WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1706.52 +10.85 (+0.64) // Vol. 49,057
  ไปต่อมีโอกาสทดสอบ High เดิม 1720 จุดอีกครั้ง
  กรอบการเคลื่อนไหว 1700-1720
  ดัชนีสามารถฟื้นตัว โดยเปิดตัวได้ค่อนข้างดีค่อย ๆ แกว่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถกลับขึ้นมายืน 1700 จุดได้อีกครั้ง พร้อมกับทำปิดที่จุดสูงสุดของวันที่ 1706 จุด ซึ่งการขึ้นมาดังกล่าวนั้นเป็นการดีดกลับขึ้นมาเกิน 50% ของรอบขาลงล่าสุด (1687-1722=1704.94) ทำให้มีแนวโน้มไปได้ต่อ คาดหวังการขึ้นทดสอบกรอบบนของสามเหลี่ยม (1720)
แนวรับ 1693-1700
แนวต้าน 1710-1714 // 1720
Technical Analyst :  พรรณนภา  เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannap.k@ktbst .co.t

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

"สลับกลุ่มเล่นไปเรื่อยๆ วันนี้ได้ปัจจัย ตปท.ช่วยหนุน "
          ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มสูงขึ้นตามปัจจัยต่างประเทศ แต่มีความผันผวนเช่นเคย ......  ตลาดต่างประเทศ เล็งผลบวกว่าการพิจารณาแผนปฎิรูปภาษีของสหรรัฐฯที่จะนำเข้าการพิจารณาในสภาสูงวันนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) จะผ่านความเห็นชอบจากสภาฯไปได้ และตอบรับต่อแนวนโยบายของว่าที่ประธาน Fed คนใหม่  คือนายเจอโรม พาวเวล ที่เข้าแสดงวิสับทัศน์ต่อคณะกรรมการธิการการธนาคารฯ วานนี้ ที่คงแนวนโยบายของนางเยลเลน และจะมีการปรับดอกเบี้ยตามที่ Fed เคยระบุไว้  ขณะที่การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเช้าวันนี้ (29) คาดไม่มีผลต่อตลาดหุ้น .....  ขณะที่ปัจจัยในประเทศ  นักลงทุนกำลังรอคอยปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะในเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือลงทุนภาครัฐฯ  ข่าวการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่คาดว่าจะพิจารณา 13 ธ.ค.นี้ ตามข่าวระบุโซนที่จะปรับขึ้นสูงสุดคือ 15 บาท (ปี 2560 สูงสุด คือ 10 บาท) ข่าวนี้ กระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานในระดับสูง (กลุ่มรับเหมา กลุ่มอาหารทะเล กลุ่มค้าปลีก ฯลฯ)
          กลยุทธ์การลงทุน : การลงทุนของนักลงทุน ยังคงเป็นการสลับกลุ่มเล่น โดยหุ้นตัวหลักที่ราคาปรับตัวลงมามาก อาจมีแรงซื้อกลับ แต่หุ้นบางตัวที่ขึ้นมามาก  หากไม่มีปัจจัยหนุนโอกาสเดินหน้าต่อจะมีน้อยลง ....  กลยุทธ์การลงทุน  เรายังแนะให้เข้าลงทุนในลักษณะ selective buy  และเน้นลงทุนช่วงสั้นไว้ก่อน จนกว่าตลาดจะผ่านช่วงของการปรับฐานไปแล้ว คือหลุดจากกรอบ 1680-1730 จุด .....  หุ้นขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้า อาทิ IVL , KBANK , MINT, JMART  หรือหุ้นในกลุ่มอื่นๆที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
          หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ KBANK, RJH, JWD*
          หุ้นแนะนำทางเทคนิค : BGRIM, HTECH, STAR   
          * เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
 
