- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 November 2017 17:07
- Hits: 1130
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เน้นเก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap และซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตลอดวันตามที่เราคาด โดยปิดลบ 0.17 จุด ณ สิ้นวัน เชื่อว่าตลาดอยู่ในช่วงการปรับพอร์ตของนักลงทุนรายกลุ่ม โดยวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,220 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,261 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องในกรอบ 1,685-1,705 จุด โดยยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาและตัวเลขคาดการณ์ GDP 3Q17 ของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุม OPEC ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันตอบรับเชิงบวกและเก็งผลการประชุมไปพอสมควรแล้ว ขณะที่วานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับลง 1.4% ทำให้กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีน่าจะถ่วงตลาด เรามองว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กน่าจะเคลื่อนไหวได้ดีในระยะนี้และเป็นเป้าในการถูกเก็งกำไร
กลยุทธ์วันนี้ >> เน้นเก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap และซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตลอดวันตามที่เราคาด โดยปิดลบ 0.17 จุด ณ สิ้นวัน เชื่อว่าตลาดอยู่ในช่วงการปรับพอร์ตของนักลงทุนรายกลุ่ม โดยวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2,220 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,261 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องในกรอบ 1,685-1,705 จุด โดยยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาและตัวเลขคาดการณ์ GDP 3Q17 ของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุม OPEC ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันตอบรับเชิงบวกและเก็งผลการประชุมไปพอสมควรแล้ว ขณะที่วานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับลง 1.4% ทำให้กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีน่าจะถ่วงตลาด เรามองว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กน่าจะเคลื่อนไหวได้ดีในระยะนี้และเป็นเป้าในการถูกเก็งกำไร
กลยุทธ์ : เน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กและทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$750ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$427ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$68ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$18 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังมีความกังวลว่าเกาหลีเหนือจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธอีกครั้งในเร็วๆนี้
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$750ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$427ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$68ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$18 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังมีความกังวลว่าเกาหลีเหนือจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธอีกครั้งในเร็วๆนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ATP30 <<
คาดกำไร 4Q17 ทำ All Time High โตทั้ง Q-Q และ Y-Y แม้จะเป็น Low Season แต่มีการรับรู้รายได้จากลูกค้ารายใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมาอย่าง Autoliv เต็มไตรมาส บวกกับเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่อย่าง SCCC ตั้งแต่ พ.ย. 2017
