- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 November 2017 17:03
- Hits: 2988
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เน้นลงทุนกลุ่มภายในประเทศ รับแรงหนุนจากโมเมนตัวเศรษฐกิจที่เป็นบวก
โมเมนตัมเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ความเป็นไปได้ที่โอเปคจะขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน รวมถึงความไม่ชัดเจนทางการเมืองในต่างประเทศ ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ให้สามารถแกว่งตัวที่ระดับ 1700+/- จุดได้แม้ภาพรวมกำไรสุทธิของตลาดในไตรมาส 3/60 จะอ่อนแอมากกว่าคาด. ภาพระยะยาวของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นบวกจากตัวเลขเศรฐกิจที่มีพัฒนาการดีต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นดัชนีมีโอกาสพักตัวในกรอบ 1690-1720 จากการขาดแรงผลักดันที่สำคัญของกลุ่มธนาคารที่ยังคงถูกกดดันจากยอดการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และ ค่าใช้จ่าย IFRS9 อย่างไรก็ตามเรามองเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ
กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือ selective buy ในกลุ่มที่ได้รับอาณิสงค์เชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโต หรือ Domestic play ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก เช่าซื้อ (ช่วงสั้นอาจถูกกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ชะลอตัว), กลุ่มธนาคาร (ทยอยสะสม), ท่องเที่ยว (รับปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโต+High season), วัสดุก่อสร้าง *ชอบเหล็ก (การปฎิรูปภาคอุปทานในจีน อุปสงค์ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลักที่ฟื้นตัว เช่น ก่อสร้าง, ยานยนต์)
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: แม้การฟื้นตัวผ่าน 1705 จะทำให้จิตวิทยาภาพรวมเป็นบวกยิ่งขึ้น แต่ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) ชอบกลุ่ม เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคมฯ รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง และทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร// หุ้นแนะนำ TK, PYLON, ERW, MILL
แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
เน้นลงทุนกลุ่มภายในประเทศ รับแรงหนุนจากโมเมนตัวเศรษฐกิจที่เป็นบวก
โมเมนตัมเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง ความเป็นไปได้ที่โอเปคจะขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน รวมถึงความไม่ชัดเจนทางการเมืองในต่างประเทศ ยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ให้สามารถแกว่งตัวที่ระดับ 1700+/- จุดได้แม้ภาพรวมกำไรสุทธิของตลาดในไตรมาส 3/60 จะอ่อนแอมากกว่าคาด. ภาพระยะยาวของตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นบวกจากตัวเลขเศรฐกิจที่มีพัฒนาการดีต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นดัชนีมีโอกาสพักตัวในกรอบ 1690-1720 จากการขาดแรงผลักดันที่สำคัญของกลุ่มธนาคารที่ยังคงถูกกดดันจากยอดการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และ ค่าใช้จ่าย IFRS9 อย่างไรก็ตามเรามองเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อ
กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือ selective buy ในกลุ่มที่ได้รับอาณิสงค์เชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโต หรือ Domestic play ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก เช่าซื้อ (ช่วงสั้นอาจถูกกดดันจากรายได้เกษตรกรที่ชะลอตัว), กลุ่มธนาคาร (ทยอยสะสม), ท่องเที่ยว (รับปัจจัยบวกจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโต+High season), วัสดุก่อสร้าง *ชอบเหล็ก (การปฎิรูปภาคอุปทานในจีน อุปสงค์ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลักที่ฟื้นตัว เช่น ก่อสร้าง, ยานยนต์)
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: แม้การฟื้นตัวผ่าน 1705 จะทำให้จิตวิทยาภาพรวมเป็นบวกยิ่งขึ้น แต่ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) ชอบกลุ่ม เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคมฯ รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง และทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร// หุ้นแนะนำ TK, PYLON, ERW, MILL
แนวรับ : 1710 / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนก่อนการประชุมกลุ่มโอเปคสัปดาห์หน้า / ราคาสินค้าเกษตรปรับขึ้นทั้งกระดาน / ราคาโลหะทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,396 จุด (+0.79%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 95.9 เหรียญฯต่อตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ –NAR รายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.48 ล้านยูนิต มากกว่าคาดที่ 5.42 ล้านยูนิต ขณะที่ผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มาเบาบางลง
ชงครม.สัญจรเคาะมอเตอร์เวย์-ทางคู่เฟส2 – ครม.เร่งทำแผนงานโครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หาดใหญ่-สะเดา และรถไฟทางคู่ระยะ 2 ลงภาคใต้ 3 สาย เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.สัญจรพิจารณา วันที่ 27-28 พ.ย. นี้
ครม.เปิดทางคลังกู้เงิน ADB – ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) วงเงิน 99.4 บ้านดอลลาร์ ระยะเวลา 13 ปี สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 22 และ 23 ขนาด 4 ช่องจราจร
ประเด็นติดตาม: 22 พ.ย. - กสทข.พิจารณาการใช้คลื่น 2300MHz ของ DTAC / 23 พ.ย. – รายงานการประชุม FOMC, วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
โภคภัณฑ์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนก่อนการประชุมกลุ่มโอเปคสัปดาห์หน้า / ราคาสินค้าเกษตรปรับขึ้นทั้งกระดาน / ราคาโลหะทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,396 จุด (+0.79%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 95.9 เหรียญฯต่อตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ –NAR รายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.48 ล้านยูนิต มากกว่าคาดที่ 5.42 ล้านยูนิต ขณะที่ผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มาเบาบางลง
ชงครม.สัญจรเคาะมอเตอร์เวย์-ทางคู่เฟส2 – ครม.เร่งทำแผนงานโครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หาดใหญ่-สะเดา และรถไฟทางคู่ระยะ 2 ลงภาคใต้ 3 สาย เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.สัญจรพิจารณา วันที่ 27-28 พ.ย. นี้
ครม.เปิดทางคลังกู้เงิน ADB – ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) วงเงิน 99.4 บ้านดอลลาร์ ระยะเวลา 13 ปี สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 22 และ 23 ขนาด 4 ช่องจราจร
ประเด็นติดตาม: 22 พ.ย. - กสทข.พิจารณาการใช้คลื่น 2300MHz ของ DTAC / 23 พ.ย. – รายงานการประชุม FOMC, วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO2681