- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 November 2017 17:11
- Hits: 4688
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ยังคงเน้นเก็งกำไรในกรอบ ระหว่างรอมาตรการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
การอ่อนตัวของดัชนีหลังทดสอบแนวต้าน 1720 ทำให้ภาพของ SET Index ยังคงเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบ 1690-1720 จุด ซึ่งการจะเปลี่ยนแนวโน้มสู่ทิศทางที่ชัดเจนต้องอาศัยตัวแปรสำคัญเข้ามาเปลี่ยน sentiment ในระยะกลาง-ยาว เช่น กรอบการแกว่งตัวของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น (รอความชัดเจนจากการประชุมโอเปคในวันที่ 30 พ.ย.), ความชัดเจนของมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ, หรือ การปรับมุมมองกำไรของบริษัทฯในตลาด ดังนั้นเรายังคงกลยุทธ์เลือกตัวเก็งกำไรในกรอบ เน้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโต หรือ Domestic play เช่น ค้าปลีก เช่าซื้อ, , ท่องเที่ยว (รับปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโต+High season), วัสดุก่อสร้าง *ชอบเหล็ก (การปฎิรูปภาคอุปทานในจีน) อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจมีแรงกดดันจากการที่ ธปท. มีแนวคิดเตรียมเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟู (FIDF) เพิ่มจาก 0.47% เป็น 1.00%
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) ชอบกลุ่ม เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคมฯ รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง และทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร// หุ้นแนะนำ BDMS, TK, MILL
แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ยังคงเน้นเก็งกำไรในกรอบ ระหว่างรอมาตรการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
การอ่อนตัวของดัชนีหลังทดสอบแนวต้าน 1720 ทำให้ภาพของ SET Index ยังคงเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบ 1690-1720 จุด ซึ่งการจะเปลี่ยนแนวโน้มสู่ทิศทางที่ชัดเจนต้องอาศัยตัวแปรสำคัญเข้ามาเปลี่ยน sentiment ในระยะกลาง-ยาว เช่น กรอบการแกว่งตัวของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น (รอความชัดเจนจากการประชุมโอเปคในวันที่ 30 พ.ย.), ความชัดเจนของมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ, หรือ การปรับมุมมองกำไรของบริษัทฯในตลาด ดังนั้นเรายังคงกลยุทธ์เลือกตัวเก็งกำไรในกรอบ เน้นกลุ่มที่ได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโต หรือ Domestic play เช่น ค้าปลีก เช่าซื้อ, , ท่องเที่ยว (รับปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโต+High season), วัสดุก่อสร้าง *ชอบเหล็ก (การปฎิรูปภาคอุปทานในจีน) อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจมีแรงกดดันจากการที่ ธปท. มีแนวคิดเตรียมเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟู (FIDF) เพิ่มจาก 0.47% เป็น 1.00%
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) ชอบกลุ่ม เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคมฯ รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง และทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร// หุ้นแนะนำ BDMS, TK, MILL
แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
หนุนขึ้นดอกเบี้ยแต่กังวลเงินเฟ้อที่ต่ำ – รายงานการประชุมเฟด (31 ต.ค.-1 พ.ย.) ระบุกรรมการเฟดส่วนใหญ่หนุนขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่มีการแสดงความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหากเทียบกับบรรยากาศในการประชุมก่อนหน้านับว่า Dovish มากกว่าครั้งก่อน
ความต้องการปูนซีเมนต์แนวโน้มดีขึ้น - ส.อ.ท.คาดแนวโน้มความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศดีขึ้น ผลจากการขยายตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในช่วงก่อนหน้า มองเป็นบวกต่อ SCC (ราคาเป้าหมาย 600 บาท)