คาดกำไรสุทธิปีนี้ +11% Y-Y และโตเด่น +45% Y-Y ในปีหน้า จากการเริ่มให้บริการลูกค้ารายใหญ่อีก 2 รายคือ IRPC และ TOP ตั้งแต่ ก.พ. 18 ขณะที่มาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากไม่มีค่าปรับปรุงรถก้อนใหญ่เหมือนใน 1H17 และประสิทธิภาพของรถใหม่ที่สูงกว่ารถเก่า
ผู้บริหารซื้อ ATP30-W1 ที่ราคา 0.87 บาท ในช่วง 22-23 พ.ย. 17 หลังจากขายมาตลอดทางใน 2Q-3Q17 สะท้อนจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกในระยะสั้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 2.00 บาท
คาดกำไร 4Q17 ทำ All Time High โตทั้ง Q-Q และ Y-Y แม้จะเป็น Low Season แต่มีการรับรู้รายได้จากลูกค้ารายใหญ่ที่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมาอย่าง Autoliv เต็มไตรมาส บวกกับเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่อย่าง SCCC ตั้งแต่ พ.ย. 2017
คาดกำไรสุทธิปีนี้ +11% Y-Y และโตเด่น +45% Y-Y ในปีหน้า จากการเริ่มให้บริการลูกค้ารายใหญ่อีก 2 รายคือ IRPC และ TOP ตั้งแต่ ก.พ. 18 ขณะที่มาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากไม่มีค่าปรับปรุงรถก้อนใหญ่เหมือนใน 1H17 และประสิทธิภาพของรถใหม่ที่สูงกว่ารถเก่า
ผู้บริหารซื้อ ATP30-W1 ที่ราคา 0.87 บาท ในช่วง 22-23 พ.ย. 17 หลังจากขายมาตลอดทางใน 2Q-3Q17 สะท้อนจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกในระยะสั้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 2.00 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) AMATA จากงาน Opp Day วานนี้ โทนเป็นกลางๆ ยังไม่มีข้อมูลใหม่ บริษัทลดเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้จากเดิม 1,000 เหลือประมาณ 800 ไร่ (9M17 ขายได้ 331 ไร่ คาดขายได้ 500 ไร่ใน 4Q17) ไม่น่ากังวลเพราะลูกค้าบางส่วนรอความชัดเจนเรื่องสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในโครงการ EEC แต่กำไร 4Q17 เราคาดว่าดีใกล้เคียง 3Q17 คือ 500-600 ล้านบาทจาก Backlog ที่รอส่งมอบ 1.96 พันล้านบาท ราคาหุ้นปรับลงแต่ยังมี upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 26.60 บาท (PE 15 เท่า) แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) MTLS เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 และปี 2018 ขึ้น 5% และ 2% เป็น 2.4 พันลบ. (+67% Y-Y) และ 3.4 พันลบ. (+40% Y-Y) ตามลำดับ ในระยะสั้นคาดว่าราคาหุ้นยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มกำไร 4Q17 ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ลบ. +5-8% Q-Q และ +40-45% Y-Y ตามฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อ เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและจับจ่ายใช้สอยปลายปี ส่วนปี 2018 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อความต้องการสินเชื่อ และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ผ่อนคลายลงจะหนุนความสามารถในการก่อหนี้และชำระหนี้ได้ดีขึ้น คงคำแนะนำซื้อ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2018 ขึ้นเป็น 48 บาท
(+) PCSGH แผนผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ EV ให้ลูกค้าในยุโรป ถือว่าได้ข้อสรุปในแง่ของมูลค่าคำสั่งซื้อล่วงหน้าเร็วกว่าคาด แม้ยังไม่มีความชัดเจนในอัตรากำไรและมูลค่าการส่งมอบในแต่ละช่วงเวลา แต่เรามองว่าจะเป็นตัวเปิด Upside สำหรับการเติบโตระยะยาวของ PCSGH ให้ Outperform กลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ จากทั้งแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยของ EV ที่มากกว่า 50% ต่อปี และโอกาสการได้ลูกค้าในภูมิภาคอื่นเพิ่ม เช่น สหรัฐฯและจีนที่มีการผลิต EV มากสุดในขณะนี้ ส่วนแนวโน้ม 4Q17 เบื้องต้นคาดทรงตัว Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เมื่อเทียบ Y-Y ยังโตสูง 20% จากการขยายธุรกิจไป Non-Auto ที่มีอัตรากำไรสูง เรายังคาดกำไรปีนี้ +69% Y-Y และปีหน้า +15% Y-Y แนะนำซื้อในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 9.60 บาท
