- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 November 2017 17:02
- Hits: 2968
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1710.48 -3.90 (-0.23) // Vol. 56,247
แกว่งตัวออกข้าง ที่ไม่ควรหลุด 1700
กรอบการเคลื่อนไหว 1706-1720
ดัชนีมีทิศทางผันผวนในกรอบที่กว้าง โดยเปิดตัวดีในช่วงเช้าทำได้ดีสุดที่ 1718 จุด เป็น High เดียวของวันก่อนหน้า ก่อนที่จะไหลลงทำ Low 1707 จุด ซึ่งถือว่าปิด Gap ที่เปิดไว้ล่าสุด พร้อมกับดีดกลับที่ยังไม่มากนักขึ้นมาทำปิดที่ 1710 จุด จากภาพดังกล่าวเป็นการพักระยะสั้น เนื่องจากยังยืนเหนือเส้นแนวโน้มย่อยที่เป็นขาลงที่เพิ่งเบรกได้มาไม่นานนี้ ทำให้ภาพหลักดัชนีมีโอกาสเดินหน้าขึ้นได้ต่อ แต่ระยะสั้นดัชนีน่าจะยังมีทิศทางแกว่งตัวออกข้างที่ไม่ควรหลุด 1700 จุด
แนวรับ 1706 - 1700
แนวต้าน 1717 // 1724
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannap.k@ktbst .co.th
SET INDEX
1710.48 -3.90 (-0.23) // Vol. 56,247
แกว่งตัวออกข้าง ที่ไม่ควรหลุด 1700
กรอบการเคลื่อนไหว 1706-1720
ดัชนีมีทิศทางผันผวนในกรอบที่กว้าง โดยเปิดตัวดีในช่วงเช้าทำได้ดีสุดที่ 1718 จุด เป็น High เดียวของวันก่อนหน้า ก่อนที่จะไหลลงทำ Low 1707 จุด ซึ่งถือว่าปิด Gap ที่เปิดไว้ล่าสุด พร้อมกับดีดกลับที่ยังไม่มากนักขึ้นมาทำปิดที่ 1710 จุด จากภาพดังกล่าวเป็นการพักระยะสั้น เนื่องจากยังยืนเหนือเส้นแนวโน้มย่อยที่เป็นขาลงที่เพิ่งเบรกได้มาไม่นานนี้ ทำให้ภาพหลักดัชนีมีโอกาสเดินหน้าขึ้นได้ต่อ แต่ระยะสั้นดัชนีน่าจะยังมีทิศทางแกว่งตัวออกข้างที่ไม่ควรหลุด 1700 จุด
แนวรับ 1706 - 1700
แนวต้าน 1717 // 1724
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannap.k@ktbst .co.th
ล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
"แนวโน้มไปได้ แต่มีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ"
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ ผันผวนจากแรงขายทำกำไรและสลับตัวเล่น ....... ตัวแปรของตลาด ส่วนใหญ่ยังเป็นบวก แต่ราคาหุ้นบางตัวปรับขึ้นมามาก จึงมีแรงขายทำกำไรเข้ามา ... ตัวแปรในต่างประเทศ แผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯมีโอกาสมากขึ้นที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภาสูงฯ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่เดินหน้าบวกต่อ ราคาน้ำมันดิบ นั้นก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน (WTI $56 ; BRENT $62) ... ด้านปัจจัยในประเทศ การประชุม ครม.วานนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการติดตามความคืบหน้าของโครงการ แต่ข่าวดี คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ "ของขวัญปีใหม่" ครม.จะพิจารณาในสัปดาห์หน้า ขณะที่ ตัวเลข GDP และตัวเลขท่องเที่ยว ที่ออกมาดี ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น .... วันนี้ จะมีการรายงาน ตัวเลขส่งออก เดือน ต.ค.ของไทย จากการสำรวจโดย Blommberg คาด +14.6% YoY (เดือนก่อน +12.2%) และตัวเลขยอดขายรถในประเทศ เดือน ต.ค. (เดือนก่อน 77,592 คัน) โดยตัวเลขทั้งสองตัวที่จะรายงาน มีผลต่อทั้งมุมมองด้านส่งออกของไทย จะมีผลต่อหุ้นกลุ่ม อาหารแช่แข็ง กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และกลุ่มอีเล็คทรอนิคส์
กลยุทธ์การลงทุน : ภาพรวมของตลาด เรายังมองเป็นบวก แต่การสลับขึ้น-ลงของดัชนีฯในแต่ละวัน ส่งผลให้การเข้าเก็งกำไรช่วงสั้นๆทำได้ยากขึ้น เนื่องจากมีการสลับตัวเล่น ...... กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะให้เข้าลงทุนในลักษณะ selective buy หุ้นที่อยู่ในกลุ่มหลักๆ ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้า คือ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นได้ประโยชน์จาก EEC แต่อาจต้องปรับจากการเล่นแบบรายวัน เป็นเล่นในกรอบเวลาที่นานขึ้น หุ้นตัวหลักๆ ในแต่ละกลุ่ม อาทิ CPALL MINT AOT WHA หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกในกลุ่มอื่นๆ โดยเน้นหุ้นที่มีการเติบโตและราคาหุ้นยังมีส่วนต่างจากราคาที่เหมาะสม
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TMB, AOT, MINT
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : TTA, PDI, GGC
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) BANK : สินเชื่อ ต.ค. โตได้ดีจากการรวมพอร์ตของ TISCO
(+) JMART : คิดใหม่ Synergy II หนุนอนาคต
(+) BANK : สินเชื่อ ต.ค. โตได้ดีจากการรวมพอร์ตของ TISCO
(+) JMART : คิดใหม่ Synergy II หนุนอนาคต