ส่งออกเดือน ต.ค. สูงกว่าคาด – กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญฯ ขยายตัว 13.1% yoy ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 1.98 หมื่นล้านเหรียญฯ ขยายตัว 13.5% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 214.4 ล้านเหรียญฯ / งวด 10 เดือน (10M/60) ส่งออกขยายตัว 9.7% yoy นำเข้าขยายตัว 14.6% ส่งผลให้เกินดุล 1.24 หมื่นล้านเหรียญฯ
ส่งออกรถยนต์ชะลอตัว แต่ผลิตเพิ่มขึ้น – ส.อ.ท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ต.ค. ที่ระดับ 9.08 หมื่นล้านคัน (-11.97% yoy) / จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้เดือน ต.ค. ทั้งสิ้น 1.63 แสนคัน (+1.48% yoy) จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 6.16% และผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 48.36% อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.ปรับเพิ่มประมาณการผลิตรถยนต์ปี 60 ขึ้นอีก 2 หมื่นคัน เป็น 1.95 ล้านคัน (+0.29% yoy) / ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ต.ค. อยู่ที่ 6.85 หมื่นคัน (+13.1% yoy, -11.7% mom) มองเป็นบวกต่อ SAT (ราคาเป้าหมาย 25.5 บาทต่อหุ้น)
กำไร MAI - ผู้จัดการ mai เผย Q3/60 บจ.มียอดขายรวมเพิ่ม 14.99% แต่กำไรลดลง 56.72% รับผลต้นทุนเพิ่ม-บันทึกขาดทุนรายการพิเศษ
APURE - ตลท.ให้บอร์ด APURE ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีจะลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ IEC
TMB – CEO บุญทักษ์ จะอยุ่ในตำแหน่งถึงสิ้นปีนี้ เป๋นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้น
ประเด็นติดตาม: 23 พ.ย. –วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
หนุนขึ้นดอกเบี้ยแต่กังวลเงินเฟ้อที่ต่ำ – รายงานการประชุมเฟด (31 ต.ค.-1 พ.ย.) ระบุกรรมการเฟดส่วนใหญ่หนุนขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่มีการแสดงความกังวลถึงอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหากเทียบกับบรรยากาศในการประชุมก่อนหน้านับว่า Dovish มากกว่าครั้งก่อน
ความต้องการปูนซีเมนต์แนวโน้มดีขึ้น - ส.อ.ท.คาดแนวโน้มความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศดีขึ้น ผลจากการขยายตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในช่วงก่อนหน้า มองเป็นบวกต่อ SCC (ราคาเป้าหมาย 600 บาท)
ส่งออกเดือน ต.ค. สูงกว่าคาด – กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญฯ ขยายตัว 13.1% yoy ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 1.98 หมื่นล้านเหรียญฯ ขยายตัว 13.5% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 214.4 ล้านเหรียญฯ / งวด 10 เดือน (10M/60) ส่งออกขยายตัว 9.7% yoy นำเข้าขยายตัว 14.6% ส่งผลให้เกินดุล 1.24 หมื่นล้านเหรียญฯ
ส่งออกรถยนต์ชะลอตัว แต่ผลิตเพิ่มขึ้น – ส.อ.ท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ต.ค. ที่ระดับ 9.08 หมื่นล้านคัน (-11.97% yoy) / จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้เดือน ต.ค. ทั้งสิ้น 1.63 แสนคัน (+1.48% yoy) จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 6.16% และผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 48.36% อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.ปรับเพิ่มประมาณการผลิตรถยนต์ปี 60 ขึ้นอีก 2 หมื่นคัน เป็น 1.95 ล้านคัน (+0.29% yoy) / ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ต.ค. อยู่ที่ 6.85 หมื่นคัน (+13.1% yoy, -11.7% mom) มองเป็นบวกต่อ SAT (ราคาเป้าหมาย 25.5 บาทต่อหุ้น)
กำไร MAI - ผู้จัดการ mai เผย Q3/60 บจ.มียอดขายรวมเพิ่ม 14.99% แต่กำไรลดลง 56.72% รับผลต้นทุนเพิ่ม-บันทึกขาดทุนรายการพิเศษ
APURE - ตลท.ให้บอร์ด APURE ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีจะลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ IEC
TMB – CEO บุญทักษ์ จะอยุ่ในตำแหน่งถึงสิ้นปีนี้ เป๋นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้น
ประเด็นติดตาม: 23 พ.ย. –วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO2436
OO2436