(+) IT ประกาศลดทุนหุ้นซื้อคืน 63 ล้านหุ้น เพราะยังไม่ได้จำหน่ายออกในช่วงเวลาที่กำหนดคือ 23-27 พ.ย. 17 ทำให้จำนวนหุ้นลดเหลือ 286 ล้านหุ้นอย่างถาวร เรายังชอบ IT ในฐานะหุ้น Turnaround ที่กำไรฟื้นตัวจาการขยายตัวของ IT City Mobile และการลดค่าใช่จายที่ไม่จำเป็น รวมถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง แทบไม่มีหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย และเงินสดในมือสูง 2 บาทต่อหุ้น เพียงพอต่อการขยายกิจการในลักษณะ M&A ธุรกิจเกี่ยวเนื่องในอนาคต ขณะที่ แนวโน้มกำไร 4Q17 มีโอกาสขยายตัวดี Y-Y เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 6.90 บาท
(+) NDR ผลประกอบการ 2Q-3Q17 ทรุดตัวหนักจาก ราคายางที่เป็นต้นทุนหลักทรงตัวในระดับสูงราว 60-70 บาท/กก. และเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้ส่งออกไปมาเลเซียที่เป็นลูกค้ารายสำคัญ แต่ด้วยแรงกดดันทั้งคู่ที่เริ่มผ่อนคลายลง โดยเฉพาะต้นทุนยางที่อ่อนตัวเหลือเพียง 50 บาท/กก. ทำให้คาดว่ากำไร 4Q17 จะกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ 10-15 ลบ./ไตรมาส ขณะที่ การเข้าซื้อ FKRMM ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในมาเลเซีย 100% โดยการเพิ่มทุนแล้ว swap หุ้นบางส่วนที่ราคา 4 บาท จะทำให้ยอดขายในมาเลเซียเร่งตัวขึ้นไปชดเชยตลาดอินเดียที่ชะลอ เรายังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ NDR แต่ถือเป็นหุ้น Turnaround อีกตัวที่น่าจับตา ซึ่งถ้าสมมติให้กำไรปีหน้ากลับไปเท่าไป 2016 ที่ไม่มีแรงกดดันด้านต้นทุนราว 50-55 ลบ. PE2018 คิดเป็น 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของตัวเองที่ 18 เท่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
(0) AMATA จากงาน Opp Day วานนี้ โทนเป็นกลางๆ ยังไม่มีข้อมูลใหม่ บริษัทลดเป้ายอดขายที่ดินในปีนี้จากเดิม 1,000 เหลือประมาณ 800 ไร่ (9M17 ขายได้ 331 ไร่ คาดขายได้ 500 ไร่ใน 4Q17) ไม่น่ากังวลเพราะลูกค้าบางส่วนรอความชัดเจนเรื่องสิทธิประโยชน์จากการลงทุนในโครงการ EEC แต่กำไร 4Q17 เราคาดว่าดีใกล้เคียง 3Q17 คือ 500-600 ล้านบาทจาก Backlog ที่รอส่งมอบ 1.96 พันล้านบาท ราคาหุ้นปรับลงแต่ยังมี upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 26.60 บาท (PE 15 เท่า) แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว
(+) MTLS เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 และปี 2018 ขึ้น 5% และ 2% เป็น 2.4 พันลบ. (+67% Y-Y) และ 3.4 พันลบ. (+40% Y-Y) ตามลำดับ ในระยะสั้นคาดว่าราคาหุ้นยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มกำไร 4Q17 ที่คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 680-700 ลบ. +5-8% Q-Q และ +40-45% Y-Y ตามฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อ เพราะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรและจับจ่ายใช้สอยปลายปี ส่วนปี 2018 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อความต้องการสินเชื่อ และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ผ่อนคลายลงจะหนุนความสามารถในการก่อหนี้และชำระหนี้ได้ดีขึ้น คงคำแนะนำซื้อ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2018 ขึ้นเป็น 48 บาท
(+) PCSGH แผนผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ EV ให้ลูกค้าในยุโรป ถือว่าได้ข้อสรุปในแง่ของมูลค่าคำสั่งซื้อล่วงหน้าเร็วกว่าคาด แม้ยังไม่มีความชัดเจนในอัตรากำไรและมูลค่าการส่งมอบในแต่ละช่วงเวลา แต่เรามองว่าจะเป็นตัวเปิด Upside สำหรับการเติบโตระยะยาวของ PCSGH ให้ Outperform กลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ จากทั้งแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยของ EV ที่มากกว่า 50% ต่อปี และโอกาสการได้ลูกค้าในภูมิภาคอื่นเพิ่ม เช่น สหรัฐฯและจีนที่มีการผลิต EV มากสุดในขณะนี้ ส่วนแนวโน้ม 4Q17 เบื้องต้นคาดทรงตัว Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เมื่อเทียบ Y-Y ยังโตสูง 20% จากการขยายธุรกิจไป Non-Auto ที่มีอัตรากำไรสูง เรายังคาดกำไรปีนี้ +69% Y-Y และปีหน้า +15% Y-Y แนะนำซื้อในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 9.60 บาท
