- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 November 2017 17:13
- Hits: 3109
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Tourism Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1702/1707จุด รับ 1687/1684จุด Manufacturing PMI สหรัฐฯ ต่ำคาด กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เพิ่ม Sentiment บวกต่อไทย ผสานราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวรับแรงเก็ง OPEC ขยายเวลาลดกำลังการผลิต30พย.นี้ แต่ Nomura มองมีความเสี่ยงที่ยังไม่ได้ข้อสรุปหลัง Russia ดูยังไม่เร่งตัดสินใจ ดังนั้นสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้น้อยหรือเล่นรอบ แนะทยอยขายทำกำไรหุ้นธีมปิโตรเลียมขั้นต้นก่อนผลประชุม30พย.นี้ ขณะที่ความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐานไทยและมาตรการกระตุ้นผู้มีรายได้น้อย หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นต่อเนื่อง วันนี้แนะนำ “Tourism Play” : ERW, MINT, PM
“Tourism Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1702/1707จุด รับ 1687/1684จุด Manufacturing PMI สหรัฐฯ ต่ำคาด กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เพิ่ม Sentiment บวกต่อไทย ผสานราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวรับแรงเก็ง OPEC ขยายเวลาลดกำลังการผลิต30พย.นี้ แต่ Nomura มองมีความเสี่ยงที่ยังไม่ได้ข้อสรุปหลัง Russia ดูยังไม่เร่งตัดสินใจ ดังนั้นสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้น้อยหรือเล่นรอบ แนะทยอยขายทำกำไรหุ้นธีมปิโตรเลียมขั้นต้นก่อนผลประชุม30พย.นี้ ขณะที่ความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐานไทยและมาตรการกระตุ้นผู้มีรายได้น้อย หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นต่อเนื่อง วันนี้แนะนำ “Tourism Play” : ERW, MINT, PM
Nomura : Key Factors
(+) US: Markit Manufacturing PMI เดือนพย. รายงานที่ระดับ 53.8 ต่ำกว่าคาดที่ 55.0
(+) Currency: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯต่ำคาด กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.6% สู่ $58.95/bbl / BRT +0.49% สู่ $63.86/bbl
(+) TH: ธกส.เตรียมเสนอช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส2ใshกับรองนายกฯสมคิดในสัปดาห์หน้า
(+) TH: รมว.คมนาคมเตรียมเชิญนายกฯตอกเสาเข็มโครงการไฮสปีดไทย-จีน เฟส1 21ธค.นี้
(*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -732ลบ,Short Future -4,350สัญญา,ซื้อBond+490ลบ
Opp Day: BCPG, LHK, EA, AMATAV, NDR, AMATA, TTA
Nomura Daily Top Picks: ERW, MINT, PM
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1702/1707จุด แนวรับ 1687/1684จุด ดัชนี Markit Manufacturing PMI สหรัฐฯ เดือนพย. รายงานที่ระดับ 53.8 ต่ำกว่าคาดที่ 55.0 กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องสู่ 92.8 จุด หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว ผสานกระตุ้นค่าเงินบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่อง (WTI +1.6% สู่ $58.95/bbl / BRT +0.49% สู่ $63.86/bbl) รับความคาดหวังเชิงบวกต่อการขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC 30พย.นี้ แต่ในมุมมองของ Nomura มองว่า มีความเสี่ยงที่อาจจะยังไม่มีข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากด้าน Russia ดูไม่เร่งรีบในการตัดสินใจ และอาจจะรอไปจนถึงเดือน มี.ค.2018 ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ Nomura อาจกดดันราคาน้ำมันดิบสั้น ดังนั้นสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้น้อยหรือเล่นรอบ แนะทยอยขายทำกำไรหุ้นธีมปิโตรเลียมขั้นต้นก่อนผลประชุม30พย.นี้ แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาดน้ำมันดิบที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุล ยังคงหนุนราคาน้ำมันดิบในระยะกลาง-ยาว นอกจากนี้ แรงหนุนจากในประเทศ ได้แก่ ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา วงเงินกว่า 1.8แสนล้านบาท ซึ่งรมว.คมนาคมเตรียมเชิญนายกรัฐมนตรีตอกเสาเข็ม 21ธค.นี้ เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมา ประกอบกับธกส.เตรียมเสนอแนวทางช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส2ให้กับรองนายกฯสมคิดพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อส่งเสริมรายได้เกษตรกร คาดเป็นตัวกระตุ้นการบริโภคในประเทศได้ในระยะกลาง-ยาว หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เป็นบวกต่อการลงทุนในประเทศไทย
