- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 November 2017 18:13
- Hits: 9442
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อแนวรับ/หรือเมื่อยืนเหนือ 1700”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET วานนี้ปิดทรงตัวที่ 1691.25 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และท่องเที่ยว นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อ 1.9 พันลบ. สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ 1.6 พันลบ. ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยซื้อ/ขายสุทธิกลุ่มละไม่มาก
# สำหรับปัจจัย ต่างประเทศ – Sentiment ตลาดหุ้นภายนอกดีขึ้น หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 หลังจากนี้จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป นอกจากนั้นตัวเลขภาคการผลิตเดือนต.ค.ก็ออกมาดี (+0.9%MoM)
ตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดซื้อขายเช้าวันนี้ปรับขึ้นทุกตลาด สำหรับราคาน้ำมันดิบ ในช่วงนี้มี Downside ต่ำเพราะกลุ่มโอเปกจะประชุม 30 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะขยายเวลาลดการผลิตออกไปถึงสิ้นปี 61 จากปัจจุบันเป็นสิ้น 1Q61 ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดจะหายไป 830,000 บาร์เรล/วันในปี 61 (จากเดิมที่คาดว่าจะลด 310,000 บาร์เรล/วันถ้าลดการผลิตถึงสิ้น 1Q61)
ส่วนในประเทศ – รอดูการปรับครม.ของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะประกาศรายชื่อครั้งสุดท้ายในวันนี้ (17 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยไม่มาก ส่วนหนุนในระยะต่อไป คือ แรงซื้อ LTF และการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล & มาตรการชอปช่วยชาติ
กลยุทธ์ : เลือกซื้อจังหวะอ่อนตัวหรือ Follow buy เมื่อ SET ยืนเหนือ 1700 แนวต้านระยะสั้น 1700, 1710-1720 อ่อนตัวต่ำกว่า 1690 มีแนวรับ 1680, 1670-1660 หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (15-21 พ.ย.) คือ AMATA, RJH สำหรับหุ้นปันผลเด่นเป็น DIF, KKP, SENA, TMT ส่วน Top Picks เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD
หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ TCAP, SCN, M, TFG, TK, PLAT, HTC ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น PTTGC, TTW, NOK, TISCO, SGP, ECL, JMART, SMPC, KKP, ESSO, TCJ ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ BBL, WHA, ERW, BJC หุ้นที่หลุด List เป็น CBG
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปภาษี
# สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
# ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันมีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%
+ สหรัฐ : การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. +0.9% และภาคแรงงานยังแข็งแกร่ง
# ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนต.ค. +0.9%MoM ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่ต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน และยังเป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมสามารถฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มาไปได้
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายสู่ระดับ 249,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดในวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ อย่างไรก็ดีตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 140 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : สภาผู้แทนฯสหรัฐผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษีหนุนดัชนีพุ่ง
# ตลาดได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน และรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,458.36 จุด พุ่งขึ้น 187.08 จุด หรือ +0.80% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,585.64 จุด เพิ่มขึ้น 21.02 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,793.29 จุด เพิ่มขึ้น 87.08 จุด หรือ +1.30%
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 55.14 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 61.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
# นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ที่กรุงเวียนนา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขยายเวลาลดการผลิตออกไปถึงสิ้นปี 61 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดใน 1Q61 ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันลดลง 830,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะลดไป 310,000 บาร์เรล/วัน และราคาน้ำมันจะขยับขึ้นได้
• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ระดับ 1278.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
+ ภาคท่องเที่ยว : เตรียมใช้มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองตลอดปี 61
# พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี บอกถึงมาตรการภาษีสนับสนุนการท่องเที่ยวว่ายังอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับแนวทางการลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยเสนอให้นำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/คน/ปี และขอให้ใช้มาตรการดังกล่าวตลอดทั้งปี 2561
• การเมือง : ปรับครม.ยกแผง…รอสรุปครั้งสุดท้าย 17 พ.ย.นี้
# ล่าสุดมีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะปรับครม.กว่า 10 ตำแหน่งในรอบนี้ โดยตำแหน่งที่ลงตัวแล้ว ได้แก่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ขึ้นเป็นรมว.พาณิชย์ (จากรมช.พาณิชย์), นายยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายลักษณ์ วจนานวัช เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรวม.แรงงาน (จากรมว.เกษตรและสหกรณ์) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรมว.วิทยาศาสตร์ (จากรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) นายสมชาย หาญหิรัญ เป็นรมช.อุตสาหกรรม พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นรมว.คมนาคม และยังมีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์จะควบตำแหน่งรมว.กลาโหมด้วย ขณะที่พล.อ.ประวิตร จะเป็นเฉพาะรองนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งทั้งหมดยังไม่นิ่ง รอสรุปครั้งสุดท้ายในวันที่ 17 พ.ย.นี้ (ที่มา : โพสต์ทูเดย์)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO2515