- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 November 2017 17:01
- Hits: 885
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนคารนำโดยธนาคารใหญ่ KBANK, SCB, BBL และ KTB ในขณะที่หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากงาน Motor Expo อย่าง TISCO , KKP, TCAP ก็มีแรงซื้อเด่นเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มก่อสร้างนำโดย STEC, CK, UNIQ และหุ้นอย่าง CBG, TKN, WORK ก็เกิดแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,705 จุด (-1.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเท่ากับวันก่อนหน้าที่ 4.9 หมื่นล้านบาท (มี Biglot CPALL รวมมูลค่า 458 ล้านบาท)
นักลงทุนชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 1,617 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 5,298 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนคารนำโดยธนาคารใหญ่ KBANK, SCB, BBL และ KTB ในขณะที่หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากงาน Motor Expo อย่าง TISCO , KKP, TCAP ก็มีแรงซื้อเด่นเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มก่อสร้างนำโดย STEC, CK, UNIQ และหุ้นอย่าง CBG, TKN, WORK ก็เกิดแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,705 จุด (-1.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเท่ากับวันก่อนหน้าที่ 4.9 หมื่นล้านบาท (มี Biglot CPALL รวมมูลค่า 458 ล้านบาท)
นักลงทุนชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 1,617 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 5,298 สัญญา
Investment theme
SET แกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่ แนะ สลับกลุ่มเก็งกำไร : ในระยะสั้นเรามองว่าตลาดยังจะคงแกว่งตัว Zig zag ในกรอบสามเหลี่ยม เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนจากทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ในขณะที่เรามองว่าปีนี้นักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิในช่วง 2เดือนสุดท้ายของปีต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม สถาบันจะซื้อเฉลี่ยประมาณ 2.26 หมื่นล้านบาท ) เนื่องจากมียอดซื้อสะสมสูงกว่า 1.15 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ตุลาคม 2559 เราแนะนำนักลงทุนสลับกลุ่มเก็งกำไร เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว(ล่าสุดสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ 3.3%) อย่างกลุ่ม Logistic และ กลุ่มธนาคารที่คาด Loan growth ในไตรมาส 4 จะเติบโตประมาณ 4.0%YoY
Investment theme: เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ SET ไม่สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,720 ได้ เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนและเม็ดเงินจากต่างประเทศ ในขณะที่ฝั่งสถาบันเริ่มมีแรงซื้อที่ลดลง ส่งผลให้เรามองว่าในสัปดาห์นี้ SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,720 เพื่อรอดูผลของปัจจัยต่างประเทศ
SET แกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่ แนะ สลับกลุ่มเก็งกำไร : ในระยะสั้นเรามองว่าตลาดยังจะคงแกว่งตัว Zig zag ในกรอบสามเหลี่ยม เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนจากทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ในขณะที่เรามองว่าปีนี้นักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิในช่วง 2เดือนสุดท้ายของปีต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม สถาบันจะซื้อเฉลี่ยประมาณ 2.26 หมื่นล้านบาท ) เนื่องจากมียอดซื้อสะสมสูงกว่า 1.15 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ตุลาคม 2559 เราแนะนำนักลงทุนสลับกลุ่มเก็งกำไร เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว(ล่าสุดสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ 3.3%) อย่างกลุ่ม Logistic และ กลุ่มธนาคารที่คาด Loan growth ในไตรมาส 4 จะเติบโตประมาณ 4.0%YoY
Investment theme: เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ SET ไม่สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,720 ได้ เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนและเม็ดเงินจากต่างประเทศ ในขณะที่ฝั่งสถาบันเริ่มมีแรงซื้อที่ลดลง ส่งผลให้เรามองว่าในสัปดาห์นี้ SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,720 เพื่อรอดูผลของปัจจัยต่างประเทศ
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา FTSE ปรับพอร์ตนำ TPIPP, BGRIM เข้าดัชนี / สหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงสูงกว่าคาดที่ 3.4 ล้านบาร์เรล / เกิด Stock rotation ในตลาดหุ้นสหรัฐจากกลุ่ม Tech ไปยังกลุ่ม ธนาคาร / เกาหลีใต้ปรับดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่ 1.5%
คาด PORT เข้าเกณฑ์ Cash Balance
วันนี้ JKN เข้าซื้อขายในตลาดเป็นวันแรก
Stock pick : WICE
B WICE : ทยอยสะสม ราคาเหมาะสม 6.10 บาท /หุ้น