Asset allocation : ถือหุ้น 70% และเงินสด 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์เน้นกลุ่มท่องเที่ยว และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 7 Theme เด่น ขณะที่ กลุ่มปิโตรขั้นต้น (PTTEP PTT) แนะนำ Take profit ระยะสั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนก่อน OPEC Meeting 30 พ.ย.นี้
Tourism & Seasonal laggard Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง บวกกับ นักท่องเที่ยวเดือน ตค 2017 เพิ่มขึ้น 21%y-y หนุน ERW, MINT และ BDMS
กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X
Stimulus Paly : รัฐเตรียมคลอดมาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 ธ.ค. เน้นฝึกทักษะ เพิ่มความสามารถระยะยาว (+GLOBAL, HMPRO) และศึกษาแผนปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แก่กลุ่ม SMEs มูลค่า 7.8 หมื่นลบ. (+TK, S11)
Consumer Play คาด Small Cap Outperform และเป็นเป้าของกองทุน Mid-Small Cap Funds แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
Domestic Play : รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว BBL, TMB, CK, BLAND, SIRI, NYT
MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP และถอดหุ้น -BEC มีผลราคาปิด 30 พ.ย.
กลยุทธ์ SET50/100 แนะนำ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV
(+) US: Markit Manufacturing PMI เดือนพย. รายงานที่ระดับ 53.8 ต่ำกว่าคาดที่ 55.0
(+) Currency: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯต่ำคาด กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าต่อเนื่อง
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.6% สู่ $58.95/bbl / BRT +0.49% สู่ $63.86/bbl
(+) TH: ธกส.เตรียมเสนอช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส2ใshกับรองนายกฯสมคิดในสัปดาห์หน้า
(+) TH: รมว.คมนาคมเตรียมเชิญนายกฯตอกเสาเข็มโครงการไฮสปีดไทย-จีน เฟส1 21ธค.นี้
(*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -732ลบ,Short Future -4,350สัญญา,ซื้อBond+490ลบ
Opp Day: BCPG, LHK, EA, AMATAV, NDR, AMATA, TTA
Nomura Daily Top Picks: ERW, MINT, PM
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1702/1707จุด แนวรับ 1687/1684จุด ดัชนี Markit Manufacturing PMI สหรัฐฯ เดือนพย. รายงานที่ระดับ 53.8 ต่ำกว่าคาดที่ 55.0 กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องสู่ 92.8 จุด หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว ผสานกระตุ้นค่าเงินบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่อง (WTI +1.6% สู่ $58.95/bbl / BRT +0.49% สู่ $63.86/bbl) รับความคาดหวังเชิงบวกต่อการขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC 30พย.นี้ แต่ในมุมมองของ Nomura มองว่า มีความเสี่ยงที่อาจจะยังไม่มีข้อสรุปในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากด้าน Russia ดูไม่เร่งรีบในการตัดสินใจ และอาจจะรอไปจนถึงเดือน มี.ค.2018 ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ Nomura อาจกดดันราคาน้ำมันดิบสั้น ดังนั้นสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้น้อยหรือเล่นรอบ แนะทยอยขายทำกำไรหุ้นธีมปิโตรเลียมขั้นต้นก่อนผลประชุม30พย.นี้ แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาดน้ำมันดิบที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุล ยังคงหนุนราคาน้ำมันดิบในระยะกลาง-ยาว นอกจากนี้ แรงหนุนจากในประเทศ ได้แก่ ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา วงเงินกว่า 1.8แสนล้านบาท ซึ่งรมว.คมนาคมเตรียมเชิญนายกรัฐมนตรีตอกเสาเข็ม 21ธค.นี้ เพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมา ประกอบกับธกส.เตรียมเสนอแนวทางช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส2ให้กับรองนายกฯสมคิดพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อส่งเสริมรายได้เกษตรกร คาดเป็นตัวกระตุ้นการบริโภคในประเทศได้ในระยะกลาง-ยาว หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เป็นบวกต่อการลงทุนในประเทศไทย
