WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
กลยุทธ์วันนี้ >> ยัง Let Profit Run และทยอยซื้อ Big Cap เพิ่ม
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวบวกได้อย่างแข็งแกร่งโดยสามารถทะลุระดับ 1,700 จุดและปิดยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ตามที่เราคาด โดยได้แรงหนุนหลังสภาผู้แทนฯสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 236 ลบ.หลังขายติดต่อกัน 6 วันก่อนหน้า ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อต่อเนื่องอีก 1,186 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ต่อจากภาพทางเทคนิคที่เริ่มกลับมาเป็นบวกตั้งแต่วันศุกร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนวันศุกร์ยังพุ่งขึ้นถึว 2.6% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง PTTEP ทีได้ประโยชน์โดยตรง ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้คือการประกาศ GDP 3Q17 ของไทยซึ่งตลาดคาดเติบโตเร่งตัว 3.9% Y-Y ซึ่งหากเป็นไปตามคาด เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกและมั่นใจต่อการเติบโตในอนาคตที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 4% ได้ตั้งแต่ 4Q17 ต่อเนื่องปี 2018
  กลยุทธ์ : ยัง Let Profit Run และทยอยซื้อ Big Cap เพิ่ม
  หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$614ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$554ล้าน ส่วนไทยเม็ดเงินไหลเข้า US$7ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$77ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงเพื่อรอติดตามการประชุมวุฒิสภาสหรัฐว่าจะผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีหรือไม่(ลงมติหลัง23 พ.ย.)
 
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> PTTEP <<
ราคาน้ำมันฟื้นกลับครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ และคาดจะแกว่ง sideway up ไปจนถึงการประชุมโอเปก 30 พ.ย. เมื่อผนวกกับแรงขายของต่างชาติเริ่มเบาลง ทำให้กลุ่มพลังงานที่ laggard กลุ่มอื่นใน SET50 มีโอกาสกลับมาได้รับความน่าสนใจอีกครั้ง
หากหักการตั้งด้อยค่า 1.8 หมื่นลบ.ออก กำไรปกติ 3Q17 ที่ 7.2 พันลบ. ถือว่าทำได้ดีกว่าคาด จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งคาดว่าโมเมนตัมด้านปริมาณขายจะดีต่อเนื่องใน 4Q17
ราคาหุ้น laggard มากเกินไป โดยตั้งแต่ต้นปี -4% ตรงข้ามกับกลุ่มพลังงานที่ +12% YTD แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 102 บาท  
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) รีเสิร์สชวนเม้าส์ออนสเตท งานสัมมนา SET in the  city เราไปด้วยธีม “หุ้นเปลี่ยนโลก โลกเปลี่ยนหุ้น” กับ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจคือ แบงก์ ค้าปลีก สื่อสาร และยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาจถูกหรือไม่ถูก disrupt ในอนาคต แต่หุ้นเหล่านี้เราเชื่อว่าจะมีการเติบโตที่ดีในปี 2018 และมีความแข็งแกร่งอยู่รอดในระยะยาว KBANK(TP 256) BBL(TP 230) CPALL(TP 86) ROBINS(TP 85) 
PCSGH(TP 9.60) ADVANC(TP 220)
  (0) เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 17 เดือน จากดอลล่าร์ที่กลับมาอ่อน และกระแสเงินทุนต่างชาติที่ชะลอการไหลออก ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นใหญ่ใน SET50 และผู้นำเข้าสินค้ามาขาย เช่น SYNEX FTE MGT รวมถึงผู้ที่มีหนี้ต่างประเทศสูง เช่น THAI TPIPL ส่วนกลุ่มที่ควรเลี่ยงยังเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (แม้ราคาหุ้นหลายตัวจะเริ่มฟื้น) เพราะถูกซ้ำเติมจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับขึ้น และกลุ่มเครื่องดื่มที่แรงส่งที่ดีจากการส่งออกจะผ่อนลง และกลับมาเผชิญการแข่งขันในประเทศอย่างรุนแรงและภาษีน้ำตาลที่ปรับขึ้น
  (+) GDP ของไทยใน 3Q17 ที่จะประกาศเช้านี้ ตลาดคาดว่าจะเติบโต 3.9% Y-Y เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ +3.7% Y-Y จากการฟื้นตัวแบบกระจายมากกว่าจะกระจุกตัวในภาคส่งออกและท่องเที่ยวเหมือนในช่วง 1H17 เราคาดว่ามีโอกาสการเห็นการเติบโตในระดับ 4% ใน 4Q17 หากเป็นไปตามคาด ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าต่อ หนุนโฟลว์ไหลเข้า และยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นอย่างเร็วคือกลางปีหน้า   
  (0) TVO ประชุมนักวิเคราะห์วันศุกร์ที่ผ่านมา เราคาดว่ากำไร 4Q17 จะฟื้นตัว Q-Q จากปริมาณขายที่เพิ่มตามฤดูกาล และต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลง แต่ด้วยกำไร 9M17 ที่ต่ำกว่าคาด เราจึงปรับกำไรปีนี้ลง 37% เป็น -56% Y-Y ส่วนปีหน้าคาดกลับมาโต +40% Y-Y จากการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นตามการบริหารสต็อกที่ทำได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาถั่วเหลืองที่ยังไม่ดี แม้จะ bottom แต่อาจถูกกระทบจาก supply chain ถ้าราคาเหนื้อสัตว์ยังตกต่ำ อีกทั้ง ปันผล 2H17 เหลือจ่ายอีกเพียง 2.4% เราปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย ปรับใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 25 บาท
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20 พ.ย.- ไทย: 3Q17 GDP (ตลาดคาด +3.9% Y-Y เร่งขึ้นจาก 2Q17 ที่ +3.7% Y-Y)
22 พ.ย.- สหรัฐฯ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุม FOMC ของเฟดงวดล่าสุด
23 พ.ย.- ไทย: THMUI เริ่มซื้อขายวันแรก
           - สหรัฐฯ: - ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิตและบริการ
24 พ.ย. - ไทย: กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคโครงการ SPP Hybrid Firm
28 พ.ย สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
29 พ.ย.- สหรัฐฯ: GDP3Q17 
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดลบจากความกังวลว่ามาตราการภาษีว่าจะผลักดดันออกมาทันปีนี้หรือไม่ โดยตลาดเฝ้าจับตาการอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวจากวุฒิสภาวันที่ 23 พ.ย.นี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของบริษัทหลายแห่งลง อีกทั้ง ยังมีแรงกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าซึ่งเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมจากแรงกดดันกังวลเกี่ยวกับมาตราการภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อหนุนเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับตัวในทิศทางแข็งในกรอบ 32.76-32.90 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 1.41 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.55 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความมั่นใจว่ากลุ่มผู้ผลิตจะสามารถขยายเวลาลดการผลิตออกไปได้ อีกทั้ง ยังมีแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐที่สะดุดเล็กน้อยจากท่อขนส่งน้ำมันที่มีปัญหา
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 18.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,296.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
 
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2548

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!