WICE ถือเป็นหนึ่งในบริษัท Logistic ที่ได้ประโยชน์ทางจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงกว่าที่คาดที่ 3.3% ในขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมาจีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตสูงกว่าคาดเช่นเดียวกัน สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว (3 ประเทศหลักคู่ค้าของไทย คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของการค้าประเทศไทย) โดยเรามองว่าหุ้น Logistic อย่าง Freight fowarder จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเรื่องนี้
คาดกำไรปี 2561 เติบโต 23% YoY ที่ 151 ล้านบาท โดยเรารวมธุรกิจ UWT เข้ามาในประมาณการ ในขณะที่สินค้าหลักอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 43% ของบริษัท) ยังคงเป็นพระเอกของการส่งออกไทย ส่งผลให้เรามองว่าทิศทางธุรกิจของ WICE ยังคงสดใสต่อ แนะนำทยอยสะสม ที่ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท/หุ้น สะท้อน PEG 0.68x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
เมื่อคืนที่ผ่านมา FTSE ปรับพอร์ตนำ TPIPP, BGRIM เข้าดัชนี / สหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงสูงกว่าคาดที่ 3.4 ล้านบาร์เรล / เกิด Stock rotation ในตลาดหุ้นสหรัฐจากกลุ่ม Tech ไปยังกลุ่ม ธนาคาร / เกาหลีใต้ปรับดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่ 1.5%
คาด PORT เข้าเกณฑ์ Cash Balance
วันนี้ JKN เข้าซื้อขายในตลาดเป็นวันแรก
Stock pick : WICE
B WICE : ทยอยสะสม ราคาเหมาะสม 6.10 บาท /หุ้น
WICE ถือเป็นหนึ่งในบริษัท Logistic ที่ได้ประโยชน์ทางจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงกว่าที่คาดที่ 3.3% ในขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมาจีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตสูงกว่าคาดเช่นเดียวกัน สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว (3 ประเทศหลักคู่ค้าของไทย คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของการค้าประเทศไทย) โดยเรามองว่าหุ้น Logistic อย่าง Freight fowarder จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเรื่องนี้
คาดกำไรปี 2561 เติบโต 23% YoY ที่ 151 ล้านบาท โดยเรารวมธุรกิจ UWT เข้ามาในประมาณการ ในขณะที่สินค้าหลักอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 43% ของบริษัท) ยังคงเป็นพระเอกของการส่งออกไทย ส่งผลให้เรามองว่าทิศทางธุรกิจของ WICE ยังคงสดใสต่อ แนะนำทยอยสะสม ที่ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท/หุ้น สะท้อน PEG 0.68x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
Trading idea – – BJC @ 68.0 บาท / เก็งกำไร PSL @13.70 บาท
อ่อนตัวแรงช่วงท้ายตลาด: ช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคารและขนส่ง แต่ช่วงท้ายเกิดแรงขายทำกำไร ทำให้ดัชนีอ่อนตัวปิดบริเวณ Low ของวัน ระยะสั้นดัชนีอาจมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อ แต่ในระยะกลางคาด Downside จำกัด มองแนวรับสำคัญของกรอบสามเหลี่ยมที่ 1690 เป็นจุดที่ไม่ควรหลุด ขณะนี้ยังคงมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับต่างๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) ไม่มีหุ้น: หากดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1700 มองเป็นโอกาสเล่น Rebound ภายในวัน
แนวรับ : 1700, 1690 แนวต้าน : 1710, 1715
อ่อนตัวแรงช่วงท้ายตลาด: ช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคารและขนส่ง แต่ช่วงท้ายเกิดแรงขายทำกำไร ทำให้ดัชนีอ่อนตัวปิดบริเวณ Low ของวัน ระยะสั้นดัชนีอาจมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อ แต่ในระยะกลางคาด Downside จำกัด มองแนวรับสำคัญของกรอบสามเหลี่ยมที่ 1690 เป็นจุดที่ไม่ควรหลุด ขณะนี้ยังคงมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับต่างๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) ไม่มีหุ้น: หากดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1700 มองเป็นโอกาสเล่น Rebound ภายในวัน
แนวรับ : 1700, 1690 แนวต้าน : 1710, 1715
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเช้านี้ / ประชุม OPEC 30 พย. และ สหรัฐรายงานตัวเลขตัวเลขเงินเฟ้อ
ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / 1 ธ.ค.รายงานเงินเฟ้อหุ้นเทคนิค:
KBANK (B 225.00-227.00, Tp 234.00//240.00, Cut 222.00)
TISCO (B 86.50, Tp 90.00, Cut 85.50)
ปัจจัยต่างประเทศ : จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเช้านี้ / ประชุม OPEC 30 พย. และ สหรัฐรายงานตัวเลขตัวเลขเงินเฟ้อ
ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / 1 ธ.ค.รายงานเงินเฟ้อหุ้นเทคนิค:
KBANK (B 225.00-227.00, Tp 234.00//240.00, Cut 222.00)
TISCO (B 86.50, Tp 90.00, Cut 85.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3032
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3032