของเราในตอนนี้อาจะขยับตัวขึ้นและลงได้ไม่มาก จนกว่าจะถึงการประกาศงบ Q4/17 สำหรับแนวโน้มดัชนีในช่วงเดือน ธ.ค. เรามองว่าในเชิงบวกมากกว่าเดิมเนื่องจากเริ่มมีสัญญาณบางตัวที่กำลังบอกว่า อัตราการทำกำไรของตลาด น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น อย่าง Earning momentum ratio กำลังขึ้นมาในแดนบวก และการเปลี่ยนแปลงรอบ 1 เดือนของ EPS 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดรวม ไม่ติดลบ คือทรงๆ ตัวที่ศูนย์
ความเสี่ยงในเดือน ธ.ค. ยังคงเป็นความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐที่อาจขึ้นแล้วขายทำกำไรออก หลังรับข่าวการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีและปัญหาในเกาหลีที่อาจขยายวง ส่วนปัจจัยบวก คือ แนวโน้มอัตราการทำกำไรใน Q4/17 ที่น่าจะดีขึ้นมากๆ เทียบ Q4/16 รวมทั้งกำไรโดยรวมในปีหน้า หากเกิดความเสี่ยงในเดือนนี้ แนวโน้มดัชนีจะลงไปที่กรอบ 1680-1670 จุด ส่วนกรอบบนมอง 1740-1750 จุด โดยมองว่าแนวโน้มที่ดัชนีจะค่อยๆ ขยับตัวขึ้นน่าจะอยู่ในช่วงกลางถึงปลายเดือน ธ.ค.
กลุ่มที่ถือว่าน่าสนใจ ทั้งการประเมินและราคาหุ้น คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังมองภาพรวมของอุตสาหกรรมในปีหน้าจะดีขึ้น โดยตอนนี้อัตราการทำกำไรของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 13% เทียบปีนี้ที่ติดลบประมาณ 4-5% และเทียบอัตราการทำกำไรของตลาดในปีหน้าที่ประมาณ 8.2% ดูรูปด้านขวา สะท้อนการฟื้นตัวอย่างมาก นอกจากนั้นหากมาดูผ่านค่า P/BV ของหุ้นแต่ละตัว พบว่า BBL KTB ยังเทรดต่ำกว่ากลุ่ม
แนวโน้มดัชนีในวันนี้คาดดัชนี SET น่าจะคึกคักขึ้นบ้างจากการทำ MSCI rebalancing อย่างไรก็ตามระยะหลังแม้จะมีแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ดูเหมือนดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคจะเริ่มแกว่งๆ ดังนั้นวันนี้ดัชนี SET ยังสิทธิแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยมีแนวต้านที่ 1712-1716 จุดและแนวรับที่ 1700-1695 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BBL KTB TCAP และ CPF
ทิศทางดัชนี SET ยังคงแกว่งในบริเวณ 1700+/- จุด จากแรงหนุนทางจิตวิทยาของตลาดหุ้นต่างประเทศ หากจะให้ยืนเหนือ 1700 จุดแล้วไปต่อต้องมีปัจจัยหนุน อย่าง แรงซื้อคืนของต่างชาติ งบ Q4/17 ออกมาดีหรือการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจภายใน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนประเด็นที่เคยกังวลอย่างการผ่านร่างกฏหมายปฎิรูปภาษีของสหรัฐ น่าจะผ่านไปด้วยดี แต่ตลาดหุ้นสหรัฐจะรับข่าวแล้วขายหรือไม่ ยังต้องติดตาม โดยส่วนใหญ่มองรับข่าวไปบางส่วน นั่นก็หมายถึงยังมีช่องให้ขึ้นได้อีก ส่วนแรงซื้อของต่างชาติ น่าจะกลับมาในช่วงต้นปี หลังประเมินการเติบโตของกำไรและเศรษฐกิจในปี 2018 ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
การประชุม OPEC ในวันนี้ต่างคาดกันว่าที่ประชุมน่าจะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หากเป็นตามคาด ราคาน้ำมันอาจไม่ไปไหน แต่หากผิดคาด คือขยายเวลาต่ำกว่าคาด ราคาน้ำมันมีสิทธิปรับตัวลง แต่คงไม่แรง ดังนั้นทิศทางหุ้นพลังงานของเราในตอนนี้อาจะขยับตัวขึ้นและลงได้ไม่มาก จนกว่าจะถึงการประกาศงบ Q4/17 สำหรับแนวโน้มดัชนีในช่วงเดือน ธ.ค. เรามองว่าในเชิงบวกมากกว่าเดิมเนื่องจากเริ่มมีสัญญาณบางตัวที่กำลังบอกว่า อัตราการทำกำไรของตลาด น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น อย่าง Earning momentum ratio กำลังขึ้นมาในแดนบวก และการเปลี่ยนแปลงรอบ 1 เดือนของ EPS 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดรวม ไม่ติดลบ คือทรงๆ ตัวที่ศูนย์
ความเสี่ยงในเดือน ธ.ค. ยังคงเป็นความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐที่อาจขึ้นแล้วขายทำกำไรออก หลังรับข่าวการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีและปัญหาในเกาหลีที่อาจขยายวง ส่วนปัจจัยบวก คือ แนวโน้มอัตราการทำกำไรใน Q4/17 ที่น่าจะดีขึ้นมากๆ เทียบ Q4/16 รวมทั้งกำไรโดยรวมในปีหน้า หากเกิดความเสี่ยงในเดือนนี้ แนวโน้มดัชนีจะลงไปที่กรอบ 1680-1670 จุด ส่วนกรอบบนมอง 1740-1750 จุด โดยมองว่าแนวโน้มที่ดัชนีจะค่อยๆ ขยับตัวขึ้นน่าจะอยู่ในช่วงกลางถึงปลายเดือน ธ.ค.