Asset allocation : ถือหุ้น 70% และเงินสด 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : กลยุทธ์เน้นกลุ่มท่องเที่ยว และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 7 Theme เด่น ขณะที่ กลุ่มปิโตรขั้นต้น (PTTEP PTT) แนะนำ Take profit ระยะสั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนก่อน OPEC Meeting 30 พ.ย.นี้
Tourism & Seasonal laggard Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง บวกกับ นักท่องเที่ยวเดือน ตค 2017 เพิ่มขึ้น 21%y-y หนุน ERW, MINT และ BDMS
กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X
Stimulus Paly : รัฐเตรียมคลอดมาตรการช่วยผู้มีรายได้น้อยเฟส 2 ธ.ค. เน้นฝึกทักษะ เพิ่มความสามารถระยะยาว (+GLOBAL, HMPRO) และศึกษาแผนปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ แก่กลุ่ม SMEs มูลค่า 7.8 หมื่นลบ. (+TK, S11)
Consumer Play คาด Small Cap Outperform และเป็นเป้าของกองทุน Mid-Small Cap Funds แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
Domestic Play : รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว BBL, TMB, CK, BLAND, SIRI, NYT
MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP และถอดหุ้น -BEC มีผลราคาปิด 30 พ.ย.
กลยุทธ์ SET50/100 แนะนำ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ERW (TP18F 9.0*): Support 7.75/7.5 Resistant 8.4/9.0
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
ERW (TP18F 9.0*): Support 7.75/7.5 Resistant 8.4/9.0
Theme: Earnings Play
Earnings outlook: คาดกําไร 4Q17F จะโตเด่น รวมถึงในช่วง 2017 – 19F ยังโตต่อเนื่อง +28% CAGR ประกอบกับ ERW ยังขยายธุรกิจ ต่อเนื่อง โดยมี model Hop Inn ที่ประสบความสําเร็จมาก ซึ่งเราคาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตของ ERW ในอนาคต
Valuation: ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-19F ขึ้น 3-7% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท จากราคาซื้อขาย PER18F 27.6x เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ 31.4 เท่า และค่าเฉลี่ยอดีต 37.5 เท่า ในขณะที่ฐานกำไร 18F เติบโตต่อเนื่อง +16% y-y vs กลุ่ม 13.6% y-y
Catalyst: เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดู high season ของกลุ่มท่องเที่ยว จากล่าสุดตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนต.ค.17 เติบโตกว่า +21% หนุนให้ตัวเลข 10 เดือน ขยายตัว +7% y-y เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ERW เด่น
MINT (TP18F 50.0*): Support: 42.25/41.5 Resistant: 44.25/45.25
Earnings outlook: คาดกําไร 4Q17F จะโตเด่น รวมถึงในช่วง 2017 – 19F ยังโตต่อเนื่อง +28% CAGR ประกอบกับ ERW ยังขยายธุรกิจ ต่อเนื่อง โดยมี model Hop Inn ที่ประสบความสําเร็จมาก ซึ่งเราคาดจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันการเติบโตของ ERW ในอนาคต
Valuation: ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-19F ขึ้น 3-7% และราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9 บาท จากราคาซื้อขาย PER18F 27.6x เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ 31.4 เท่า และค่าเฉลี่ยอดีต 37.5 เท่า ในขณะที่ฐานกำไร 18F เติบโตต่อเนื่อง +16% y-y vs กลุ่ม 13.6% y-y
Catalyst: เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดู high season ของกลุ่มท่องเที่ยว จากล่าสุดตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนต.ค.17 เติบโตกว่า +21% หนุนให้ตัวเลข 10 เดือน ขยายตัว +7% y-y เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ERW เด่น
MINT (TP18F 50.0*): Support: 42.25/41.5 Resistant: 44.25/45.25
Theme: Earnings play
