WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
“เหนือ 1700 ได้...เลือกซื้อ/ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SEAFCO (จากซื้อเป็นถือ), FN (จากถือเป็น Fully Valued)
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET วานนี้ปิด +15.58 จุดที่ 1702.63 หุ้นใหญ่ปรับขึ้น เช่น BBL, KTB, KBANK, IVL, AOT, TOP, PTTGC, CPN, ADVANC, MINT, CPALL สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ 1.4 พันลบ. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.2 พันลบ.
  # สำหรับปัจจัย ต่างประเทศ – ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค.ของสหรัฐขยับขึ้นต่อ (+0.4%MoM) ประธานเฟดสาขาดัลลัสและฟิลาเดลเฟียหนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค.นี้ ซึ่งอยู่ในคาดการณ์ของตลาด ราคาน้ำมันอ่อนลงหลัง IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ลง สวนทางกับกลุ่มโอเปกที่ปรับขึ้นก่อนหน้า ราคาน้ำมันจึงอ่อนลงในช่วงสั้น และอาจกระทบ Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี ส่วนในประเทศ – ขณะนี้ภาครัฐกำลังพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวปี 61 เพิ่มเติมในเบื้องต้นจะให้นำค่าท่องเที่ยวเมืองรองมาลดหย่อนภาษีได้ 3 หมื่นบาท/คน/ปี และ ท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นมาลดหย่อนฯได้ 5 หมื่นบาท/คน/ปี คาดจะสรุปได้ภายใน 1-2 เดือน...เป็นข่าวบวกกับกลุ่มโรงแรม & อาหาร, สนามบิน, สายการบิน ซึ่งหุ้น Top Picks ในกลุ่มเหล่านี้ของ DBSVT เป็น ERW, AOT, AAV
  # ผลประกอบการ 3Q60 : AMATA มีกำไร 587 ลบ. (+220%YoY) ดีกว่าคาด แนวโน้มระยะยาวดีทั้งธุรกิจนิคมฯ สาธารณูปโภคและไฟฟ้า รวมทั้งได้ประโยชน์จากโครงการ EEC แนะนำซื้อ ให้ TP 25.10 บาท), ASIAN กำไร 112 ลบ. (+1,020%YoY, +19%QoQ) นับว่า Turnaround อย่างแข็งแกร่งราคาปัจจุบันมี P/E ปีนี้ 11 เท่า แนะซื้อเก็งกำไร, SPALI มีกำไร 2.1 พันลบ.ดีตามคาด (มีกำไรพิเศษราว 300 ลบ.) แนวโน้มระยะยาวดี ใน 2H61 จะเปิดโครงการ Mixed Use ที่สาทรซึ่งทำเลดี มูลค่า 1.3 หมื่นลบ.เราคาด Core profit จะโต 10-12% ต่อปีในช่วงปี 61-62 แนะซื้อ ให้ TP 27.2 บาท, CPF กำไร 4.9 พันลบ. (-5%YoY, +21%QoQ) แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษ & กำไร FX พบว่า Core Profit เป็น 2.3 พันลบ. (-55%YoY, +7%QoQ) ถือว่าฟื้นช้า และแนวโน้ม 4Q60 ยังไม่ดี ราคาหมู & ไก่ในประเทศอ่อนตัวลง ราคาปัจจุบันเต็มมูลค่าจาก TP 25 บาท
  # หุ้นแนวโน้มดี : PTTGC จะมีกำไร 4Q60 ดีต่อเนื่อง เพราะไม่มีปิดซ่อมบำรุงโรงงาน ส่วนปี 61 มีปิดซ่อมโรงงานเล็กแห่งเดียวใน 4Q61 ราคาผลิตภัณฑ์และสเปรดอยู่ในช่วง Extended Peak จะรับรู้กำไรจาก 6 บ.ที่รับโอนมาจาก PTT เต็มปี โครงการ MAX ช่วยเพิ่มกำไร 6 พันลบ. (จาก 3 พันลบ.ในปีนี้) แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย Consensus 92 บาท ด้าน MTLS คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ NPL ratio ยังต่ำเพียง 1.1% และมีความพร้อมด้านเงินทุนจากเครดิตไลน์ธ.พ.และการออกหุ้นกู้ แนะนำซื้อ ปรับเพิ่ม TP เป็น 52 บาท
  กลยุทธ์ : เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือ 1700 โดยมีแนวต้านระยะสั้น 1710, 1720 อ่อนตัวต่ำกว่า 1700 มีแนวรับ 1690-1680 หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (15-21 พ.ย.) คือ AMATA, RJH ส่วน Top Picks เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD
  หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ BBL, ECL, WHA, JMART, RS, SMPC, ERW ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, AMATAV, PTTGC, TMW, TTW, NOK, TISCO, SGP, CBG ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ ASAP, AMATA, VIH, TFG หุ้นที่หลุด List เป็น PYLON

 

ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นต่อ
  # ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +0.4%MoM ในเดือนต.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาในภาคบริการส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร,พลังงาน และภาคบริการ +0.2%MoM ในเดือนต.ค. ซึ่งเพิ่มเดือนละ 0.2% เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว
• สหรัฐ : ประธานเฟดดัลลัสและฟิลาเดลเฟียหนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.นี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่านายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กำลังพิจารณาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า ขณะที่นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ส่งสัญญาณว่า เขาอาจจะสนับสนุนให้ FOMC ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แม้เขายังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐก็ตาม
-/• ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : พักตัว
  # ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,409.47 จุด ลดลง 30.23 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิด 2,578.87 จุด ลด 5.97 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิด 6,737.87 จุด ลด 19.72 จุด หรือ -0.29%
  # หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงหลัง IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ลง 1 แสนบาร์เรลในปีนี้และปี 61 รวมทั้งกังวลว่ามาตรการลดภาษีของทรัมป์จะล่าช้า
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาร่วงหลัง IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมัน
  # สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันราว 100,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน และ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามลำดับ ซึ่งสวนทางกับกลุ่มโอเปกที่ปรับคาดการณ์อุปสงค์ขึ้น
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ -1.9% ปิดที่ 55.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 95 เซนต์ หรือ -1.5% ปิดที่ 62.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ ภาวะตลาดทองคำ : เงินดอลล์อ่อนหนุนราคาทอง
  # สัญญาทองคำต

ลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1282.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หนุนโดยค่าเงิน US$ ที่อ่อนลง โดยดัชนีดอลลาร์ -0.72% สู่ระดับ 93.812 เมื่อคืนนี้

ปัจจัยในประเทศ และหุ้นเด่น
+ กลุ่มท่องเที่ยว : อาจมีมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวเพิ่มเติม
  # พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.)
เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการท่องเที่ยวร่วมกับกระทรวงการคลังว่าจะเสนอกระทรวงการคลังให้พิจารณาลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวใน 2 แนวทาง คือ
1. การให้นำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในเมืองรองตลอดปี 61 มาลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท และ
2. การให้นำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวนอกฤดูกาลหรือโลว์ซีซั่นมาหักลดหย่อนภาษีได้คนละ 50,000 บาท คาดว่าจะหาข้อสรุปได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อให้ใช้ได้ภายในไตรมาสแรกของปี 61
  # ความเห็น DBSVT : เป็นข่าวบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม & อาหาร สนามบิน และสายการบิน ที่มาตรการจะช่วยกระตุ้นให้มีการใช้บริการและบริโภคเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังเป็นการกระจายรายได้สู่พื้นที่เมืองรองด้วยสำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มเหล่านี้เป็น ERW, AOT, AAV เป็นต้น
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

OO2408

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!