กลุ่มที่ถือว่าน่าสนใจ ทั้งการประเมินและราคาหุ้น คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังมองภาพรวมของอุตสาหกรรมในปีหน้าจะดีขึ้น โดยตอนนี้อัตราการทำกำไรของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 13% เทียบปีนี้ที่ติดลบประมาณ 4-5% และเทียบอัตราการทำกำไรของตลาดในปีหน้าที่ประมาณ 8.2% ดูรูปด้านขวา สะท้อนการฟื้นตัวอย่างมาก นอกจากนั้นหากมาดูผ่านค่า P/BV ของหุ้นแต่ละตัว พบว่า BBL KTB ยังเทรดต่ำกว่ากลุ่ม
แนวโน้มดัชนีในวันนี้คาดดัชนี SET น่าจะคึกคักขึ้นบ้างจากการทำ MSCI rebalancing อย่างไรก็ตามระยะหลังแม้จะมีแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ดูเหมือนดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคจะเริ่มแกว่งๆ ดังนั้นวันนี้ดัชนี SET ยังสิทธิแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยมีแนวต้านที่ 1712-1716 จุดและแนวรับที่ 1700-1695 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BBL KTB TCAP และ CPF
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,698.58 จุด ลดลง 6.75 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย25,627.19 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงโดยมีแรงขายในกลุ่มขนส่ง ค้าปลีก และพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีปิดต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดในช่วงเช้า ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ซึมตัวลง แรงขายทำกำไรยังกดดันตลาดโดยรวม SET กลับมาปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1700 จุด ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ไม่ได้มีเม็ดเงินใหม่จากต่างชาติเข้ามาเสริม ภาพรวมตลาดน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ กลยุทธ์หลัก คือรอเข้าซื้อที่แนวรับหลักบริเวณ 1685-1690 จุด แล้วขายทำกำไรเล่นรอบออกบริเวณ 1715-1720 จุด ยังมองกลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก น่าสนใจ เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง แนะนำ BBL MINT CENTEL ROBINS
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 201.00) – ซื้อ
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 3.00) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : PORT
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,698.58 จุด ลดลง 6.75 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย25,627.19 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงโดยมีแรงขายในกลุ่มขนส่ง ค้าปลีก และพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีปิดต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดในช่วงเช้า ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ซึมตัวลง แรงขายทำกำไรยังกดดันตลาดโดยรวม SET กลับมาปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1700 จุด ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรออกมา หลังจากที่ไม่ได้มีเม็ดเงินใหม่จากต่างชาติเข้ามาเสริม ภาพรวมตลาดน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ กลยุทธ์หลัก คือรอเข้าซื้อที่แนวรับหลักบริเวณ 1685-1690 จุด แล้วขายทำกำไรเล่นรอบออกบริเวณ 1715-1720 จุด ยังมองกลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก น่าสนใจ เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง แนะนำ BBL MINT CENTEL ROBINS
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 201.00) – ซื้อ
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 3.00) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : PORT
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3037