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15% จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC ต่อเนื่องในปี 2018F อีก +16%y-y โดยระยะสั้น คาด 4Q17F กำไรเพิ่มทั้ง y-y, q-q
Valuation: ราคาหุ้นที่ Outperform ตามกลุ่มฯ หลัง Laggard มานาน มองยังเป็นจุดเข้าลงทุนได้ โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31.1x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 16%
Catalyst: เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรม โดยตัวเลขนักท่องเที่ยว ต.ค. +21% y-y + ธุรกิจอาหารได้อานิสงส์จากช็อปช่วยชาติ
PM (TP18F 19.9*): Support: 12.9/12.6 Resistant: 13.6/13.9
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15% จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC ต่อเนื่องในปี 2018F อีก +16%y-y โดยระยะสั้น คาด 4Q17F กำไรเพิ่มทั้ง y-y, q-q
Valuation: ราคาหุ้นที่ Outperform ตามกลุ่มฯ หลัง Laggard มานาน มองยังเป็นจุดเข้าลงทุนได้ โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31.1x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 16%
Catalyst: เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงแรม โดยตัวเลขนักท่องเที่ยว ต.ค. +21% y-y + ธุรกิจอาหารได้อานิสงส์จากช็อปช่วยชาติ
PM (TP18F 19.9*): Support: 12.9/12.6 Resistant: 13.6/13.9
Theme: Earnings Play
Earnings Outlook: ธุรกิจก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การนำ Taro บุกต่างประเทศ (เกาหลี ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน)ซึ่งจะทยอยชัดเจนปลาย 4Q17F และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่เริ่ม 2018F หนุนกำไร 3 ปีนี้ จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี ขณะที่ ระยะสั้น 4Q17F คาดกำไรปกติ จะเป็นจุดสูงสุดของปี
Valuation: ราคาหุ้นปรับตัวลงมา มองเป็นจังหวะทยอยสะสมเพิ่ม รอความคืบหน้าปัจจัยบวกในช่วง 1Q18F จากภาพระยะยาวของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 6.1% ช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น โดยมี PER ปี 2018F เพียง 14.8x เท่า ซื้อขายถูกกว่า TKN กว่า -50% PER18F ของ TKN ที่ซื้อขายอยู่ที่ 30x
Catalyst: อยู่ในระหว่างดำเนินการกับ Distributor (ผู้กระจายสินค้า) ในประเทศจีน เป็นผู้กระจายและจัดจำหน่ายสินค้าอันดับต้นๆ ของประเทศจีน (รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง) ครอบคลุมถึงพื้นที่สำคัญอย่างทั่วถึง ในเบื้องต้น คาดได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการใน 1Q18F + เดินหน้าจำหน่ายสินค้าใน 4 ประเทศหลัก (เกาหลี เวียดนาม ลาว กัมพูชา) รับรู้รายได้เต็มไตรมาสใน 4Q17F
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Earnings Outlook: ธุรกิจก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การนำ Taro บุกต่างประเทศ (เกาหลี ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน)ซึ่งจะทยอยชัดเจนปลาย 4Q17F และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่เริ่ม 2018F หนุนกำไร 3 ปีนี้ จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี ขณะที่ ระยะสั้น 4Q17F คาดกำไรปกติ จะเป็นจุดสูงสุดของปี
Valuation: ราคาหุ้นปรับตัวลงมา มองเป็นจังหวะทยอยสะสมเพิ่ม รอความคืบหน้าปัจจัยบวกในช่วง 1Q18F จากภาพระยะยาวของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 6.1% ช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น โดยมี PER ปี 2018F เพียง 14.8x เท่า ซื้อขายถูกกว่า TKN กว่า -50% PER18F ของ TKN ที่ซื้อขายอยู่ที่ 30x
Catalyst: อยู่ในระหว่างดำเนินการกับ Distributor (ผู้กระจายสินค้า) ในประเทศจีน เป็นผู้กระจายและจัดจำหน่ายสินค้าอันดับต้นๆ ของประเทศจีน (รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง) ครอบคลุมถึงพื้นที่สำคัญอย่างทั่วถึง ในเบื้องต้น คาดได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการใน 1Q18F + เดินหน้าจำหน่ายสินค้าใน 4 ประเทศหลัก (เกาหลี เวียดนาม ลาว กัมพูชา) รับรู้รายได้เต็มไตรมาสใน 4Q17F
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO2853
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO2853