- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 August 2014 16:50
- Hits: 1819
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เน้นเลือกตัวขายทำกำไรสั้น
ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นจากจิตวิทยาเชิงบวกของข้อตกลงหยุดยิงระยะยาวอย่างไม่มีกำหนดระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล โดย SET ได้ทำจุดสูงสุดอีกครั้งในภาคเช้าวานนี้ที่ 1570 จุดและตัวอ่อนลงปิดที่ 1564.58 จุด (+4.41 จุด, +0.28%) มูล ค่าการซื้อขายทรงตัวที่ 44,849 ล้านบาท แต่ยังมีลักษณะขึ้นลงสลับกลุ่มคละกัน ปรับตัวขึ้นนำตลาดจากกลุ่มขนาดเล็กเช่น MINE, PROF, ETRON, AGRI, และ HEALTH ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นที่ 31.89 บาท/US$ นักลงทุนต่างชาติสลับซื้อสุทธิอีก 419 ล้านบาท และกองทุนในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญอีก 1,477 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
ยอดส่งออกไทยเดือนก.ค. 57 มีมูลค่า US$ 18,896 ล้านลดลง 0.85 % เทียบเดือนก.ค. 56 เป็นการกลับมาติดลบอีกครั้งหลังจากเดือนมิ.ย. 57 ส่งออกเติบโต 3.9% เนื่องจากส่งออกกลุ่มสินแร่ เชื้อเพลิง และทองคำ ติดลบสูงถึง 34.26% และตลาดส่งออกชะลอการนำเข้า ด้านการนำเข้ามีมูลค่า US$19,998 ล้าน ลดลง 2.86% ติดลบต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ทำให้เดือนก.ค.ขาดดุลการค้า US$1,102 ล้าน ยอดส่งออก 7 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่ารวม US$131,600 ล้านลดลง 0.42% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน การนำเข้ารวม 132,466 ล้านเหรียญสหรัฐฯลดลง 12.49% ขาดดุลการค้ารวม 7 เดือน US$865.5 ล้าน
Thailand Focus 2014 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ยืนยันว่า คสช. ได้ดำเนินการตามโรดแมป 3 ขั้นตอน โดยระยะที่ 1 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ระยะที่ 2 ได้เริ่มดำเนินการแล้วเช่น การจัด ทำรัฐธรรมนูฐฉบับชั่วคราว, จัดตั้งสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.)และได้นายกรัฐมนตรี ภายในเดือนก.ย.นี้จะมีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เกิดขึ้น ส่วนระยะที่ 3 จะมีการจัดทำรัฐธรรม นูญที่คาดว่าจะเสร็จในช่วงปลายปี 58 และจัด การเลือกตั้งได้ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นคือต้นปี 59 เป็นอย่างช้า การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 57 ในช่วงครึ่งปีแรกจีดีพีไทยติดลบเล็กน้อย แต่ในช่วงที่เหลือของปี 57 จะเติบโต 3-3.5% และทั้งปีเติบโต 2% ส่วนปี 58 จะเติบโตได้ 3.5-4 %
ภาพจากเมื่อวานถือว่าตลาดอยู่ในลักษณะที่ทรงตัว (ดัชนี SET เปิดเท่ากับปิด) และมีแรงขายแรงซื้อสลับในหุ้นรายตัวในหุ้นที่เทียบกับตลาดแล้วยังปรับขึ้นไม่มาก เราประเมินโอกาสในการซื้อเก็งกำไรสั้นเหลือลดลงแต่ยังพอมีในหุ้นรายตัว เช่น KBANK, SCC, HANA, DTAC แต่ภาพรวมตลาดเชิงเทคนิคเรียกว่า Relatively weak (ราคาเชิงสัมพันธ์ตลาดเริ่มอ่อนแรง) เราเน้นไปในทางเลือกตัวขายทำกำไรสั้นเช่น AOT, PS (ผลตอบแทนในพอร์ต KSS อยุ่ที่ 101.4%), TRUE, STEC, และ BLAND
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%
น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%
Accumulate : -- สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1560 จุด ต่ำกว่า รอจังหวะอ่อนตัว
เปรียบเทียบดัชนีกับ SET
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +13.5%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +14.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.6%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130