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (21 พ.ย.) - ปิดที่ระดับ 1,710.48 จุด ลดลง 3.90 จุด หรือ -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 56,246.99 ล้านบาท มองผลตลาดหุ้นไทยรับรู้ผลบวกจากการประกาศผล GDP สำหรับช่วงไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาดไปมากแล้ว ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามากระทบตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนี Dow Jones ปิดที่ระดับ 23,590.83 จุด เพิ่มขึ้น 160.50 จุด หรือ +0.69% ตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หลังผลประกอบการช่วง 3Q17 ของบริษัทที่จดทะเบียนเติบโตสูงกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคลายความกังวลเรื่องมาตรการปรับลดภาษีอีกด้วย .... ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.44% ปิดที่ 388.10 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 56.83 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังมีกระแสว่า การประชุม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. จะมีการหารือเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต
ปัจจัยต่างประเทศ ประเด็นเกาหลีเหนือกลับมาพูดถึงอีกครั้ง, ติดตามขั้นตอนต่อไปของการร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี - สหรัฐฯได้ทำการขึ้นบัญชีดำเกาหลีเหนือเป็นประเทศสนับสนุนการก่อการร้ายประเทศที่ 4 ต่อจาก อิหร่าน, ซูดาน, และ ซีเรีย ซึ่งต้องติดตามว่าเกาหลีเหนือจะมีท่าทีตอบโต้อย่างไรต่อมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ ไม่ส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นไทย ... ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเริ่มกลับมาเป็นบวกมากยิ่งขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะสามารถผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าจะถูกส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ปัจจัยในประเทศ ความคืบหน้าโครงการรับเหมาฯ ที่ประชุมครม.วานนี้ไม่มีการอนุมัติโครงการที่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามื ปลัดกระทรวงการคลังระบุว่า จะมีการเร่งจัดทำรายละเอียดโครงการ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ชุมพร - สุราษฎร์ธานี มูลค่า 23,000 ล้านบาท และ ช่วง สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ มูลค่า 52,000 เพื่อเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุม ครม. ในช่วงสัปดาห์หน้า …. วันที่ 22 พ.ย. จะมีการประชุมบอร์ด EEC เพื่ออนุมัติโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน และศูนย์ซ่อมและบำรุงอากาศยาน มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท
มติการใช้งานคลื่น 2300 MHz ของ DTAC - ในวันนี้ กสทช. จะมีมติบอร์ดร่างสัญญาคู่ค้ากับ TOT สำหรับคลื่น 2,300 MHz จำนวน 60 MHz มูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาทในเวลา 8 ปี จะผ่านมติหรือไม่ ซึ่งหากสามารถผ่านได้ จะเป็นบวกต่อ DTAC เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องชนะการประมูลคลื่นในปีหน้าจะน้อยลงไป
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในสัปดาห์นี้ได้แก่ EKH, JUBILE, ORI, PTG, CHO, BCP, ECF
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (21 พ.ย.) - ปิดที่ระดับ 1,710.48 จุด ลดลง 3.90 จุด หรือ -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 56,246.99 ล้านบาท มองผลตลาดหุ้นไทยรับรู้ผลบวกจากการประกาศผล GDP สำหรับช่วงไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาดไปมากแล้ว ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามากระทบตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนี Dow Jones ปิดที่ระดับ 23,590.83 จุด เพิ่มขึ้น 160.50 จุด หรือ +0.69% ตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ หลังผลประกอบการช่วง 3Q17 ของบริษัทที่จดทะเบียนเติบโตสูงกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังคลายความกังวลเรื่องมาตรการปรับลดภาษีอีกด้วย .... ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.44% ปิดที่ 388.10 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 56.83 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาเก็งกำไรราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังมีกระแสว่า การประชุม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย. จะมีการหารือเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต