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3037
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 30-11-17
จิตวิทยาระยะสั้นกระทบหลัง ECB เตือนความผันผวนตลาดการเงินทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นโลกเช้านี้ปรับลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกรายงาน Financial Stability Review เตือนเกี่ยวกับความผันผวนที่เพิ่มในตลาดการเงินทั่วโลกและมีความเสี่ยงต่อการปรับฐาน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเพิ่มความระวัง และกดดันต่อจิตวิทยาตลาด ด้านราคาน้ำมันยังปรับตัวลงสะท้อนการรับความคาดหวังจากก่อนการประชุมโอเปค (คืนนี้ 30 พ.ย.) ไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการลงมติมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอนกว่าจะสามารถนำมาบังคับใช้ได้จริง กลยุทธ์ภาพรวมจึงยังคงเป็นในลักษณะเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ จนกว่าตลาดจะกลับมามีปัจจัยผลักดันชัดเจน วันนี้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยกลุ่มปิโตรเคมีที่ยังคงมีแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและมีโอกาสได้รับปัจจัยบวกจากเงินทุนที่ไหลเข้าหลังถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เราชอบ PTTGC, IVL
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ PCSGH*, DEMCO*, STA*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเลือกลงทุนรายตัวและเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) นักลงทุนรอซื้อตามแนวรับเมื่ออ่อนตัว การหลุด 1690 อาจทำให้ตลาดมีความเสี่ยงทางลงราว 20-30 จุด // หุ้นแนะนำ PTTGC, VNT*, BBL
แนวรับ : 1700-1705 / แนวต้าน : 1720-1725 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
จิตวิทยาระยะสั้นกระทบหลัง ECB เตือนความผันผวนตลาดการเงินทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ตลาดหุ้นโลกเช้านี้ปรับลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกรายงาน Financial Stability Review เตือนเกี่ยวกับความผันผวนที่เพิ่มในตลาดการเงินทั่วโลกและมีความเสี่ยงต่อการปรับฐาน ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเพิ่มความระวัง และกดดันต่อจิตวิทยาตลาด ด้านราคาน้ำมันยังปรับตัวลงสะท้อนการรับความคาดหวังจากก่อนการประชุมโอเปค (คืนนี้ 30 พ.ย.) ไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการลงมติมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอนกว่าจะสามารถนำมาบังคับใช้ได้จริง กลยุทธ์ภาพรวมจึงยังคงเป็นในลักษณะเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ จนกว่าตลาดจะกลับมามีปัจจัยผลักดันชัดเจน วันนี้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยกลุ่มปิโตรเคมีที่ยังคงมีแนวโน้มอัตรากำไรที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและมีโอกาสได้รับปัจจัยบวกจากเงินทุนที่ไหลเข้าหลังถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน เราชอบ PTTGC, IVL
Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ PCSGH*, DEMCO*, STA*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเลือกลงทุนรายตัวและเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) นักลงทุนรอซื้อตามแนวรับเมื่ออ่อนตัว การหลุด 1690 อาจทำให้ตลาดมีความเสี่ยงทางลงราว 20-30 จุด // หุ้นแนะนำ PTTGC, VNT*, BBL
แนวรับ : 1700-1705 / แนวต้าน : 1720-1725 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับลงจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนในตลาดต่อผลการประชุมโอเปคที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลังโกลด์แมน แซคส์ระบุว่าผลการประชุมโอเปกในสัปดาห์นี้ จะมีความไม่แน่นอนมากกว่าในครั้งที่ผ่านๆมา / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,536 จุด (+1.99%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 96.8 เหรียญฯต่อตัน (+0.41%)