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (28 พ.ย.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,706.52 จุด เพิ่มขึ้น 10.85 จุด หรือ  +0.64% มูลค่าการซื้อขาย 49,056.61 ล้านบาท  ตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้จากต่างชาติที่กลับมามีสถานะเป็นซื้อสุทธิหลังจากที่มีสถานะขายสุทธิเป็นส่วนใหญ่ในรอบเดือนนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับผลบวกจากแรงซื้อจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT ช่วยขับเคลื่อนตลาด
          ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,836.71 จุด ปรับตัวขึ้น 255.93 จุด หรือ +1.09% ตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้สูงหลังจากคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ซึ่งมติดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาตามลำดับ ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ่น +0.56% ปิดที่ 387.02 จุด
          ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 12 เซนต์ หรือ -0.2% ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล  นักลงทุนเริ่มมีความไม่มั่นใจกับการประชุม OPEC ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบอยู่ ซึ่งซาอุดิอาระเบียได้ออกมายืนยันว่าได้เปิดกว้างสำหรับการเจรจาขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์นี้
          ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามประกาศตัวเลข GDP (สหรัฐฯ)  และมติการพิจารณาภาษีทรัมป์ในวันพรุ่งนี้, นายพาวเวลส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยชัดเจน, มีความกังวลด้านเกาหลีเหนือเข้ามา - ในวันนี้จะมีรายงานตัวเลข GDP ช่วงไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดไว้ที่ 3.3% ….. เมื่อคืนนี้ร่างกฎหมายของมาตรการภาษีทรัมป์สามารถผ่านร่างของคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐไปได้ ตลาดยังคงรอติดตามเรื่องร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่จะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐเพื่อทำการพิจารณาในวันพฤหัสที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นจะมีการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามรับรองให้มีผลบังคับใช้ ....  นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าและภาพระยะยาวมีความจำเป็นในการผ่อนคลายกฎระเบียบที่ควบคุมตลาดการเงิน ….  เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธในทิศทางของทะเลญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม โดยสถิตีที่ผ่านมาความกังวลระหว่างเกาหลีเหนือไม่ส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นไทย
          ปัจจัยในประเทศ ที่ประชุม ครม. วานนี้ไม่มีมติที่ประชุมสำคัญออกมา, เก็งการซื้อหุ้นจากกองทุนในช่วงปลายปี - ที่ประชุม ครม. สัญจรภาคใต้วานนี้ไม่มีมติ ครม. ที่สำคัญออกมาผิดกับที่เราคาดไว้ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้มีสั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาจัดอันดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ซึ่งยังคงเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ .... โดยปกติช่วงไตรมาสสุดท้ายจะมีเม็ดเงินจาก LTF-RMF ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นมากขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ รวมถึงการทำ window dressing ในช่วงเดือนธันวาคม
          หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ BGRIM, TVD, CNT, WICE, ASN, SGP, CENTEL, FTE, TPIPP, THANA, S, TRC, DEMCO, LALIN, TPBI, TMILL, TSR, BJCHI, HARN, BJC, BIGC
 
Stock in Focus
หุ้น               เหตุผล
KBANK(ราคาปิด 222.00)  เรามองว่า KBANK จะได้รับผลบวกจากจำนวนการใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง (สภาพัฒน์ฯ ประเมิน GDP ปี 2561 โต 4.1%)    ....  แม้คาดการณ์ผลประกอบการ KBANK สำหรับปี 2017 ยังไม่โดดเด่นนัก คาดที่ 37,536 ล้านบาท (-7% YoY)  เนื่องจาก KBANK ยังเน้นการตัดหนี้สูญ ทำให้ต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญอย่างต่อเนื่อง แต่มีมุมมองในเชิงบวกต่อปี 2018จากการตั้ง Credit Cost ในปี 2018 ที่ลดลง คาดกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 41,578 ล้านบาท (+11% YoY) โดยมาจากสินเชื่อจากรายใหญ่เป็นหลัก ….  (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 248.00 บาท)
RJH(ราคาปิด 25.25)    ผลการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้มีภาพออกมาในเชิงบวก โดยคาดว่าช่วง 4Q17 จะเติบโต YoY แต่อ่อนตัวลง QoQ โดย RJH จะเน้น Check up นอกสถานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากให้ margin ค่อนข้างสูง  …. KTBST คาดผลประกอบการปี 2017 ที่ 234 ล้านบาท (+51% YoY) และจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 251 ล้านบาท (+8% YoY)จากการเน้นโปรแกรม Check up มากขึ้นอีก ….  (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 35.50 บาท)
JWD*(ราคาปิด 12.20)    จากความคืบหน้าของโครงการ EEC โดยเรามองว่า JWD เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ JWD ยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการ โอเชี่ยน แอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล และปี 2018 บริษัทมีแผนจะเข้าไปศึกษาและขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 223 ล้านบาท เติบโตจากขาดทุนในปี 2016 ที่ -9 ล้านบาท และ ปี 2018 ที่ 333 ล้านบาท (+49% YoY) …. (ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 13.38 บาท)
Source: KTBST Research
         
Analyst  :
          Mongkol Puangpetra           Nontapat Rushtasomboon
          License No: 001937             License No: 081447  
          +662 648 1123                   +662 648 1127
          [email protected]        [email protected]
OO2975

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!