ปัจจัยต่างประเทศ ประเด็นเกาหลีเหนือกลับมาพูดถึงอีกครั้ง, ติดตามขั้นตอนต่อไปของการร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี - สหรัฐฯได้ทำการขึ้นบัญชีดำเกาหลีเหนือเป็นประเทศสนับสนุนการก่อการร้ายประเทศที่ 4 ต่อจาก อิหร่าน, ซูดาน, และ ซีเรีย ซึ่งต้องติดตามว่าเกาหลีเหนือจะมีท่าทีตอบโต้อย่างไรต่อมาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ ไม่ส่งผลกระทบถึงตลาดหุ้นไทย ... ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเริ่มกลับมาเป็นบวกมากยิ่งขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะสามารถผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าจะถูกส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ปัจจัยในประเทศ ความคืบหน้าโครงการรับเหมาฯ ที่ประชุมครม.วานนี้ไม่มีการอนุมัติโครงการที่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามื ปลัดกระทรวงการคลังระบุว่า จะมีการเร่งจัดทำรายละเอียดโครงการ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ชุมพร - สุราษฎร์ธานี มูลค่า 23,000 ล้านบาท และ ช่วง สุราษฎร์ธานี - หาดใหญ่ มูลค่า 52,000 เพื่อเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุม ครม. ในช่วงสัปดาห์หน้า …. วันที่ 22 พ.ย. จะมีการประชุมบอร์ด EEC เพื่ออนุมัติโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เชื่อม 3 สนามบิน และศูนย์ซ่อมและบำรุงอากาศยาน มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท
มติการใช้งานคลื่น 2300 MHz ของ DTAC - ในวันนี้ กสทช. จะมีมติบอร์ดร่างสัญญาคู่ค้ากับ TOT สำหรับคลื่น 2,300 MHz จำนวน 60 MHz มูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาทในเวลา 8 ปี จะผ่านมติหรือไม่ ซึ่งหากสามารถผ่านได้ จะเป็นบวกต่อ DTAC เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องชนะการประมูลคลื่นในปีหน้าจะน้อยลงไป
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในสัปดาห์นี้ได้แก่ EKH, JUBILE, ORI, PTG, CHO, BCP, ECF
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
TMB(ราคาปิด 2.78) มองว่าตลาดเริ่มให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มแบงก์มากขึ้นในช่วงนี้ …. เรามองสินเชื่อของ TMB เติบโตได้ดีโดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้านเป็นหลัก KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 9,044 ล้านบาท (+10% YoY) และปี 2018 ที่ 9,901 ล้านบาท (+10% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 2.80 บาท)
AOT(ราคาปิด 59.00) ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ต.ค. 2017 อยู่ที่ 2.72 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.7% YoY โดยนักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นถึง 69.8% YoY จึงมองว่า AOT จะได้รับความสนใจในเชิงบวกต่อนักลงทุนในวันนี้ นอกจากนี้ AOT เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างประเทศ .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 20,344 ล้านบาท (+4% YoY) และปี 2018 ที่ 24,974 ล้านบาท (+23% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 64.00 บาท)
MINT(ราคาปิด 45.00) เราทำการ switch จาก CENTEL มาเป็น MINT เนื่องจาก มองว่า MINT จะ ได้รับผลประโยชน์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากเท่า CENTEL .... อีกทั้งผลประกอบการช่วง 3Q17 ออกมาดีที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 55% QoQ จากโรงแรมในไทยและในกลุ่มทิโวลีที่โปรตุเกสและบราซิล .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 5,575 ล้านบาท (-19% YoY) และปี 2018 ที่ 6,376 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 47.00 บาท)
หุ้น เหตุผล
TMB(ราคาปิด 2.78) มองว่าตลาดเริ่มให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มแบงก์มากขึ้นในช่วงนี้ …. เรามองสินเชื่อของ TMB เติบโตได้ดีโดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้านเป็นหลัก KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 9,044 ล้านบาท (+10% YoY) และปี 2018 ที่ 9,901 ล้านบาท (+10% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 2.80 บาท)
AOT(ราคาปิด 59.00) ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ต.ค. 2017 อยู่ที่ 2.72 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.7% YoY โดยนักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นถึง 69.8% YoY จึงมองว่า AOT จะได้รับความสนใจในเชิงบวกต่อนักลงทุนในวันนี้ นอกจากนี้ AOT เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างประเทศ .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 20,344 ล้านบาท (+4% YoY) และปี 2018 ที่ 24,974 ล้านบาท (+23% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 64.00 บาท)
