WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook 
  
กลับมาเน้น Domestic
          กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดหุ้นไทยคาดการณ์ขยับบวกต่อ คาดหวังว่ามีเงินไหลเข้าตลาดหุ้น Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นอื่นในเอเชียอย่างต่อเนื่อง  หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับนโยบายภาครัฐคาดว่าจะกลับมาได้รับความน่าสนใจอีก จากการเดินหน้าการก่อสร้างของโครงการภาครัฐที่ได้รับสัมปทานไปแล้ว รับเหมาก่อสร้างเด่นที่ CK กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดดเด่นที่ AMATA และ WHA หุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก ค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงสดใส ส่วนหุ้น Global Play เรายังให้ IVL เป็นหุ้นเด่น ค่าระวางเรือเทกองพลิกกลับมาเป็นบวกแล้ว คาดสามารถเก็งกำไร PSL และ TTA ได้
Stock             Comment
TVO            กำไรสุทธิ Bottom out ไปในไตรมาส 2/60 และเริ่ม Turnaround ขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 3/60 และคาดว่าไตรมาส 4/60 กำไรสุทธิจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากปริมาณขายกากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการเลี้ยงไก่เพื่อการส่งออกที่ดีขึ้น และการแข่งขันจากกากถั่วเหลืองนำเข้าลดลง
AMATA       แม้ปริมาณขายที่ดินในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ 1 พันไร่ (คาดว่าได้เพียง 600-700 ไร่) แต่นโยบาย EEC ที่กำลังเดินหน้าทำให้เราคาดหวังว่าราคาที่ดินในเขต EEC ของ AMATA ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้นเด่นชัดตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท
CK                 โดดเด่นกว่าหุ้นรับเหมาก่อสร้างตัวอื่น ๆ จากผลประกอบการไตรมาส 3/60 ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ยังรับผลบวกจากกำไรสุทธิที่ดีเกินคาดของ BEM ซึ่ง CK ถือหุ้น 29.98% ด้วย ราคาเป้าหมาย 30 บาท
หุ้นเด่นวันนี้ : TVO (ราคาปิด 29.75 บาท; NR; AWS TP 32 บาท based on consensus EPS)
           แม้ TVO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 เท่ากับ 343 ลดลง 68% YoY แต่ดีขึ้น 65% QoQ โดยกำไรสุทธิต่ำสุดผ่านไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/60 และกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดีมานด์กากถั่วเหลืองในประเทศที่ดีขึ้น ตามปริมาณการเลี้ยงไก่ที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการส่งออกเนื้อไก่ โดยปัจจุบันการเลี้ยงไก่อยู่ที่ประมาณ 31 ล้านตัวต่อสัปดาห์ เป็นปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน โดยการแข่งขันจากกากถั่วเหลืองนำเข้าเริ่มบรรเทาลง จากราคาที่ห่างกันไม่มากนักกับราคาจากโรงสกัดถั่วเหลืองในประเทศ โดยผลประกอบการในปี 2560 ทั้งปี บริษัทมีระดับ GPM ที่ 9.5% ซึ่งลดจากปี 2559 ที่ 16% ทั้งนี้แนวโน้มการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นมา เราคาดการณ์ว่า GPM ในปี 2561 ของ TVO จะเท่ากับ 11% Consensus คาดการณ์  กำไรต่อหุ้นในปี 2560-2561 เckท่ากับ 1.80 บาท และ 2.00 บาท ตามลำดับ ซึ่ง PER เฉลี่ยของกลุ่มอาหารปี 2561 เรากำหนดให้ 16 เท่า เราจึงประมาณการราคาเหมาะสมของ TVO ไว้ที่ 32 บาท 
           Price Pattern ของ TVO แข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง เกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ เพียงแต่ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 30 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 32.50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ TVO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 26 บาท  (Resistance: 30.25, 30.75, 31.75; Support: 29.25, 28.75, 27.75)
 
ปัจจัยในประเทศ :
       สรรพากรวางแผนเก็บภาษีเงินได้จากผู้ลงทุนพันธบัตรผ่านกองทุนรวม : การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยมีการคาดการณ์ว่าจะลดลงหลายพันล้านบาทหลังจากที่กระทรวงการคลังได้วางแผนที่จะจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้ 15% ของกองทุนตราสารหนี้ในปีหน้า (Bangkok Post) 
หุ้นพลังงาน : กองทุน SWF ของนอร์เวย์ซึ่งเป็นกองทุน SWF ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เสนอที่จะขายหุ้นในธุรกิจน้ำมันและก๊าซกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.4% ของมูลค่ากองทุนในหุ้นของ SWF อันเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจของนอร์เวย์นั้นพึ่งพาการผลิตน้ำมันและก๊าซกว่า 20% ของ GDP จึงอยากจะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับด้านนี้ลง ทั้งนี้ทางรัฐมนตรีคลังของนอร์เวย์ได้กล่าวว่าจะศึกษาแล้วจะตัดสินคำเสนอนี้ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2561 ด้านบริษัทน้ำมันในไทยนั้นก็มีส่วนที่ทางกองทุนถืออยู่ด้วยกว่า 207 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทกองทุนลงทุนมากที่สุดคือ ปตท. อยู่ที่ 79 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือถือหุ้น 0.27% ของบริษัท (Bloomberg) ความเห็น: หุ้นไทยที่กองทุนดังกล่าวคือ BCP,  ESSO, PTTEP, PTTGC, PTT, SPRC, TOP โดยถือ BCP คิดเป็น 2% ของทุนจดทะเบียน BCP ส่วนหุ้นอื่นถือต่ำกว่า 1% ของทุนจดทะเบียนของหุ้นเหล่านั้น
 
ตลาดต่างประเทศ :
     ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันว่า จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่โบรกเกอร์ประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของหลายบริษัท ประกอบกับการที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์  
 
สินค้าโภคภัณฑ์ :
      ค่าเงินบาท : เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 33.00 แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 30 เดือนที่ 32.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปในสภาคองเกรส
ราคาน้ำมันดิบ : ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นกลุ่มโอเปกขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน และการหยุดดำเนินการของท่อขนส่งน้ำมัน Keystone จากแหล่งน้ำมันดิบในแคนาดามายังสหรัฐฯ กำลังการขนส่ง 590,000 บาร์เรลต่อวัน ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ เวสต์เท็กซัส 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 
ค่าระวางเรือเทกอง ปิดบวก 10 จุด เป็น 1,371 จุด เพิ่มขึ้น 0.73% เริ่มมีทิศทางกลับมาเป็นบวก หนุนการเก็งกำไรในหุ้น TTA และ PSL
 
Thailand Research Department
          Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
          Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
          Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
          Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
          Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094 
OO2550

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!