- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 November 2017 19:18
- Hits: 4376
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยภายนอกอ่อนแอลง เน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว/รายกลุ่ม
หุ้นยุโรปลดลงจากความกังวลผลประกอบการและความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองเยอรมันหลังอดีตนายกรัฐมนตรี แมร์เคิล ยังไม่ประสพความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่สหรัฐฯ กังวงต่อการลงคะแนนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีโดยรัฐสภา 23 พ.ย.นี้ สำหรับหุ้นไทย บรรยากาศการซื้อขายเป็นบวกมากขึ้น ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี (ช็อปช่วยชาติ) และหลังคสช.มีแนวโน้มปลดล็อคให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมือง ราคาน้ำมันอาจช่วยประคองตลาด เรามอง selective buy รายตัวในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศ รวมถึงหุ้นที่เกาะ Theme การลงทุนปีหน้า ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและ EEC ซึ่งบวกต่อ ธนาคาร เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคม รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง เป็นต้น
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SGP*, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) การฟื้นตัวผ่าน 1705 จะทำให้จิติทยาภาพรวมเป็นบวกยิ่งขึ้น // หุ้นแนะนำ TK, PYLON, CGD*
แนวรับ : 1700 / แนวต้าน : 1713-1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ปัจจัยภายนอกอ่อนแอลง เน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว/รายกลุ่ม
หุ้นยุโรปลดลงจากความกังวลผลประกอบการและความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงขั้วการเมืองเยอรมันหลังอดีตนายกรัฐมนตรี แมร์เคิล ยังไม่ประสพความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่สหรัฐฯ กังวงต่อการลงคะแนนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีโดยรัฐสภา 23 พ.ย.นี้ สำหรับหุ้นไทย บรรยากาศการซื้อขายเป็นบวกมากขึ้น ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี (ช็อปช่วยชาติ) และหลังคสช.มีแนวโน้มปลดล็อคให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมือง ราคาน้ำมันอาจช่วยประคองตลาด เรามอง selective buy รายตัวในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศ รวมถึงหุ้นที่เกาะ Theme การลงทุนปีหน้า ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและ EEC ซึ่งบวกต่อ ธนาคาร เช่าซื้อ ค้าปลีก นิคม รวมถึงกลุ่มฐานรากและให้เช่าเครื่องจักรกลก่อสร้าง เป็นต้น
Investment Theme 1) หุ้นบริโภคในประเทศ BBL, SCB, TMB, TCAP, TK, S11*, IFS*, CPALL, ROBINS, MAKRO* 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ TIP*, AJ*, PTL*, VNT*, MILL*, BDMS, AMANAH, AGE, SGP*, SCN*, IT*, RICHY*, TTCL*, ICHI*
ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพรวมช่วงนี้ยังเป็นการเก็งกำไรในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) การฟื้นตัวผ่าน 1705 จะทำให้จิติทยาภาพรวมเป็นบวกยิ่งขึ้น // หุ้นแนะนำ TK, PYLON, CGD*
แนวรับ : 1700 / แนวต้าน : 1713-1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังซาอุฯส่งสัญญาณว่ากลุ่มโอเปกรวมถึงรัสเซียต่างสนับสนุนให้มีการขยายระยะเวลาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไป / ราคาโลหะและสินค้าเกษตรทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,371 จุด (+0.73%) / ถ่านหนิ Newcastle ปิดที่ 96.55 เหรียญต่อตัน (-0.21%)
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB – ประธาน ECB ระบุแม้เศรษฐกิจยูโรโซนจะอยู่ในภาวะที่สดใส แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ECB เป็นหลัก พร้อมกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธนาคารในยุโรปแต่อย่างใด
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทย - รองนายกฯสมคิดระบุเศรษฐกิจไทยปี 61 มีโอกาสเติบโตได้สูงถึง 4-5% จากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เผยดัชนีเศรษฐกิจมหภาคทุกตัวกำลังมีสัญญาณที่ดีขึ้น รัฐเตรียมอัดฉีดเงินลงสู่รากหญ้าและออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มากขึ้น พร้อมเร่งผลักดันประมูลโปรเจกส์ EEC จำนวน 4 โครงการให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า
หวั่นเก็บภาษีกองบอนด์ทำเงินไหลออก – กรมสรรพากรเปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.เก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ระหว่างวันที่ 2-23 พ.ย. เพื่อสร้างความเท่าเทียมแก่ผู้เสียภาษีจากการลงทุนตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้โดยตรง เบื้องต้นคาดส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนในกองตราสารหนี้ไหลออกจากระบบประมาณ 15%
Cash balamce - ตลท.ให้ GL-4 เข้าซื้อขายใน Cash balance และขยายเวลาสำหรับ ASAP, ECF, ECF-W2 และ ECF-W3
ประเด็นติดตาม: 20 พ.ย. – สภาพัฒน์ประกาศจีดีพี 3Q60 /22 พ.ย. - กสทข.พิจารณาการใช้คลื่น 2300MHz ของ DTAC / 23 พ.ย. – รายงานการประชุม FOMC, วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังซาอุฯส่งสัญญาณว่ากลุ่มโอเปกรวมถึงรัสเซียต่างสนับสนุนให้มีการขยายระยะเวลาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไป / ราคาโลหะและสินค้าเกษตรทรงตัว / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,371 จุด (+0.73%) / ถ่านหนิ Newcastle ปิดที่ 96.55 เหรียญต่อตัน (-0.21%)
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB – ประธาน ECB ระบุแม้เศรษฐกิจยูโรโซนจะอยู่ในภาวะที่สดใส แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ECB เป็นหลัก พร้อมกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มธนาคารในยุโรปแต่อย่างใด
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทย - รองนายกฯสมคิดระบุเศรษฐกิจไทยปี 61 มีโอกาสเติบโตได้สูงถึง 4-5% จากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง เผยดัชนีเศรษฐกิจมหภาคทุกตัวกำลังมีสัญญาณที่ดีขึ้น รัฐเตรียมอัดฉีดเงินลงสู่รากหญ้าและออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มากขึ้น พร้อมเร่งผลักดันประมูลโปรเจกส์ EEC จำนวน 4 โครงการให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า
หวั่นเก็บภาษีกองบอนด์ทำเงินไหลออก – กรมสรรพากรเปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.เก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ระหว่างวันที่ 2-23 พ.ย. เพื่อสร้างความเท่าเทียมแก่ผู้เสียภาษีจากการลงทุนตลาดเงินและตลาดตราสารหนี้โดยตรง เบื้องต้นคาดส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนในกองตราสารหนี้ไหลออกจากระบบประมาณ 15%
Cash balamce - ตลท.ให้ GL-4 เข้าซื้อขายใน Cash balance และขยายเวลาสำหรับ ASAP, ECF, ECF-W2 และ ECF-W3
ประเด็นติดตาม: 20 พ.ย. – สภาพัฒน์ประกาศจีดีพี 3Q60 /22 พ.ย. - กสทข.พิจารณาการใช้คลื่น 2300MHz ของ DTAC / 23 พ.ย. – รายงานการประชุม FOMC, วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี / 29 พ.ย. – US GDP 3Q17 / 30 พ.ย. – ประชุมโอเปค
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน
OO2553
OO2553