MINT(ราคาปิด 45.00) เราทำการ switch จาก CENTEL มาเป็น MINT เนื่องจาก มองว่า MINT จะ ได้รับผลประโยชน์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากเท่า CENTEL .... อีกทั้งผลประกอบการช่วง 3Q17 ออกมาดีที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 55% QoQ จากโรงแรมในไทยและในกลุ่มทิโวลีที่โปรตุเกสและบราซิล .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 5,575 ล้านบาท (-19% YoY) และปี 2018 ที่ 6,376 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 47.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) BANK สินเชื่อ ต.ค. 2017 เพิ่มขึ้นได้ที่ 0.8% MoM และ 2.5% YoY หรือคิดเป็น 1.5% YTD โดยการเพิ่มขึ้นมาจากการรวมพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของ TISCO จาก SCBT เป็นหลักราว 3.5 หมื่นล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวออกสินเชื่อรวมก็ยังคงเติบโตได้ที่ 0.4% MoM ได้ รองลงมาเป็น KTB ที่มีสินเชื่อเติบโตได้ที่ 2.0% MoM จากสินเชื่อภาครัฐที่อยู่ในช่วงงบประมาณประจำปี ขณะที่เราคาดว่า แนวโน้มสินเชื่อใน 4Q17 จะเพิ่มขึ้นได้ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยเป็นหลักจากการบริโภคที่ฟื้นตัว ส่วน NPL Ratio เราคาดว่า จะทำจุดสูงสุดใน 4Q17 และจะปรับตัวลงได้ในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำสำหรับกลุ่มธนาคารฯเป็น "เท่ากับตลาด" โดยเลือก BBL และ KBANK เป็น Top Pick ราคาเป้าหมายในปี 2018 ที่ 222 บาท และ 248 บาท ตามลำดับ
(+) RICHY เรามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17 จะมีโอกาสทำได้ดีกว่าที่เราเคยคาดไว้ จากยอด Backlog ที่จะโอนใน 4Q17 สูงถึง 500 ล้านบาท ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิ 4Q17 ยังคงเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เดิมเราประเมินกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 90 ล้านบาท เติบโต 871% YoY อย่างไรก็ตาม ไฮไลน์ของกำไรสุทธิจะอยูในปี 2018 ที่เราคาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดและทำสถิติสูงสุดใหม่เป็น 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากต่อเนื่องอีก 181% YoY เนื่องจากปัจจุบันมียอด Backlog ที่จะโอนในปี 2018 แล้วสูงถึง 2,200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียม ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เป้าหมายปี 2018 ที่ 2.20 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO2677
Sector / Stock Updates
(+) BANK สินเชื่อ ต.ค. 2017 เพิ่มขึ้นได้ที่ 0.8% MoM และ 2.5% YoY หรือคิดเป็น 1.5% YTD โดยการเพิ่มขึ้นมาจากการรวมพอร์ตสินเชื่อรายย่อยของ TISCO จาก SCBT เป็นหลักราว 3.5 หมื่นล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวออกสินเชื่อรวมก็ยังคงเติบโตได้ที่ 0.4% MoM ได้ รองลงมาเป็น KTB ที่มีสินเชื่อเติบโตได้ที่ 2.0% MoM จากสินเชื่อภาครัฐที่อยู่ในช่วงงบประมาณประจำปี ขณะที่เราคาดว่า แนวโน้มสินเชื่อใน 4Q17 จะเพิ่มขึ้นได้ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยเป็นหลักจากการบริโภคที่ฟื้นตัว ส่วน NPL Ratio เราคาดว่า จะทำจุดสูงสุดใน 4Q17 และจะปรับตัวลงได้ในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำสำหรับกลุ่มธนาคารฯเป็น "เท่ากับตลาด" โดยเลือก BBL และ KBANK เป็น Top Pick ราคาเป้าหมายในปี 2018 ที่ 222 บาท และ 248 บาท ตามลำดับ
(+) RICHY เรามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17 จะมีโอกาสทำได้ดีกว่าที่เราเคยคาดไว้ จากยอด Backlog ที่จะโอนใน 4Q17 สูงถึง 500 ล้านบาท ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิ 4Q17 ยังคงเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เดิมเราประเมินกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 90 ล้านบาท เติบโต 871% YoY อย่างไรก็ตาม ไฮไลน์ของกำไรสุทธิจะอยูในปี 2018 ที่เราคาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดและทำสถิติสูงสุดใหม่เป็น 252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากต่อเนื่องอีก 181% YoY เนื่องจากปัจจุบันมียอด Backlog ที่จะโอนในปี 2018 แล้วสูงถึง 2,200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียม ริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชั่น เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เป้าหมายปี 2018 ที่ 2.20 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO2677