(+) IT ประกาศลดทุนหุ้นซื้อคืน 63 ล้านหุ้น เพราะยังไม่ได้จำหน่ายออกในช่วงเวลาที่กำหนดคือ 23-27 พ.ย. 17 ทำให้จำนวนหุ้นลดเหลือ 286 ล้านหุ้นอย่างถาวร เรายังชอบ IT ในฐานะหุ้น Turnaround ที่กำไรฟื้นตัวจาการขยายตัวของ IT City Mobile และการลดค่าใช่จายที่ไม่จำเป็น รวมถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง แทบไม่มีหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย และเงินสดในมือสูง 2 บาทต่อหุ้น เพียงพอต่อการขยายกิจการในลักษณะ M&A ธุรกิจเกี่ยวเนื่องในอนาคต ขณะที่ แนวโน้มกำไร 4Q17 มีโอกาสขยายตัวดี Y-Y เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 6.90 บาท
(+) NDR ผลประกอบการ 2Q-3Q17 ทรุดตัวหนักจาก ราคายางที่เป็นต้นทุนหลักทรงตัวในระดับสูงราว 60-70 บาท/กก. และเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ใช้ส่งออกไปมาเลเซียที่เป็นลูกค้ารายสำคัญ แต่ด้วยแรงกดดันทั้งคู่ที่เริ่มผ่อนคลายลง โดยเฉพาะต้นทุนยางที่อ่อนตัวเหลือเพียง 50 บาท/กก. ทำให้คาดว่ากำไร 4Q17 จะกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ 10-15 ลบ./ไตรมาส ขณะที่ การเข้าซื้อ FKRMM ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในมาเลเซีย 100% โดยการเพิ่มทุนแล้ว swap หุ้นบางส่วนที่ราคา 4 บาท จะทำให้ยอดขายในมาเลเซียเร่งตัวขึ้นไปชดเชยตลาดอินเดียที่ชะลอ เรายังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์ NDR แต่ถือเป็นหุ้น Turnaround อีกตัวที่น่าจับตา ซึ่งถ้าสมมติให้กำไรปีหน้ากลับไปเท่าไป 2016 ที่ไม่มีแรงกดดันด้านต้นทุนราว 50-55 ลบ. PE2018 คิดเป็น 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของตัวเองที่ 18 เท่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 พ.ย.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
29 พ.ย.- สหรัฐฯ: GDP3Q17 (ตัวเลขสุดท้าย), รายงานภาวะเศรษฐกิจ Beige Book ของเฟด
30 พ.ย.- จีน: PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
- OPEC: ประชุมเพื่อขยายกรอบเวลาควบคุมการผลิตน้ำมัน
- ไทย: ตัวเลขเศรษฐกิจของ ธปท., MSCI รอบใหม่มีผลบังคับใช้, JKN เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 8.00 บาท
1 ธ.ค.- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
5 ธ.ค.- ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดผสมแคบๆ โดยมีแรงซื้อจากกลุ่มค้าปลีก อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นถูกจำกัดเนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนวุฒิสภาลงมติเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวันพฤหัสบดีนี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากแรงขายกลุ่มธนาคาร และ กลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงก่อนการประชุมโอเปกวันพฤหัสบดีนี้
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมในกรอบแคบตามภาวะตลาดโลก โดยนักลงทุนเฝ้าจับตาร่างปฏิรูปภาษีสหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.59-32.66 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดลบ 0.84 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมโอเปก และ ท่อขนส่งน้ำมันสหรัฐกำลังกลับมาหลังจากหยุดซ่อม
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 7.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,294.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงซื้อเก็งกำไรก่อนการลงมติร่างปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2905