- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 November 2017 16:41
- Hits: 3964
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1705 แนวต้าน 1720
SET Index: 1710.89 ปรับลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1710 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1718-1720 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1705 จุด และมีแนวรับที่ 1700 และ 1690 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้น ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 1720 จุดขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1730 จุด
แนวต้าน : 1715 และ 1718
แนวรับ : 1710 และ 1705
BDMS = 22.00/22.40, PTT = 414/418, ADVANC = 175/178, IVL = 49.00/50.00, PTTGC = 79.00/80.00
The Siam Cement (SCC TB; THB 494.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 504 และ 510
แนวรับ : 494 และ 490
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SCC โดยมีแนวรับที่ 494 และ 490 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 504 และ 510 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 480 ลงไป
The Siam Commercial Bank (SCB TB; THB 149.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 153 และ 156
แนวรับ : 149.50 และ 148.50
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันต่อเนื่อง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 153 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SCB โดยมีแนวรับที่ 149.50 และ 148.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 153 และ 156 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 147 ลงไป
SET Index: 1710.89 ปรับลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1710 จุด หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1718-1720 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1705 จุด และมีแนวรับที่ 1700 และ 1690 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้น ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 1720 จุดขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1730 จุด
แนวต้าน : 1715 และ 1718
แนวรับ : 1710 และ 1705
BDMS = 22.00/22.40, PTT = 414/418, ADVANC = 175/178, IVL = 49.00/50.00, PTTGC = 79.00/80.00
The Siam Cement (SCC TB; THB 494.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 504 และ 510
แนวรับ : 494 และ 490
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SCC โดยมีแนวรับที่ 494 และ 490 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 504 และ 510 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 480 ลงไป
The Siam Commercial Bank (SCB TB; THB 149.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 153 และ 156
แนวรับ : 149.50 และ 148.50
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันต่อเนื่อง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 153 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SCB โดยมีแนวรับที่ 149.50 และ 148.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 153 และ 156 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 147 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…รอข่าวหนุน
กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน 9 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 3.74% เทียบ 9 เดือนแรกของปี 2016 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ส่วนกำไรสุทธิในQ3/17 เทียบ Q2/17 ลดลง 3.76% แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.24% กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบของกลุ่ม น้ำมันปิโตรเคมี ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ หากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อใน Q4/17 คาดกำไรของบริษัทจดทะเบียน น่าจะค่อยๆดีขึ้นและจะดีขึ้นมากๆ ในปี 2018 จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ต่างขึ้นสร้างสถิติสูงสุด โดยดัชนีที่ขึ้นสูงที่สุด คือ ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น อย่าง MSCI Asia ex Japan ที่ขึ้นมาประมาณ 36% (YTD) ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียหรือ MSCI EM Asia ขึ้นสร้างสถิติสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย MSCI Thailand ขึ้นมาทั้งสิ้น 25% ขณะที่ดัชนี SET ขึ้นมา 11% หากมาดูมุมมองของการคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS รูปดอลลาร์)ของตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand)เทียบตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย (MSCI EM Asia) ในปี 2017 และ 2018 จากรูปด้านซ้าย พบว่า กำไรต่อหุ้นในตลาดหุ้นไทยปี 2018 ยังทรงๆ ที่ประมาณ 39 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนของตลาดเกิดใหม่พุ่งขึ้นไปถึง 45 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การที่การคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทยในปี 2018 ยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ อาจมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกำไรของหุ้นที่โตจากภายใน อย่างไรก็ตามหากเกิดความชัดเจนแผนการลงทุนที่จะหนุนการลงทุนภาคเอกชน กำไรต่อหุ้นในครึ่งปีหลังของปีหน้า น่าจะพุ่งขึ้นแรง โดยเฉพาะกำลังซื้อและราคาสินค้าเกษตร น่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นหากรัฐบาลออกมาตรการหนุน กำไรต่อหุ้นที่ยังทรงๆตัว ส่งผลให้อัตราการทำกำไรของตลาดในปีหน้ายังอยู่ที่ประมาณ 8.2 % (ดูรูปด้านขวา) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยรับข่าวโดยแกว่งตัวในกรอบ1670-1730 จุด
ทิศทางดัชนี SET มีแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้า เพียงแต่ตอนนี้ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ และกำลังรอดูการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษี หากเป็นข่าวดี ดัชนีจะดีดตัวขึ้นตามต่างประเทศ แต่หลังจากนั้นจะค่อยๆ ซึมลงรอบใหม่ จนกว่าจะเห็นงบ Q4/17 ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2018 ปัจจัยที่เรามองว่าตลาดจะซึมลง คือ การขาดปัจจัยหนุนกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ราคาหุ้นในกลุ่มหลักๆ ต่างขึ้นไปยืนในที่สูง วอลุ่มการซื้อขายแผ่วลงมาก ต่างชาติยังขายหุ้น และอาจเกิดความผันผวนของตลาดหุ้นในต่างประเทศ
ช่วงรอข่าวในต่างประเทศ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่วนราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบจนกว่าจะทราบผลการประชุมกลุ่ม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. หากตลาดในต่างประเทศเริ่มแกว่งกรอบแคบลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะซึมลงหลังไม่ผ่าน 1720 จุด โดยวันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ย่อตัวลงจากแรงขายทำกำไร เพื่อรอข่าวหนุนใหม่ๆ โดยมีแนวต้านที่ 1718-1721 จุดและแนวรับที่ 1707-1702 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ESSO CK MINT และ LH
กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน 9 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 3.74% เทียบ 9 เดือนแรกของปี 2016 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% ส่วนกำไรสุทธิในQ3/17 เทียบ Q2/17 ลดลง 3.76% แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.24% กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบของกลุ่ม น้ำมันปิโตรเคมี ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ หากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อใน Q4/17 คาดกำไรของบริษัทจดทะเบียน น่าจะค่อยๆดีขึ้นและจะดีขึ้นมากๆ ในปี 2018 จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกตอนนี้ต่างขึ้นสร้างสถิติสูงสุด โดยดัชนีที่ขึ้นสูงที่สุด คือ ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น อย่าง MSCI Asia ex Japan ที่ขึ้นมาประมาณ 36% (YTD) ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียหรือ MSCI EM Asia ขึ้นสร้างสถิติสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย MSCI Thailand ขึ้นมาทั้งสิ้น 25% ขณะที่ดัชนี SET ขึ้นมา 11% หากมาดูมุมมองของการคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS รูปดอลลาร์)ของตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand)เทียบตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย (MSCI EM Asia) ในปี 2017 และ 2018 จากรูปด้านซ้าย พบว่า กำไรต่อหุ้นในตลาดหุ้นไทยปี 2018 ยังทรงๆ ที่ประมาณ 39 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนของตลาดเกิดใหม่พุ่งขึ้นไปถึง 45 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การที่การคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทยในปี 2018 ยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ อาจมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกำไรของหุ้นที่โตจากภายใน อย่างไรก็ตามหากเกิดความชัดเจนแผนการลงทุนที่จะหนุนการลงทุนภาคเอกชน กำไรต่อหุ้นในครึ่งปีหลังของปีหน้า น่าจะพุ่งขึ้นแรง โดยเฉพาะกำลังซื้อและราคาสินค้าเกษตร น่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นหากรัฐบาลออกมาตรการหนุน กำไรต่อหุ้นที่ยังทรงๆตัว ส่งผลให้อัตราการทำกำไรของตลาดในปีหน้ายังอยู่ที่ประมาณ 8.2 % (ดูรูปด้านขวา) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยรับข่าวโดยแกว่งตัวในกรอบ1670-1730 จุด
ทิศทางดัชนี SET มีแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้า เพียงแต่ตอนนี้ยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ และกำลังรอดูการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษี หากเป็นข่าวดี ดัชนีจะดีดตัวขึ้นตามต่างประเทศ แต่หลังจากนั้นจะค่อยๆ ซึมลงรอบใหม่ จนกว่าจะเห็นงบ Q4/17 ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2018 ปัจจัยที่เรามองว่าตลาดจะซึมลง คือ การขาดปัจจัยหนุนกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ราคาหุ้นในกลุ่มหลักๆ ต่างขึ้นไปยืนในที่สูง วอลุ่มการซื้อขายแผ่วลงมาก ต่างชาติยังขายหุ้น และอาจเกิดความผันผวนของตลาดหุ้นในต่างประเทศ
ช่วงรอข่าวในต่างประเทศ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่วนราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบจนกว่าจะทราบผลการประชุมกลุ่ม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. หากตลาดในต่างประเทศเริ่มแกว่งกรอบแคบลง ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะซึมลงหลังไม่ผ่าน 1720 จุด โดยวันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ย่อตัวลงจากแรงขายทำกำไร เพื่อรอข่าวหนุนใหม่ๆ โดยมีแนวต้านที่ 1718-1721 จุดและแนวรับที่ 1707-1702 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ESSO CK MINT และ LH
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,710.89 จุด ลดลง 2.24 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย24,312.10 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายนำในกลุ่มสื่อสาร ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งลบเป็นส่วนใหญ่ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย มีการรีบาวน์กลับ ช่วงเช้าตลาดถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรตามรอบทางเทคนิค อย่างไรก็ตามเรามองว่า SET index จะเริ่มมีแรงซื้อกลับบริเวณแนวรับสำคัญที่ 1708 จุด ทำให้คาดว่าในช่วงบ่ายมีโอกาสที่ SET index จะรีบาวน์กลับมาอยู่ในแดนบวกได้ เรายังมองว่าตลาดโดยรวมยังสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรได้ต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัวรวมถึงสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับสูงSET มีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1720 จุด และ 1730 จุด ตามลำดับหลังจากนี้เรามองกลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก มีโอกาสกลับมาเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดในรอบนี้แนะนำ BBL SCB CPALL CENTEL
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
The Siam Cement (SCC TB; THB 494.00) – ซื้อ
The Siam Commercial Bank (SCB TB; THB 149.50) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : III, JMART-W2* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,710.89 จุด ลดลง 2.24 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย24,312.10 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายนำในกลุ่มสื่อสาร ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งลบเป็นส่วนใหญ่ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค.นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย มีการรีบาวน์กลับ ช่วงเช้าตลาดถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรตามรอบทางเทคนิค อย่างไรก็ตามเรามองว่า SET index จะเริ่มมีแรงซื้อกลับบริเวณแนวรับสำคัญที่ 1708 จุด ทำให้คาดว่าในช่วงบ่ายมีโอกาสที่ SET index จะรีบาวน์กลับมาอยู่ในแดนบวกได้ เรายังมองว่าตลาดโดยรวมยังสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรได้ต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัวรวมถึงสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับสูงSET มีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1720 จุด และ 1730 จุด ตามลำดับหลังจากนี้เรามองกลุ่มธนาคาร ท่องเที่ยว ค้าปลีก มีโอกาสกลับมาเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดในรอบนี้แนะนำ BBL SCB CPALL CENTEL
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
The Siam Cement (SCC TB; THB 494.00) – ซื้อ
The Siam Commercial Bank (SCB TB; THB 149.50) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : III, JMART-W2* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2735
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2735