สหรัฐฯ ปรับเพิ่ม GDP สูงสุดในรอบ 3 ปี – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯปรับเพิ่ม GDP ประจำไตรมาส 3/60 สู่ระดับ 3.3% สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่ระดับ 3.0% และ 3.2% ตามลำดับ
Beige Book – ธนาคารกลางสหรัฐฯเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ 12 เขต (Beige Book) ระบุว่า เศณษฐกิจสหรัฐฯยังคงขยายตัวเล็กน้อย-ปานกลาง ในช่วงเดือน ต.ค.-กลางเดือนพ.ย. ขณะที่เศรษฐกิจในหลายๆเขตมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้รนเล็กน้อย
เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวต่อเนื่อง – สหภาพยุโรป (EU) ระบุดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคขยายตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค – สคร.เผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ประจำเดือน พ.ย. ขยายตัวดีขึ้นในเกือบทุกภูมิภาคเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นในทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและบริการภายใน เป็นสำคัญ
MSCI Play– MSCI Global Standard ถอดหุ้น: BEC, เพิ่มน้ำหนัก: IVL, KBANK, SCB, TOP, PTTGC // MSCI Small Cap Indexes: เพิ่มหุ้น: BEC, GGC, ORI, VNT, WHAUP, ถอดหุ้น: AIRA, GPSC, NYT, SCN, STPI, THRE *มีผลบังคับใช้วันนี้
FTSE Play– FTSE Large Cap ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกใหม่ / FTSE Small Cap เพิ่มหุ้น: TPIPL, BGRIM *มีผลราคาปิดวันที่ 15 ธ.ค.60
ประเด็นติดตาม: 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค, TH - ธปท.รายงานเศรษฐกิจไทย, US - Beige Book
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับลงจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนในตลาดต่อผลการประชุมโอเปคที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลังโกลด์แมน แซคส์ระบุว่าผลการประชุมโอเปกในสัปดาห์นี้ จะมีความไม่แน่นอนมากกว่าในครั้งที่ผ่านๆมา / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,536 จุด (+1.99%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 96.8 เหรียญฯต่อตัน (+0.41%)
สหรัฐฯ ปรับเพิ่ม GDP สูงสุดในรอบ 3 ปี – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯปรับเพิ่ม GDP ประจำไตรมาส 3/60 สู่ระดับ 3.3% สูงสุดในรอบ 3 ปี โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่ระดับ 3.0% และ 3.2% ตามลำดับ
Beige Book – ธนาคารกลางสหรัฐฯเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ 12 เขต (Beige Book) ระบุว่า เศณษฐกิจสหรัฐฯยังคงขยายตัวเล็กน้อย-ปานกลาง ในช่วงเดือน ต.ค.-กลางเดือนพ.ย. ขณะที่เศรษฐกิจในหลายๆเขตมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้รนเล็กน้อย
เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวต่อเนื่อง – สหภาพยุโรป (EU) ระบุดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคขยายตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค – สคร.เผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ประจำเดือน พ.ย. ขยายตัวดีขึ้นในเกือบทุกภูมิภาคเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นในทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและบริการภายใน เป็นสำคัญ
MSCI Play– MSCI Global Standard ถอดหุ้น: BEC, เพิ่มน้ำหนัก: IVL, KBANK, SCB, TOP, PTTGC // MSCI Small Cap Indexes: เพิ่มหุ้น: BEC, GGC, ORI, VNT, WHAUP, ถอดหุ้น: AIRA, GPSC, NYT, SCN, STPI, THRE *มีผลบังคับใช้วันนี้
FTSE Play– FTSE Large Cap ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกใหม่ / FTSE Small Cap เพิ่มหุ้น: TPIPL, BGRIM *มีผลราคาปิดวันที่ 15 ธ.ค.60
ประเด็นติดตาม: 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค, TH - ธปท.รายงานเศรษฐกิจไทย, US - Beige Book
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่SET10ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO3038
OO3038